ไปสะเดาะเคราะห์เพราะความไม่รู้

 
sutta
วันที่  7 ก.ย. 2561
หมายเลข  30058
อ่าน  1,511

วันนี้ยังไม่มีใครมีทุกข์ที่จะต้องสะเดาะเคราะห์ใช่ไหม แต่กุศลจิตก็เกิดได้ ทำไมเราจะไปทำบุญตอนที่เรามีเคราะห์กรรม และก็หวังว่าบุญนั้นจะทำให้เคราะห์กรรมอันนั้นหมดไป แม้ในขณะนี้หรือเมื่อไหร่ก็ตามแต่ที่กุศลจิตเกิดก็เป็นกุศลที่เราจะกระทำทางกายบ้าง ทางวาจาบ้าง ทางวัตถุต่างๆ บ้าง ก็กระทำได้ ไม่ต้องไปคิดว่าพอมีเคราะห์กรรมแล้วจะต้องไปสะเดาะหรือว่าจะไปทำบุญเพราะอย่างนั้น ซึ่งจริงๆ แล้วถ้ากรรมที่ได้ทำมามากมายมหาศาล แล้วเราก็ไปปล่อยนก ๗ ตัว แค่นั้นพ้นไหมจากกรรมที่ได้กระทำไว้มากมาย นี่ก็แสดงให้เห็นว่าถ้าเป็นผู้ที่มั่นคงจริงๆ ในเรื่องกรรมและผลของกรรม กุศลจิตย่อมเกิดมากไม่หวั่นไหว แม้ว่าจะได้ลาภหรือว่าเสื่อมลาภก็ตามแต่ไม่ใช่พอได้ลาภก็ไม่ต้องสะเดาะ ไม่ต้องทำกุศล หรือว่าพอมีเคราะห์ก็ต้องไปสะเดาะหรือว่าทำกุศล อันนั้นไม่ใช่สิ่งที่เป็นความจริง เพราะเหตุว่าเราไปคิดว่าการกระทำเล็กๆ น้อยๆ นั้นจะทำให้ผลของกรรมที่ได้กระทำแล้วหมดไปได้ แต่ว่าตามความเป็นจริงเวลาที่เราบอกว่าผู้ที่มั่นคงในกรรมและผลของกรรมต้องไม่ใช่เพียงเรื่องราว ต้องสามารถที่จะรู้ถึงเหตุที่จะให้เกิดวิบากคือกรรม แล้วก็กุศลจิตและอกุศลจิตด้วย


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
panasda
วันที่ 7 ก.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Selaruck
วันที่ 7 ก.ย. 2561

จริงและตรงที่สุด

กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ที่เคารพ และกราบอนุโมทนาธรรมที่แสดงค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ROBOT
วันที่ 7 ก.ย. 2561

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nualchan.deesawat
วันที่ 8 ก.ย. 2561

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

กราบท่านอาจารย์สุจินต์ด้วยตวามเคารพอย่างสูง

กราบอนุโมทนาในคำบรรยายนี้และเห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
MamKatarin
วันที่ 9 ก.ย. 2561

กราบขอบพระคุณคะ อาจารย์

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 25 ก.ค. 2563

กราบบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ