ในมิคสาลาสูตร รู้ชัดเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุต เป็นอย่างไร
สงสัยว่า รู้ชัดเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ
ในศีล ทุศีล ในราคะกล้า มักโกรธ ฟุ้งซ่าน เป็นอย่างไรครับ
และในพระสูตรที่พระองค์ตรัสว่า
ไปทางเจริญ ไม่ไปทางเสื่อม หลังจากเสียชีวิตแล้ว สงสัยว่า ต้องได้อริยบุคคลแล้ว ก่อนตาย ใช่หรือไม่ ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
-พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกโดยตลอด เพราะแสดงถึงสิ่งที่มีจริงๆ แม้แต่ ศีล คือ ความประพฤติเป็นไปของจิต ในพระสูตรนี้มุ่งหมายถึง กุศลศีล ความประพฤติเป็นไปที่ดีงาม ซึ่งตรงกันข้ามกับ ทุศีล คือ ไม่มีศีล เป็นความประพฤติที่ไม่ดี เพราะอกุศลธรรมเกิดขึ้นเป็นไป, ราคะกล้า ก็แสดงถึงความติดข้องที่มีกำลัง มักโกรธ ก็แสดงถึงความเกิดขึ้นเป็นไปของโทสะ ฟุ้งซ่าน ก็เป็นอกุศลธรรมที่เป็นความไม่สงบ เกิดขึ้นเมื่อใด ก็ไม่สงบ ทั้งหมดทั้งปวงนั้น ปัญญา สามารถเข้าใจถูกเห็นถูกตรงตามความเป็นจริงได้ ว่าเป็นธรรม และเมื่อปัญญาเจริญขึ้นก็สามารถดับกิเลสอกุศลธรรมทั้งหลายได้ตามลำดับขั้น ครับ
-เจโตวิมุตติ ในอรรถกถามิคสาลาสูตร แสดงไว้ว่า เป็นสมาธิในผลจิต ส่วนปัญญาวิมุตติ เป็นญาณหรือปัญญาในผลจิต
-และในพระสูตรที่พระองค์ตรัสว่า
ไปทางเจริญ ไม่ไปทางเสื่อม หลังจากเสียชีวิตแล้ว สงสัยว่า ต้องได้อริยะบุคคลแล้ว ก่อนตาย ใช่หรือไม่?
ผู้ที่ไปทางเจริญ ไม่ไปทางเสื่อมจริงๆ คือ พระอริยบุคคล ได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคลก่อนตาย นั้น ถูกต้องแล้ว ตามข้อความในมิคสาลาสูตรที่ว่า " เมื่อตายไป เขาย่อมไป
ทางเจริญ ไม่ไปทางเสื่อม ย่อมถึงความเจริญอย่างเดียว ไม่ถึงความเสื่อม" ครับ
ขอเชิญศึกษารายละเอียดโดยตรงจากมิคสาลาสูตร ได้ ครับ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ หน้าที่ ๒๓๕
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...