ใส่บาตรกับพระทุศีล
เรียน ท่านวิทยากร
ถ้าจำเป็นต้องใส่บาตรกับพระ (ทุศีล) โดยขณะใส่จิตน้อมถึงพระอริยะสงฆ์ ซึ่งขณะยื่นมือใส่ก็พิจารณาเป็นเพียงวาโยธาตุอันเกิดแต่จิตไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคล โดยจิตขณะนั้นไม่ได้ทำกับพระทุศีล ถึงแม้จะรู้ว่าผู้ที่มารับบาตรจะเป็นพระทุศีลก็ตาม อย่างนี้จะเป็นสังฆทานหรือไม่ เหตุที่ต้องเรียนถามเพราะบางทีการใส่บาตรอาจมีเหตุปัจจัยต้องทำโดยไม่สามารถเลี่ยงได้
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ก่อนอื่นต้องเป็นผู้ที่มีความเข้าใจว่า สังฆทาน คือ อะไร? มาจากคำสองคำรวมกัน คือ สังฆะ (หมายถึงหมู่ คือ หมู่ของพระอริยบุคคล ๔ จำพวก, และยังหมายถึงหมู่ของภิกษุที่ได้รับการอุปสมบทอย่างถูกต้องตามพระวินัย ด้วย) + ทาน (เจตนาเป็นเครื่องสละหรือบริจาค และยังหมายถึงไทยธรรม คือ วัตถุที่จะพึงถวายด้วย) ดังนั้น สังฆทาน จึงเป็นการถวายไทยธรรมมุ่งตรงต่อสงฆ์ (มุ่งตรงต่อพระอริยสงฆ์) โดยไม่มีการเจาะจง
สำคัญที่ความเข้าใจถูกตั้งแต่ต้นว่า สังฆทาน คือ อะไร อยู่ที่วัตถุสิ่งของ หรือไม่ หรืออยู่ที่สภาพจิตเป็นสำคัญ สังฆทาน หมายถึง ทานที่ถวายสงฆ์ คือ หมู่ของพระอริยสงฆ์ ไม่ใช่การถวายภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ผู้ถวายต้องเข้าใจในความหมายคำว่า หมู่ของอริยสงฆ์ และของที่จะถวายนั้น ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นถังสีเหลือง แต่จิตของผู้ถวายน้อมบูชาคุณของพระอริยสงฆ์ จิตไม่หวั่นไหว คือ ไม่เลือกภิกษุผู้รับทาน สรุปคือถ้าไม่เข้าใจสังฆทาน ไม่เข้าใจอริยสงฆ์ หรือเลือกผู้รับทานมีจิตหวั่นไหวในผู้รับ ไม่เป็นสังฆทาน ส่วนจำนวนของพระภิกษุที่รับทาน แม้ภิกษุรูปเดียว ที่เป็นตัวแทนของสงฆ์ก็เป็นสังฆทาน วัตถุที่ถวายจะต้องเป็นวัตถุที่เหมาะควรแก่เพศบรรพชิตเท่านั้น ครับ
ดังนั้นไม่ควรถวายเงินและทอง และ ควรถวายของที่เหมาะสม กับพระภิกษุ ที่ไม่ใช่อยู่ในถังเหลืองที่เป็นถังเวียนสังฆทาน ควรถวายสิ่งที่เหมาะสม มี บริขารแปด เป็นต้น ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อที่ควรจะได้พิจารณาว่า สังฆทาน เป็นการถวายไทยธรรมมุ่งตรงต่อสงฆ์ โดยไม่มีการเจาะจง ซึ่งไม่ได้หมายถึงเพียงอาหารอย่างเดียวเท่านั้นยังหมายรวมถึงปัจจัยเป็นเครื่องอาศัยของบรรพชิตประการอื่นๆ ด้วย เช่น จีวร ยารักษาโรค เป็นต้น ทั้งหมดมุ่งตรงต่อสงฆ์ จุดประสงค์ของการถวายสังฆทาน เพื่อขัดเกลากิเลสของตนเอง ขัดเกลาความตระหนี่และอกุศลธรรมประการอื่นๆ ถ้าเป็นความต้องการที่จะได้ผลมากจากการถวายสังฆทาน นั่นไม่ใช่สังฆทาน เพราะการถวายสังฆทาน เป็นการให้ทานมุ่งตรงต่อพระอริยสงฆ์ แสดงถึงจิตใจที่อ่อนโยนประกอบด้วยความนอบน้อมเคารพยำเกรง ต่อสงฆ์เป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าจะไม่้ได้เป็นผู้ถวายสังฆทาน แต่ในชีวิตประจำวัน ถ้าเป็นผู้เจริญกุศลประการต่างๆ เท่าที่จะเป็นไปได้ ตามกำลังความสามารถของตน ย่อมเป็นสิ่งที่สมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง สะสมปัญญาไปตามลำดับ ถ้าเริ่มเข้าใจพระธรรมไปตามลำดับแล้ว การเจริญกุศลทั้งหลายในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของทาน (การให้ สละวัตถุสิ่งของ เพื่อประโยชน์สุขของบุคคลอื่น อันเป็นการสละซึ่งความตระหนี่) ในเรื่องของศีล (งดเว้นจากทุจริตกรรมประการต่างๆ และประพฤติในสิ่งทีดีงาม) ในเรื่องของภาวนา (การอบรมเจริญความสงบของจิต และการอบรมเจริญปัญญาที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง) ย่อมเป็นไปเพื่อการขัดเกลากิเลสของตนทั้งสิ้น ครับ.
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...