สิ่งที่ควรทำระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

 
khampan.a
วันที่  4 ธ.ค. 2561
หมายเลข  30289
อ่าน  2,792

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ประมวลสาระสำคัญ

จากการสนทนาธรรม

ที่คณะวนศาสตร์

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

วันอังคารที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๑

~ เป็นสิ่งที่น้อยคนจะคิด ว่า พระพุทธศาสนาที่ทุกคนนับถือสูงสุด (แต่ละคน) เข้าใจแค่ไหน?

~ สิ่งที่กำลังมีตั้งแต่เกิดจนตายทุกขณะ ไม่มีใครสามารถที่จะรู้ได้ จนกว่าจะได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยความเคารพในการตรัสรู้ที่พระองค์ทรงบำเพ็ญพระบารมี (คุณความดีที่จะทำให้ถึงฝั่งของการดับกิเลส) ที่จะให้คนอื่นหลังจากที่พระองค์ได้ทรงตรัสรู้แล้วได้เข้าใจคำของพระองค์ เพราะว่า ถ้าไม่มีการฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีใครสามารถที่จะเข้าใจอะไรที่กำลังปรากฏในขณะนี้ได้เลย

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระคุณที่ตรัสคำที่คนอื่นไม่สามารถที่จะรู้ได้ด้วยตัวเอง และเมื่อได้ฟังแล้ว ก็จะรู้ได้จริงๆ ว่าเป็นคำที่ลึกซึ้งอย่างยิ่ง มิฉะนั้นแล้ว พระองค์ก็จะไม่ทรงบำเพ็ญพระบารมีนานมากกว่าจะได้รู้ความจริง

~ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง กล่าวถึงสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ทั้งหมด ทุกสมัย เปลี่ยนไม่ได้เลย

~ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม จะพ้นจากธรรมที่เป็นกุศล ธรรมที่เป็นอกุศล และธรรมที่ไม่ใช่ทั้งกุศลไม่ใช่ทั้งอกุศล ไม่ได้

~ ธรรมที่ไม่ใช่กุศลและไม่ใช่อกุศล มีจริงๆ ใครรู้บ้าง เดี๋ยวนี้ก็มี เช่น แข็ง เป็นรูปธรรม ไม่ใช่สภาพรู้ ไม่ใช่ธาตุรู้ จึงเป็นกุศล ไม่ได้ เป็นอกุศล ไม่ได้

~ ที่สำคัญที่สุด ถ้ารู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยการฟังคำของพระองค์ด้วยความเคารพแล้วค่อยๆ เห็นความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้ไม่ไปสังเวชนียสถาน ก็เป็นบุญ

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงพระธรรม เพื่อให้คนสวดพูดตามโดยไม่เข้าใจ หรือว่า ทรงแสดงพระธรรมเพื่อให้คนฟังเข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริง? เพราะฉะนั้น ควรที่จะได้เข้าใจด้วย ว่า จะพูดคำที่ไม่รู้จัก แล้วก็เสียเวลาเป็นชั่วโมง กับ การที่เวลาหนึ่งชั่วโมง จะฟังพระธรรมให้เข้าใจ อะไรจะเป็นประโยชน์กว่ากัน? ก็จะต้องเป็นผู้ตรง

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงให้รู้ความจริงว่า แท้ที่จริงแล้ว สิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ตามที่ปรากฏในขณะนี้ เกิดแล้วก็ดับ ไม่เหลือเลยทุกขณะ

~ ปัญญา คือ ความเห็นถูกต้องตรงตามความเป็นจริงของสิ่งที่มีจริง

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแยกทุกสิ่งทุกอย่างละเอียดอย่างยิ่งสุดที่จะประมาณได้ นี่คือ พระปัญญาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อให้รู้ว่า แท้ที่จริงแล้ว ทั้งหมดที่ว่าเป็นเรา ก็คือ ธรรม ทั้งนามธรรม (สภาพรู้ ธาตุรู้) และรูปธรรม (สภาพธรรมที่ไม่รู้อะไรเลย) หลากหลายมาก นี่คือ ปัญญาความเห็นที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น เข้าใจสิ่งที่กำลังมีเมื่อไหร่ นั่นคือ ปัญญา

~ การเข้าใจธรรม จะทำให้เป็นผู้ที่ตรง คือ สัจจบารมี ที่จะทำให้สามารถตรงต่อความจริงที่จะเห็นถูกต้องในสิ่งที่กำลังปรากฏได้

~ เราจะเอากรรมของเราที่ได้กระทำแล้ว ไปให้คนอื่นรับผล เป็นไปไม่ได้เลย ด้วยเหตุนี้ คำพูดที่มักจะมีผู้กล่าว คือ ทำไมถึงต้องเป็นเรา สงสัยเหลือเกิน แต่คำตอบ ก็คือว่า เพราะต้องเป็นเรา ตามกรรมที่ได้กระทำแล้ว

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้เหตุและผลซึ่งเป็นสภาพธรรมทั้งหมด ตรงตามความเป็นจริง ซึ่งละเอียดยิ่ง ได้ฟังแล้ว ก็รู้ว่า ไม่มีเรา แต่มีธรรมซึ่งเป็นเหตุและเป็นผล

~ เวลาที่ลูกป่วย มารดาอยากจะป่วยแทนลูกได้ไหม ไม่ว่าสมัยไหน หรือ มารดาป่วย ลูกอยากจะป่วยแทนได้ไหม ไม่ว่าในสมัยไหน ก็ไม่ได้เลย นี่ก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นจริง ว่า ธรรมเป็นธรรม ละเอียดมาก หลากหลายมาก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม ๔๕ พรรษา เพื่อที่จะให้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีในชีวิตประจำวัน ตามความเป็นจริง ซึ่งก่อนหน้านั้นที่ไม่ได้ฟังธรรม ก็ไม่รู้เลยจริงๆ ความไม่รู้ ก็มีจริง เป็นธรรม คือ อวิชชา

~ ความเข้าใจความเป็นจริงของธรรม ก็จะนำไปสู่กุศลทั้งปวง ไม่รั้งรอโอกาสด้วย เพราะใครจะรู้ว่าจะจากโลกนี้ไปวันไหน เดี๋ยวนี้ก็ได้ เย็นนี้ก็ได้

~ เกิดแล้วตายเป็นของธรรมดา แต่ว่าถ้าไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ก็มีแต่ความไม่รู้ มีแต่ความเห็นแก่ตัว และมีแต่การทำสิ่งใดๆ ก็ได้ที่ให้ได้มาซึ่งความสุขส่วนตัว ไม่คิดแม้จะสละเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นคนที่มีปัญญา เศษกระดาษตก เก็บไหม? ใครทำตกก็ไม่เป็นไร ช่วยให้สะอาดขึ้นไหมแค่กระดาษชิ้นเดียว ถ้าทุกคนเก็บ แค่นี้ทำไม่ได้หรือ? เห็นไหมความเห็นแก่ตัวอย่างยิ่ง กับ การที่สามารถจะรู้ว่าโอกาสที่จะทำความดีหายาก เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะทำความดีเมื่อไหร่ ถ้าไม่ทำ ขณะนั้น ก็เป็นอกุศล ก็สะสมอกุศลต่อไป

~ ถ้าเป็นคนที่มีความรู้ความเข้าใจและเห็นโทษของความไม่รู้ ก็จะเริ่มเข้าใจความจริง และปัญญาก็จะค่อยๆ ละความไม่รู้ จนกระทั่งสามารถที่จะละความเห็นแก่ตัวเพราะรู้ว่าไม่มีตัว เพราะฉะนั้น ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่า ความไม่ดีทั้งหมด เป็นอกุศล มาจากความไม่รู้และการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเรา แต่ความจริง เราอยู่ได้กี่วัน วันไหนจะไม่ใช่เราอีก (ตาย) แน่นอน แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ควรทำระหว่างที่มีชีวิต ก็คือ เข้าใจพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อันเป็นเหตุที่จะทำให้มีความประพฤติที่ดีและค่อยๆ ละความเข้าใจ (ผิด) ว่ามีเราซึ่งทำให้เกิดความเห็นแก่ตัว ก็จะหมดปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องตัดต้นไม้ทำลายป่า หรือว่าทุจริตต่างๆ ในทุกวงการ

~ สิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่สุด คือ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ จากการที่ไม่เคยรู้เลยว่าขณะนี้ สิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ กำลังเกิดดับ ก็มีความเข้าใจขึ้น ทีละเล็กทีละน้อย

~ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็เป็นอนัตตา (ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น) ไม่มีใครสามารถที่จะรู้ล่วงหน้าได้เลยจริงๆ ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่มีความเข้าใจว่า ไม่ใช่เรา แต่เป็นธรรม คือ สิ่งที่มีจริง แต่ละหนึ่งๆ

~ ไม่มีใครสามารถที่จะทำให้สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป เป็นไปอย่างที่ต้องการได้เลย

~ มีเหตุที่จะทำให้เกิดสิ่งนั้น สิ่งนั้นจึงเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้น ผู้ที่เข้าใจในเหตุในผล จะไม่ใช่ผู้ที่งมงาย

~ ชีวิตก็สั้นมาก ไม่รู้ว่าใครจะอยู่ต่อไปอีกนานเท่าไหร่ แต่ว่าลองพิจารณา จะอยู่ในโลกนี้ไม่นานแล้วก็จากไป ระหว่างที่ยังมีชีวิต จะเป็นคนแบบไหน? มีวิชาความรู้มาก มีเงินทองทรัพย์สินมาก แต่เป็นคนเลว ไม่มีใครชอบเลย เห็นแก่ตัวประทุษร้ายคนอื่น เบียดเบียนคนอื่น กับ ผู้ที่เป็นคนดี? เพราะฉะนั้น ถึงแม้ว่า จะมีความรู้มีเงินทอง มีทรัพย์สินมาก แต่เป็นคนเลว ก็ไม่เป็นสิ่งที่จะเป็นประโยชน์แก่ใครๆ เลยทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น เมื่อจะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกต่อไป สมควรอย่างยิ่งที่จะรู้ว่า คนดี จะดีขึ้นได้เมื่อได้มีความเข้าใจธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว มิฉะนั้นแล้ว คำของพระองค์ก็ไม่มีประโยชน์ ทรงบำเพ็ญพระบารมีตรัสรู้มา แต่ว่าไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครศึกษา แต่ว่าผู้ที่จะได้รับประโยชน์อย่างยิ่ง คือ ผู้ที่รู้ว่าจะอยู่ในโลกนี้อีกไม่นาน แล้วระหว่างทรัพย์สินเงินทองวิชาความรู้ต่างๆ กับ ความเป็นคนดีขึ้น ละชั่ว อย่างไหนจะดีกว่ากัน.

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
panasda
วันที่ 4 ธ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 5 ธ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
mammam929
วันที่ 5 ธ.ค. 2561

กราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง

กราบอนุโมทนากุศลจิตทุกขณะที่ความเข้าใจพระสัทธรรมเกิดขึ้นเกื้อกูลให้ปัญญาปรากฏ

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาผู้จัดสนทนาธรรมและผู้เกี่ยวข้องทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
พรพรรณ
วันที่ 5 ธ.ค. 2561

กราบเท้าท่านอาจารย์ ขออนุโมทนาบุญสาธุๆ คะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 17 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ