พระภิกษุรับเงินจากรัฐ แล้วนำไปให้มารดา
ผมได้มีโอกาสไปงานศพ ที่วัดแห่งหนึ่ง เขตปริมณฑล และก็มีความศรัทธาอยู่บ้างในวัดนี้ วัดนี้จะมีพระเทศน์ก่อนสวด มีข้อความอยู่ตอนหนึ่งที่พระได้บรรยายว่า มีพระอยู่รูปหนึ่งคิดจะตอบแทนบุญคุณของมารดา ได้อย่างไร ก็มีความคิดว่า เราจะเรียนให้ได้ เปรียญ ๙ ประโยค เมื่อจบแล้ว ก็จะได้รับเงินเดือนจากรัฐ ก็จะเอาเงินก้อนนั้นทั้งหมด ให้มารดาไป ก็เป็นการตอบแทนบุญคุณได้ ถือว่าไม่ผิดพระธรรมวินัย ผมก็เลยสงสัยอยู่เหมือนกันว่า พระท่านเทศน์แบบนี้ ทำให้สับสนไปหมดว่าผิดหรือไม่พระธรรมวินัยครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ทำผิดพระวินัย ไม่ใช่จุดประสงค์ของการบวช ไม่ใช่การตอบแทนพระคุณของมารดาบิดา เลย พระภิกษุที่มีคำพูดหรือเทศนาออกไปอย่างนั้นตามที่ปรากฏในคำถาม ก็คือ กล่าวคลาดเคลื่อนจากพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นโทษกับตนเอง และ ยังทำให้คนอื่นเข้าใจผิดไปด้วย เป็นโทษกับคนอื่นอีกด้วย เพราะฉะนั้นแล้ว จึงต้องตั้งต้นว่า ภิกษุคือใคร บวชคืออะไร
ภิกษุ คือ ผู้ที่เห็นโทษเห็นภัยของกิเลส มีความละอายต่ออกุศลยิ่งกว่าคฤหัสถ์ จึงสละอาคารบ้านเรือน ทรัพย์สมบัติ วงศาคณาญาติ เพื่อศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสในเพศที่สูงยิ่ง มีความประพฤติคล้อยตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขัดเกลากิเลสตั้งแต่ตื่นจนหลับ ดังนั้น สิ่งใดก็ตามที่จะทำให้เกิดอกุศลพอกพูนมากยิ่งขึ้น ไม่ได้เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเอง สิ่งนั้นพระภิกษุทำไม่ได้ อย่างเช่น รับเงินและทอง ยินดีในเงินและทอง เป็นต้น
บวชเป็นการสละ กล่าวคือ สละเพศคฤหัสถ์ทั่วหมดทุกอย่าง จะมีกาย วาจาอย่างคฤหัสถ์อีกต่อไปไม่ได้
ถ้าประสงค์จะได้เงิน เพื่อนำไปเลี้ยงดูมารดาบิดา เป็นคฤหัสถ์ ทำงานหาเงิน ก็เป็นสิ่งที่กระทำได้ในฐานะของคฤหัสถ์ สะดวกสบาย ไม่ต้องทำผิดพระวินัยเลยเพราะไม่ได้เป็นพระภิกษุ เพราะฉะนั้น แล้ว ภิกษุใด มีความประสงค์ที่จะมีชีวิตเหมือนอย่างคฤหัสถ์ มีเงินทองเหมือนอย่างคฤหัสถ์ ภิกษุนั้น ไม่ใช่ภิกษุในพระธรรมวินัย ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...