การอบรมเจริญเมตตาในชีวิตประจำวัน
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
เมตตาต่อบุคคลที่ผูกโกรธ ด้วยการให้สิ่งของที่เป็นประโยชน์ตามกาลแก่บุคคลนั้น โดยไม่ได้หวังสิ่งใดตอบแทน ไม่ได้หวังว่าเขาจะหายผูกโกรธหรือกลับมาเป็นมิตรอีก การประพฤติปฏิบัติเช่นนี้ เป็นการอบรมเจริญเมตตาในชีวิตประจำวันใช่หรือไม่คะ ขอคำอธิบายอย่างละเอียด เกี่ยวกับการเจริญเมตตาในชีวิตประจำวันด้วยค่ะ
ขอกราบขอบพระคุณมากค่ะ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความใน พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้า ๕๒๙ มีว่า
“เมตตา มีความเป็นไปโดยอาการที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลเป็นลักษณะ มีการนำเข้าไปซึ่งประโยชน์เกื้อกูลเป็นกิจ มีการกำจัดความโกรธ ความอาฆาตเป็นอาการปรากฏ มีการมองเห็นสิ่งที่น่าพอใจของสัตว์ทั้งหลาย (คือไม่เป็นศัตรู) เป็นเหตุใกล้ให้เกิด เมตตานี้มีการสงบพยาบาทเป็นสมบัติ มีการเกิดขึ้นแห่งเสน่หา (ความติดข้อง หรือ โลภะ) เป็นวิบัติ”
ประโยชน์ คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก เมตตา เป็นสภาพธรรมที่ดีงาม เป็นสภาพจิตที่ดีงามที่เกิดขึ้นในขณะที่มีความเป็นมิตร มีความเป็นเพื่อน มีความหวังดี มีความปรารถนาดี ไม่มีความหวังร้ายหรือมุ่งร้ายต่อผู้อื่น ทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ เมตตา จึงเป็นสภาพธรรมที่เป็นประโยชน์ในที่ทุกสถาน การที่จะมีเมตตา มีได้ทุกขณะเลยในขณะที่ไม่รู้สึกโกรธ หรือว่าไม่รู้สึกขุ่นเคืองใจ
การที่จิตใจแต่ละบุคคล มีความรู้สึกเป็นเพื่อน เป็นมิตรกับผู้อื่น ทั้งต่อหน้าและลับหลัง นี่คือ ความเป็นผู้มีเมตตา ใครก็ตามที่คิดจะเจริญเมตตาจริงๆ นั้น ไม่ยากเลย คือไม่ต้องท่องเมตตา เพราะเมตตา ไม่ใช่เรื่องท่อง แต่เป็นธรรมที่ควรอบรมให้มีขึ้น โดยการช่วยเหลือคนอื่น มีความเป็นมิตร มีความเป็นเพื่อนกับคนอื่น แล้วก็สังเกตจิตใจของตนเองเวลาที่เกิดความขุ่นเคืองใจในบุคคลใด ก็แสดงว่าขาดเมตตาต่อบุคคลนั้นแล้ว
ความเป็นจริงของธรรม เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น เมตตาเกิด ก็เป็นเมตตา ใครก็เปลี่ยนแปลงความเป็นจริงนี้ไม่ได้ ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...