พระอรหันต์ชื่อว่าผู้คงที่ ด้วยอาการ ๕
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ ๕๘๔
พระอรหันต์ชื่อว่าผู้คงที่ ด้วยอาการ ๕
คำว่า เป็นผู้คงที่ ความว่า พระอรหันต์ชื่อว่าเป็นผู้คงที่ โดยอาการ ๕ คือ เป็นผู้คงที่ในอิฏฐารมณ์และอนิฏฐารมณ์ เป็นผู้คงที่เพราะอรรถว่า สละแล้ว เป็นผู้คงที่เพราะอรรถว่าข้ามแล้ว เป็นผู้คงที่เพราะอรรถว่า พ้นแล้ว เป็นผู้คงที่เพราะแสดงออกซึ่งธรรมนั้นๆ
พระอรหันต์ชื่อว่า เป็นผู้คงที่ ในอิฏฐารมณ์และอนิฏฐารมณ์อย่างไร พระอรหันต์เป็นผู้คงที่แม้ในลาภ แม้ในความเสื่อมลาภ แม้ในยศ แม้ในความเสื่อมยศ แม้ในสรรเสริญ แม้ในนินทา แม้ในสุข แม้ในทุกข์ หากว่าชนทั้งหลายพึงลูบไล้แขนข้างหนึ่งแห่งพระอรหันต์ด้วยเครื่องหอม พึงถากแขนข้างหนึ่งด้วยมีด พระอรหันต์ย่อมไม่มีความยินดีในการลูบไล้ด้วยเครื่องหอมโน้น และไม่มีความยินร้ายในการถากด้วยมีดโน้น เป็นผู้ละการยินดียินร้ายเสียแล้ว เป็นผู้ล่วงเลยการดีใจและการเสียใจแล้ว เป็นผู้ก้าวล่วงความยินดีความยินร้ายเสียแล้ว พระอรหันต์ชื่อว่า เป็นผู้คงที่ ในอิฏฐารมณ์และอนิฏฐารมณ์อย่างนี้.
พระอรหันต์ชื่อว่า เป็นผู้คงที่ เพราะอรรถว่าสละแล้ว อย่างไร พระอรหันต์ สละ คาย ปล่อย ละ สละคืนเสียแล้ว ซึ่งความกำหนัด ความขัดเคือง ความหลง ความโกรธ ความผูกโกรธ ความลบหลู่ ความดีเสมอ ความริษยา ความตระหนี่ ความลวง ความโอ้อวด ความกระด้าง ความแข่งดี ความถือตัว ความดูหมิ่น ความเมา ความประมาทกิเลสทั้งปวง ทุจริตทั้งปวง ความกระวนกระวายทั้งปวง ความเร่าร้อนทั้งปวง ความเดือดร้อนทั้งปวง อกุสลาภิสังขารทั้งปวง พระอรหันต์ ชื่อว่า เป็นผู้คงที่ เพราะอรรถว่าสละ อย่างนี้
พระอรหันต์ชื่อว่า เป็นผู้คงที่ เพราะอรรถว่าข้ามแล้ว อย่างไร พระอรหันต์ข้ามแล้ว ข้ามขึ้น ข้ามพ้น ก้าวล่วง ก้าวล่วงด้วยดี เป็นไปล่วงซึ่งกาโมฆะ ภโวฆะ ทิฏโฐฆะ อวิชโชฆะ และคลองแห่งสงสารทั้งปวง พระอรหันต์นั้นอยู่จบแล้ว ประพฤติจรณะแล้ว ฯลฯ ภพใหม่มิได้มีแก่พระอรหันต์นั้น เพราะฉะนั้น พระอรหันต์ชื่อว่า เป็นผู้คงที่เพราะอรรถว่าข้ามแล้ว อย่างนี้
พระอรหันต์ชื่อว่า เป็นผู้คงที่ เพราะอรรถว่า พ้นแล้ว อย่างไร พระอรหันต์มีจิตพ้นแล้ว พ้นวิเศษแล้ว พ้นดีแล้ว จากความกำหนัดและขัดเคือง ความหลง ความโกรธ ความผูกโกรธ ความลบหลู่ ความตีเสมอ ความริษยา ความตระหนี่ ความลวง ความโอ้อวด ความกระด้าง ความแข่งดี ความถือตัว ความดูหมิ่น ความเมา ความประมาทกิเลสทั้งปวง ทุจริตทั้งปวง ความกระวนกระวายทั้งปวง ความเร่าร้อนทั้งปวง ความเดือนร้อนทั้งปวง อกุสลาภิสังขารทั้งปวง พระอรหันต์ชื่อว่า เป็นผู้คงที่ เพราะอรรถว่าพ้นแล้ว อย่างนี้
พระอรหันต์ชื่อว่า เป็นผู้คงที่ เพราะแสดงออกซึ่งธรรมนั้นๆ อย่างไร พระอรหันต์ชื่อว่าเป็นผู้คงที่ เพราะแสดงออกว่า เป็นผู้มีศีล ในเมื่อศีลมีอยู่ ชื่อว่าเป็นผู้คงที่ เพราะแสดงออกว่า เป็นผู้มีศรัทธา ในเมื่อศรัทธามีอยู่ ชื่อว่าเป็นผู้คงที่ เพราะแสดงออกว่า เป็นผู้มีความเพียรในเมื่อความเพียรมีอยู่. ชื่อว่าเป็นผู้คงที่ เพราะแสดงออกว่า เป็นผู้มีสติในเมื่อสติมีอยู่. ชื่อว่าเป็นผู้คงที่ เพราะแสดงออกว่า เป็นผู้ตั้งมั่น ในเมื่อสมาธิมีอยู่. ชื่อว่าเป็นผู้คงที่ เพราะแสดงออกว่า เป็นผู้มีปัญญา ในเมื่อปัญญามีอยู่. ชื่อว่าเป็นผู้คงที่ เพราะแสดงออกว่า เป็นผู้มีวิชชา ๓ ในเมื่อวิชชา ๓ มีอยู่ ซึ่งว่าเป็นผู้คงที่ เพราะแสดงออกว่า เป็นผู้มีอภิญญา ๖ ในเมื่ออภิญญา ๖ มีอยู่. พระอรหันต์ชื่อว่า เป็นผู้คงที่เพราะแสดงออกซึ่งธรรมนั้นๆ อย่างนี้ เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า ย่อมเป็นผู้ถึงฝั่ง ไม่กลับมาเป็นผู้คงที่ เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า :-
พระอรหันตขีณาสพทั้งหลาย ย่อมไม่กำหนด ย่อมไม่ทำตัณหาและทิฏฐิไว้ในเบื้องหน้า แม้ธรรมคือทิฏฐิทั้งหลาย อันพระอรหันต์เหล่านั้นไม่ปรารถนาเฉพาะแล้ว พระอรหันต์ผู้เป็นพราหมณ์ อันใครๆ ไม่พึงนำไปได้ด้วยศีลและพรต ย่อมเป็นผู้ถึงฝั่ง ไม่กลับมา เป็นผู้คงที่ ดังนี้
จบปรมัฏฐกสุตตนิทเทสที่ ๕
กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า
ความเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงจากการฟังพระธรรมที่ทรงแสดงจนถึงที่สุด นำไปสู่ความเป็นผู้คงที่ได้ในชาติสุดท้าย พ้นจากสังสารวัฎฎ์
ชาตินี้ได้ศีกษาพระธรรมที่ถูกต้องตามที่ทรงแสดง มีคุณค่าอย่างที่สุดค่ะ
กราบอนุโมทนาขอบคุณอาจารย์คำปั่น อักษรวิลัย
และมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาด้วยค่ะ