หน้าที่ชาวพุทธ
ไม่ใช่เชื่อเครื่องรางของขลังลูกประคำ ไม่ศึกษาพระธรรมพระพุทธเจ้า
สำหรับหน้าที่ของชาวพุทธมีมาก อย่าคิดว่าเป็นชาวพุทธแล้วอยู่เฉยๆ ถ้าอยู่เฉยๆ แล้วจะเป็นชาวพุทธได้อย่างไร ก็เป็นคนธรรมดา แต่ถ้าใช้คำว่า “ชาวพุทธ” หมายความว่า คนนั้นต้องเข้าใจคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงนับถือ และเข้าใจ และเรียกตัวเองว่า “ชาวพุทธ” มิฉะนั้นแล้วจะเป็นชาวพุทธโดยไม่เข้าใจพระธรรม ไม่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อย่างไร ก็เป็นชาวพุทธโมฆะ ว่างเปล่า ไม่ได้ประโยชน์เลย และไม่ถูกต้องด้วย เพราะว่าประเทศมีผู้นับถือพระพุทธศาสนามาก แล้วทุกคนก็เป็นชาวพุทธ แต่พฤติกรรม ความประพฤติทั้งหลายไม่ถูกต้อง และไม่เป็นไปในทางกุศล เป็นชาวพุทธหรือเปล่า อายไหม ถ้าคนอื่นจะบอกว่า นี่คือการกระทำของชาวพุทธ
ด้วยเหตุนี้ชาวพุทธที่กล่าวว่ามีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ถ้าตรงและจริงใจต้องศึกษาพระธรรม เพื่อรู้ว่า พระปัญญาคุณนั้นทรงตรัสรู้อะไร เพราะทุกคนรู้ว่า ที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ไม่ใช่เกิดมาในวงศ์ศากยะ แต่ต้องพระปัญญาคุณ ตอนเป็นเจ้าชายสิทธัตถะไม่ใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย แต่เมื่อทรงตรัสรู้ความจริงของสภาพธรรมะแล้ว ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงพระนามได้ เพราะเป็นพระคุณนาม ด้วยพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ พระมหากรุณาคุณถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหนือบุคคลใดทั้งสิ้นในจักรวาล แม้แต่เทวดาก็ยังมาเฝ้า มากราบทูลถาม พรหมที่เป็นภูมิที่สูงกว่าเทพในชั้นกามาวจรก็ยังต้องมาเฝ้ากราบทูลถาม แสดงให้เห็นว่า ไม่มีใครในจักรวาลใดๆ ทั้งสิ้นที่จะมีปัญญาเสมอเหมือนด้วยพระองค์ แล้วเราได้ยินชื่อนี้ มีโอกาสได้ฟัง เพราะพระไตรปิฎกยังอยู่ครบถ้วน แต่ไม่ใช่สำหรับอ่าน แต่สำหรับศึกษาโดยละเอียดด้วยความเคารพอย่างยิ่งในความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ ศึกษาแต่ละคำให้เข้าใจจริงๆ เมื่อนั้นก็จะชื่อว่า เป็นชาวพุทธที่มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง เป็นคุณธรรมซึ่งถ้าทุกคนเป็นอย่างนี้ทั้งประเทศ ไม่มีปัญหาเลย ไม่เดือดร้อน มีแต่ความสงบ เพราะเป็นกุศล แต่ทั้งหมดที่วุ่นวาย ไม่สงบ เพราะอกุศล และอกุศลทั้งหลายจะค่อยๆ ละ ลดลงไปได้อย่างไร ถ้าไม่มีปัญญา ละไม่ได้เลย แม้แต่กุศล อกุศลก็ไม่รู้จักว่าคืออะไร
ก็เป็นโอกาสที่เกิดมาชาติหนึ่งได้ฟังธรรมะ ได้สะสมความเข้าใจเพื่อเป็นคนดียิ่งขึ้น แล้วไม่เป็นโทษเป็นภัยกับใครแม้แต่กับตนเอง