ที่พึ่งของผู้ที่เกิดมาในสังสารวัฏฏ์

 
khampan.a
วันที่  11 ม.ค. 2562
หมายเลข  30380
อ่าน  1,881

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น



ประมวลสาระสำคัญ

จากการสนทนาพิเศษ เรื่อง

บ้าน - วัด - ราชการ

(ทำอะไรบ้างที่ทำลายพระธรรมวินัย)

ที่บ้านคุณทักษพล - คุณจริยา เจียมวิจิตร

วันศุกร์ที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๒

(ภาพขณะสนทนา)

~ ถ้าไม่ได้ศึกษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะไม่เห็นความละเอียดลึกซึ้งของแต่ละคำ ซึ่งถ้าไม่มีความเข้าใจในคำสอนที่พระองค์ได้ตรัสไว้ดีแล้ว ทุกอย่างก็ผิดพลาด เพราะไม่ได้รู้ความจริงตามที่พระองค์ได้ทรงแสดง

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ทุกอย่างโดยละเอียด โดยประการทั้งปวงถึงที่สุด

~ ถ้าผู้ที่เป็นเจ้าของบ้าน เป็นผู้นำของบ้าน ไม่มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ก็นำไปในทางที่ผิด

~ ปัญหาทั้งหมด มาจากความไม่รู้ และความไม่รู้อะไรที่สำคัญที่สุด? คือ ความไม่รู้คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

~ แม้แต่ที่เราเป็นห่วงเด็ก เป็นห่วงเยาวชน ให้ครูสอนพระพุทธศาสนา แต่ครูเข้าใจพระพุทธศาสนาหรือเปล่า แล้วจะสอนอะไร? หนังสือของกระทรวงศึกษาธิการออกมา พูดเรื่องอริยสัจจ์ ๔ ปฏิจจสมุปบาท หรืออะไรต่างๆ แต่ครูเข้าใจหรือเปล่า แล้วถ้าครูไม่เข้าใจ เด็กจะเข้าใจหรือ?

~ ถ้าไม่มีความจริงใจที่จะรู้ว่า อะไรถูก อะไรผิด ก็แก้ปัญหาไม่ได้

~ มีหลายครอบครัวที่เปิดธรรมแล้วเด็กก็ได้ฟังด้วย สามารถเข้าใจได้ แล้วลองคิดดูในวัยที่แค่ไม่กี่ขวบโตขึ้นเขาจะเป็นอย่างไร ถ้าพ่อแม่มีความเข้าใจธรรมที่ถูกต้องเพิ่มขึ้น

~ บางบ้านเริ่มฟังพระธรรม เริ่มไตร่ตรอง เริ่มรู้ว่าคำใด เป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นเรื่องละความไม่รู้ทั้งหมด

~ ถ้าติดข้องมากๆ มีหรือที่จะไม่ทำทุจริต

~ ถ้าต้องการให้เด็ก ลูกของตน หลานของตน มีความรู้ มีความดี ตนเองก็จะต้องประพฤติตนเป็นตัวอย่างที่ดี

~ มั่นคงในคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นวาจาสัจจะ (คำจริง) ทุกคำ

~ ธรรม คือ สิ่งที่มีจริง เริ่มเข้าใจ ไม่ต้องไปแสวงหาธรรมที่ไหน เดี๋ยวนี้ก็มี แต่ละคำที่ได้ฟังแล้ว ต้องไตร่ตรองเพิ่มขึ้น ละเอียดขึ้น ธรรมคือสิ่งที่มีจริง แสดงว่า ต้องมีจริงทุกหนทุกแห่ง อะไรที่มีจริง เป็นธรรมทั้งหมด

~ ชีวิตของคฤหัสถ์ เป็นผู้ที่ดำเนินชีวิตของคฤหัสถ์และศึกษาธรรมได้ด้วย แต่สำหรับพระภิกษุ ศึกษาธรรมและขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิต ไม่ใช่ว่าศึกษาธรรมเพื่อที่จะดำรงชีวิตเหมือนอย่างคฤหัสถ์ นี่ก็ต่างกันแล้ว

~ ภิกษุท่านสละเพศคฤหัสถ์เพื่อศึกษาธรรม เพื่อจะได้ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยและขัดเกลากิเลส นี่คือจุดประสงค์

~ เมตตาคือความเป็นมิตร มิตรจะต้องหวังดีพร้อมที่จะเกื้อกูล ทำประโยชน์ เวลาโกรธใครเมตตาหรือเปล่า? ไม่ใช่เมตตาเลย

~ ได้ยินคำของพระภิกษุที่ท่านพูดผิด เราก็มีเมตตาที่จะกล่าวสิ่งที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น เมตตาคือความหวังดีในทุกกรณี เราก็มีเมตตาที่จะกล่าวสิ่งที่ถูกต้อง

~ ถ้าคฤหัสถ์มีเมตตาต่อพระภิกษุ ก็ไม่ให้เงินแก่พระภิกษุ นั่นคือคฤหัสถ์ผู้มีเมตตาหวังดี แต่ถ้าคฤหัสถ์ให้เงินพระภิกษุแล้วจะบอกว่าเป็นผู้ที่หวังดีมีเมตตาได้อย่างไร เพราะไม่รู้จักว่าพระภิกษุคือใคร ท่านมีชีวิตเป็นพระภิกษุเพื่ออะไร

~ พระภิกษุท่านบวชเพื่อที่จะได้ขัดเกลากิเลส ศึกษาธรรมในเพศบรรพชิต ท่านจะมีชีวิตเหมือนอย่างคฤหัสถ์ไม่ได้

~ เพียงแค่คำเดียวของพระธรรม เคยทบทวนหลังจากที่ได้ฟังแล้วหรือเปล่า ว่ามีความหมายละเอียดลึกซึ้งแค่ไหน

~ เพราะไม่เรียน ไม่ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ไตร่ตรอง แล้วจะเข้าใจอะไร

~ ทำไมถึงชักชวนกันไปให้ไม่เข้าใจธรรม แทนที่จะชักชวนกันให้ฟังธรรมแล้วให้รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

~ สิ่งที่ไม่ดีทั้งหมด ต้องเกิดจากเหตุที่ไม่ดี เพราะฉะนั้น ถ้าต้องการผลที่ดี ก็ต้องรู้ว่าสิ่งที่ดีจะมาได้อย่างไร ถ้ายังคงไม่มีความเข้าใจในเหตุผล ก็ยังชื่อว่าไม่เข้าใจธรรม

~ อกุศล กับ กุศล อะไรดี? กุศลดี แต่ถ้าไปสวดมนต์ ไม่รู้ ไม่เข้าใจ ดีไหม? ก็ไม่ดี

~ ถ้าไม่เข้าใจธรรม สงบไหม? ไปร่วมกันพูดคำที่ไม่รู้จัก สงบหรือ? เมื่อไม่รู้ ไม่เข้าใจ สงบไม่ได้

~ อวิชชา คือ ความไม่รู้ นำมาซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นโทษ แล้วเขารู้ไหมว่าต้นเหตุมาจากความไม่รู้ ถ้ารู้ มีความเข้าใจถูก ปัญญาความเห็นที่ถูกต้อง ก็นำไปในกิจที่ดีงามทั้งปวง

~ เราจะต้องพิจารณาโดยละเอียดมาก เพราะว่าทุกครอบครัว ก็จะสอนให้บุตรหลานกราบไหว้พระพุทธรูปแล้วก็คิดถึงคุณของพระรัตนตรัย (พระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์) แต่เนื่องจากว่าความไม่เข้าใจในคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแต่ให้กราบไหว้บุคคลผู้เลิศผู้ประเสริฐที่สุด เขามีจิตอ่อนโยนอยู่แล้วที่จะรู้ว่าใครดี ใครเป็นผู้ที่ประเสริฐ เขาก็กราบไหว้ แต่ไม่ได้ให้ความเข้าใจต่อไป ผลก็คือว่าพอกราบเสร็จ เขาก็ขอ เพราะเขาคิดว่าผู้นี้จะดลบันดาลให้ได้ ก็เลยเป็นธรรมเนียมไหว้พระแล้วก็ขอ แต่ไม่เคยไหว้ในการที่พระองค์ได้ทรงแสดงความจริงให้คนซึ่งไม่อาจจะรู้ได้ถ้าไม่ได้ฟังคำของพระองค์ เมื่อไม่มีความเข้าใจธรรม ไม่ศึกษาธรรมตลอดมา จึงทำให้มีการเข้าใจผิด

~ ศึกษา เพื่อที่จะได้เข้าใจพระธรรม ถ้าไม่ศึกษา ใครจะเข้าใจพระธรรม คิดกันเองหมดเลย หารู้ไม่ว่าพระธรรมเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งอย่างยิ่ง แม้แต่การศึกษาเพียงพลาดนิดเดียวก็หลงผิด เช่น สำนักปฏิบัติ ไม่มีความเข้าใจความเป็น อนัตตา (ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น) และไม่มีการที่จะประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง

~ รู้ว่า อะไรถูก อะไรผิด นี่คือ ความรู้ที่ถูกต้อง เป็นความเข้าใจจริงๆ ถ้าเข้าใจจริงๆ ว่าผิดแล้วจะทำสิ่งที่ผิดหรือ?

~ แต่ละหนึ่งในบ้าน เหมือนกันหรือ? ไม่เหมือนกันเลย ตามการสะสม ซึ่งก็คือ ธรรม ซึ่งจะเข้าใจตรงตามความเป็นจริงว่าทั้งหมดเป็นธรรม ถ้ายังคงเป็น เรา ยึดถือว่าเป็นเรา ก็รักเรา เห็นแก่ตัวทุกอย่าง

~ ความเห็นถูก แม้เพียงเริ่ม วันหนึ่งจะเพิ่มขึ้นมากไหม ถ้าเห็นคุณประโยชน์อย่างยิ่งว่า เพราะความเห็นถูกเท่านั้นที่จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างละจากสิ่งที่ไม่ดีได้ ถ้าไม่มีความเห็นที่ถูกต้องตามความเป็นจริง ยังเห็นว่า กิเลส ดี มีเงินมากๆ ดี ทุจริตก็ไม่เห็นเป็นไร แล้วอย่างนี้จะแก้ไขอะไรได้ เพราะฉะนั้น ก็เริ่มต้นจากแต่ละหนึ่งคน (ที่มีความเห็นที่ถูกต้อง) เมื่อรวมกัน ก็มากขึ้น

~ ประโยชน์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมคือทรงเห็นว่าสัตว์โลกไม่รู้ เพราะฉะนั้น ด้วยพระมหากรุณาที่จะให้เขาเห็นคุณค่าของสิ่งที่มีค่าที่สุดประเสริฐที่สุด คือ ความเข้าใจที่ถูกต้อง จึงทรงพระมหากรุณาแสดงพระธรรม แม้ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ไกลแสนไกล ก็เพื่อให้เขาได้ฟัง ทรงอนุเคราะห์ เพราะเหตุว่า ในสังสารวัฏฏ์ที่แล้วมาและในอนาคตไม่มีวันจบสิ้น ถ้าไม่มีการรู้ว่าอะไรเป็นปัจจัยที่จะทำให้ความไม่รู้หมดไป เพราะเกิดมาด้วยความไม่รู้แล้วก็ยังไม่รู้ ก็จะต้องมีปัจจัยที่จะทำให้เกิดต่อไป

~ ภิกษุทุกรูปในพระธรรมวินัย มีความเคารพในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ ต้องศึกษาพระธรรมให้เข้าใจโดยถูกต้อง ไม่ผิด แล้วก็ขัดเกลาตัวเองปฏิบัติตามพระธรรมวินัย

~ ถ้าไม่มีความเข้าใจพระธรรม ทุกอย่าง ผิดหมด เช่น สวดมนต์ข้ามปี ตลาดนัดในวัด มหรสพในวัด เป็นต้น

~ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน วัด หรือ ราชการ ก็คือแต่ละหนึ่ง ซึ่งเมื่อมีความเข้าใจถูกก็สามารถที่จะแก้ไขสิ่งที่ผิด และต้องมีความจริงใจ ว่า จะแก้ไหม ถ้ารู้ว่าผิด จะแก้ไหม จริงๆ ก็คือ ไม่ใช่เขาคนนั้นที่คิด แต่ต้องเป็นปัญญา ว่า มีกำลังความเข้าใจที่ถูกต้องแค่ไหน ถ้ามีน้อยก็ไม่อยากจะแก้ แต่ถ้ามีมากจริงๆ เข้าใจพระธรรมจริงๆ ไม่มีอะไรจะมากั้นความหวังดีหรือความตั้งใจจริงซึ่งเป็นประโยชน์ ไม่ใช่กับตัวเองเท่านั้น แต่ยังกับคนอื่น ทั้งประเทศ ทั้งโลก

~ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่พึ่งของผู้ที่เกิดมาที่อยู่ในสังสารวัฏฏ์


(ทีมงานอาสาสมัครทำหน้าที่บันทึกวีดีโอสนทนาพิเศษในครั้งนี้)

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
lokiya
วันที่ 11 ม.ค. 2562

อนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
anuraks168
วันที่ 11 ม.ค. 2562

ขอถวายความนอบน้อมแด่พระรัตนไตยด้วยเศียรเกล้า ขอกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตน์และคณะเผยแพร่พระธรรมของมูลนิธิ มสพ.ทุกๆ ท่านขอรับ ขอบพระคุณในความเมตตาเกื้อกูลที่มีต่อชาวพุทธผู้ไคร่ศึกษาพระธรรมขอรับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Somporn.H
วันที่ 12 ม.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
มกร
วันที่ 12 ม.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
mammam929
วันที่ 12 ม.ค. 2562

กราบอนุโมทนาในกุศลจิตที่ท่านอาจารย์เกื้อกูลด้วยพระธรรมคำจริงค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
meenalovechoompoo
วันที่ 12 ม.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
peem
วันที่ 13 ม.ค. 2562

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
panasda
วันที่ 14 ม.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 21 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ