เป็นเพียงแค่สิ่งที่ปรากฏ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมโดยละเอียดเพื่อให้เข้าใจว่าทุกอย่างเป็นธรรมะไม่ใช่เรา มั่นคงขึ้นๆ มิเช่นนั้นก็มีเราจะไปทำ มีเราจะไปรู้ก็ผิดแล้ว
กิเลสมีหลายระดับขั้น ปัญญามีหลายระดับขั้น ทุกอย่างที่มีมีหลายระดับขั้น กิเลสไม่ใช่เพิ่งมีวันนี้ มีมานานเท่าไหร่แล้ว..นับไม่ได้เลยและเพิ่มพูนขึ้นทุกขณะที่ไม่รู้ความจริง ขณะใดก็ตามที่ไม่ได้เข้าใจธรรมะขณะนั้นกิเลสก็เพิ่มขึ้น
กิเลสคือสภาพธรรมที่ไม่งามคืออกุศลเจตสิกทั้งหมดมี ๑๔ ประเภท โสภณเจตสิกมี ๒๕ ประเภท มากกว่าอกุศลเจตสิกแต่เกิดไม่บ่อย
ขณะนอนหลับก็มีกิเลส ถ้าตอนหลับไม่มีกิเลสตอนตื่นจะมีหรือ!!!
เพราะสะสมอกุศลมานานมาก จะให้หมดกิเลสทันทีเป็นไปไม่ได้ ต้องสะสมความเข้าใจ ค่อยๆ เข้าใจทีละเล็กทีละน้อย
จากปุถุชนผู้หนาแน่นด้วยความไม่รู้และกิเลสมากมายในสังสารวัฏฏ์ สามารถที่จะเห็นสภาพธรรมะถูกต้อง ไม่มีสงสัยอีกต่อไปเลยว่า ขณะนี้เป็นสิ่งที่ปรากฏทางตา จริง ถ้าไม่เห็นไม่มีสิ่งที่กำลังปรากฏ ลงไปถึงใจระดับไหน กว่าจะลงไปๆ จนกระทั่งแน่แท้เลยว่าสิ่งนี้หรือที่เราติดข้องมากมายก็แค่ปรากฏ ถ้าไม่เกิดไม่มี ถึงมีถ้าไม่เห็นก็ไม่ปรากฏ เพราะฉะนั้นปรากฏเพียงแค่เมื่อเห็น
แต่ละคำลึกลงไป ปรากฏเพียงแค่เมื่อเห็น ที่เห็นเราจะไม่ประจักษ์การเกิดดับเลยเพราะสืบต่อเร็วสุดที่จะประมาณได้จนปรากฏเป็นนิมิต รูปร่างต่างๆ ยับยั้งไม่ให้เห็นนิมิตไม่ได้เลย แสดงความรวดเร็วที่ยากจะหยั่งรู้ได้ เพราะฉะนั้นปัญญาที่สามารถหยั่งรู้โดยแยกรูปแต่ละรูปซึ่งต่างกันเป็น ๑๘ รูปได้นั้นเป็นปัญญาระดับไหน
ถ้าไม่ได้มีการฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลยจะมีปัญญานี้ได้หรือ ไม่มีทาง .. เป็นไปไม่ได้เลย
คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำวันหนึ่งเมื่อมีความเข้าใจเพิ่มขึ้น สิ่งที่ปิดบังคือความไม่รู้ก็จะค่อยๆ ลดลง เพราะรู้ว่า เป็นเพียงแค่สิ่งที่ปรากฏ
กราบบูชาคุณและอนุโมทนาท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์