ต้องอาบัติแล้วลาสิกขาไปก่อน จะได้รับผลกรรมจากการละเมิดพระวินัยหรือไม่
ในกรณีที่มีคนเคยบวชและต้องอาบัติชนิดเบา (ปาจิตตีย์,ทุกกฏ) ไปแล้ว แต่ลาสิกขาออกไปเป็นฆราวาสเสียก่อน ทั้งที่ยังไม่ได้ทำการแสดงอาบัติ ผมอยากทราบว่าถ้าสึกออกไปแล้ว อาบัติที่เป็นตัวอันตรายต่อการไปสู่สุคติและนิพพานจะยังมีอยู่หรือไม่ ถ้าไม่มี เขาจะได้รับผลกรรมอันเกิดจากการละเมิดพระวินัยซึ่งทำให้ไม่ไปสู่สุคติและนิพพานด้วยหรือไม่ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระวินัยบัญญัติแต่ละสิกขาบท พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติด้วยพระองค์เอง เพื่อให้พระภิกษุได้สำรวมระวัง ไม่ล่วงละเมิดในสิกขาบทนั้นๆ อันจะเป็นไปเพื่อฝึกหัดกาย วาจา ใจ ให้เป็นไปในทางที่ถูกที่ควร เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส ถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว โอกาสที่จะล่วงละเมิดสิกขาบท ก็ย่อมจะมีได้มาก ไม่ว่าจะเป็นอาบัติหนักหรือเบา ถ้าไม่ได้แก้ไขให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยแล้ว ย่อมมีโทษแก่ภิกษุรูปนั้น เป็นเครื่องกั้นในการบรรลุมรรคผลนิพพาน และถ้ามรณภาพในขณะที่ยังมีอาบัติอยู่ ก็เป็นผู้มีอบายภูมิเป็นที่ไปในเบื้องหน้า แต่ถ้าได้แก้ไขให้ถูกต้องแล้ว ย่อมไม่เป็นเครื่องกั้น
เมื่อลาสิกขาแล้ว ย่อมไม่มีอาบัติอีกต่อไป ซึ่งควรที่จะได้เข้าใจว่า อาบัติ ใช้เฉพาะเพศบรรพชิตเท่านั้น เมื่อภิกษุลาสิกขาออกมาเป็นคฤหัสถ์แล้ว ก็ไม่มีอาบัติและไม่มีกิจที่จะต้องไปปลงอาบัติ แต่การล่วงละเมิดสิกขาบทในขณะที่เป็นภิกษุ บางสิกขาบท เป็นอกุศลกรรมบถ เช่น ฆ่าสัตว์ ลักขโมย พูดเท็จ เป็นต้น แม้ว่าจะลาสิกขาไปแล้ว อกุศลกรรมที่กระทำไว้ไม่หายไปไหน คือ ย่อมมีผล เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม สามารถให้ผล ได้ ใครก็ยับยั้งไม่ได้
สิ่งที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป เมื่อลาสิกขาออกมาเป็นคฤหัสถ์แล้ว ย่อมไม่มีอาบัติเป็นเครื่องกั้นการบรรลุ มรรคผล นิพพาน ก็สามารถเป็นคนดี ในเพศคฤหัสถ์ได้ โดยไม่ต้องวิตกกังวลในเรื่องอาบัติเพราะเป็นคฤหัสถ์แล้ว ไม่มีอาบัติ ไม่ใช่เพศบรรพชิตอีกต่อไป ก็ควรที่จะเป็นคนดี และฟังพระธรรมให้เข้าใจ เพราะสิ่งนี้ คือ เหตุที่สำคัญที่จะนำไปสู่ความเจริญอย่างแท้จริง ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...