ปัญญาถือสิ่งที่ควร ทิ้งสิ่งที่ไม่ควร
ขณะใดที่รู้ว่าไม่ใช่เรา ไม่ว่าจะเป็นกุศลหรืออกุศล เบาใจกว่าขณะที่กุศลก็เป็นเรา อกุศลก็เป็นเรา มีแต่เรา แต่นี่รู้ว่าไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามชั่วคราวแสนสั้น เกิดแล้วดับแล้วไม่กลับมาอีกเลย แต่ก็สะสมทั้งกุศลและอกุศล เพราะฉะนั้น ปัญญาก็ถือเอาในสิ่งที่ควรและเป็นประโยชน์ ฟังเท่าไหร่ก็ไม่พอ มีความเข้าใจจริงแต่ยังไม่ถึงการประจักษ์แจ้งความจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงหนทางที่จะทำให้รู้ความจริง คือ ไม่เดือดร้อนเพราะปัญญาสามารถรู้ว่าขณะนั้นมีจริงๆ ชั่วคราว เป็นลักษณะธรรมะแต่ละอย่างๆ จนกว่าจะเป็นความชัดเจนว่าอย่างนั้นไม่ใช่เรา
ฟังธรรมจนกว่ารู้ว่าทุกอย่างเป็นธรรมะไม่ใช่เรา มีสิ่งที่เกิดแล้วแต่ไม่เข้าใจ ก็ฟังจนกว่าจะเข้าใจ
ฟังธรรมเพื่อเข้าใจความเป็นจริง ฟังจนสะสมในจิต จนคิดก็คิดเป็นเรื่องธรรมะ จนเข้าใจธรรมะที่ปรากฏ เพราะปรากฏกับความไม่รู้มาแสนนาน
กราบบูชาคุณท่านอ. สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ