ถ้าโดนเพื่อนขอให้ทำในสิ่งที่ผิด
ถ้าถูกเพื่อนขอร้องให้ช่วยทำในสิ่งที่ผิด เช่น ช่วยแก้ไขข้อมูลให้ผิดไปจากความจริงเพื่อประโยชน์ของเขา เราควรใช้ความฉลาดอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหานี้ครับ มีวิธีหรืออุบายที่พระพุทธเจ้าแนะนำสั่งสอนหรือเคยใช้เมื่อสมัยยังเสวยพระโพธิสัตว์ไหมครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ใครเตือนก็ไม่เหมือนพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง สภาพธรรมที่เป็นอกุศลธรรม นำมาซึ่งทุกข์โทษภัยเท่านั้น ไม่เป็นประโยชน์กับใครๆ เลยแม้แต่น้อย ถ้าเป็นผู้ที่มีความมั่นคงในความจริง มั่นคงในความถูกต้อง และเป็นเพื่อนจริงๆ เมื่อพบเห็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องของบุคคลผู้นั้น ผู้ที่เป็นเพื่อนนี่แหละที่จะคอยกล่าวชี้แจงให้เข้าใจว่า สิ่งที่ทำอยู่นั้น ผิด ไม่ใช่สิ่งที่เป็นประโยชน์เลย นี้แหละคือการช่วยเหลือที่ถูกต้อง เป็นการเกื้อกูลกันที่ดีที่สุด ไม่ใช่การคล้อยตามไปในสิ่งที่ผิด
ในบางพระชาติของพระโพธิสัตว์ อย่างเช่นในตักกลชาดก พระโพธิสัตว์ แม้มีอายุเพียง ๗ ขวบ ก็มีปัญญา เป็นผู้ที่รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด มารดาของพระโพธิสัตว์ยุยงให้พ่อ นำเอาพ่อสามี (ปู่ของพระโพธิสัตว์) ไปฝังทั้งเป็นในป่าช้า เพราะไม่อยากจะให้พ่อสามีอยู่ด้วย โดยบอกอุบายให้พาพ่อสามีเดินทางไปในยานเพื่อไปชำระสะสางเงินกับลูกหนี้ที่ต่างถิ่น พอไปถึงระหว่างทางก็ให้ทำส่งเสียงดังว่ามีโจรมาปล้น แล้วให้ถีบพ่อสามีลงจากรถให้ตกลงในหลุมที่ตนเองได้ขุดเตรียมไว้เอาจอบทุบศีรษะให้ตายฝังเสร็จแล้วกลับมา พระโพธิสัตว์ได้ยินคำสนทนากันของทั้งคู่ ก็รู้เลยว่ามารดาของตนเองกำลังยุยงให้พ่อทำปิตุฆาต (ฆ่าบิดา) ซึ่งเป็นบาปหนัก ก็คิดหาทางที่จะช่วยไม่ให้พ่อของตนเองทำปิตุฆาต ก็เลยแอบไปนอนใกล้ๆ ปู่ พอถึงเวลาเดินทาง ก็แอบขึ้นไปในยานก่อน พอไปถึงระหว่างทาง พ่อของพระโพธิสัตว์ก็ลงจากยาน ทำการขุดหลุม ขณะนั้นโพธิสัตว์ก็ถามว่า ตรงนี้ไม่มีหัวมัน ไม่มีผักผลไม้อะไรที่จะนำไปบริโภคได้ แล้วพ่อขุดหลุมเพื่ออะไร พ่อของพระโพธิสัตว์ก็ตอบว่า กำลังขุดหลุมเพื่อฝังปู่ เพราะปู่แก่แล้ว จะต้องถูกโรคต่างๆ รุมเร้า พ่อไม่อยากให้ปู่อยู่อย่างลำบาก ก็เลยจะขุดหลุมฝังในวันนี้
พอได้ฟังดังนั้น พระโพธิสัตว์ ก็ฉวยเอาจอบจากมือพ่อ แล้วทำทีเป็นขุดหลุมอยู่ข้างๆ กัน พอถูกพ่อถามว่าขุดหลุมทำไม ก็ตอบ (เพื่อจะได้สอนพ่อในภายหลัง) ว่า ก็กำลังขุดหลุมเพื่อฝังพ่อ เพราะต่อไปพ่อก็จะต้องแก่ และถูกโรคต่างๆ รุมเร้า ลูกกำลังคล้อยตามความประพฤติของพ่อ (ที่กำลังจะทำกับปู่) ก็เลยต้องทำอย่างนี้ พอพ่อได้ฟัง ก็กล่าวตำหนิพระโพธิสัตว์ ว่า กล่าวกระทบกระเทียบพ่อ ไม่ได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลเลย แต่พระโพธิสัตว์ก็ได้กล่าวว่า ที่ทำอยู่นี้ กำลังเกื้อกูลพ่อ เพราะไม่กล้าจะห้ามพ่อผู้ทำบาปกรรมโดยตรงได้ จึงได้พูดกระทบกระเทียบเช่นนี้ แล้วพระโพธิสัตว์ก็ได้กล่าวต่อไปว่า ผู้ใด เป็นคนมีธรรมอันลามก เบียดเบียนมารดาหรือบิดา ผู้ไม่ประทุษร้าย ผู้นั้น ครั้นตายไปภายหน้า ย่อมเข้าถึงนรกโดยไม่ต้องสงสัย ส่วนผู้ใดบำรุงเลี้ยงมารดาบิดา ด้วยข้าวน้ำ ผู้นั้น ครั้นตายไปภายหน้า เข้าถึงสุคติโดยไม่ต้องสงสัย จนในที่สุดบิดาของพระโพธิสัตว์ได้ฟังแล้วก็เข้าใจเกิดความโสมนัสอย่างยิ่ง ว่า นี่แหละคือการเกื้อกูลจริงๆ ทำให้ได้ไม่กระทำในสิ่งที่เป็นโทษอีกต่อไป
เพราะฉะนั้น จากตัวอย่างที่ได้ยกมา ก็พอที่จะเทียบเคียงได้ว่า ไม่มีอะไรที่จะเกื้อกูลได้ดีเท่ากับการกล่าวคำจริง มุ่งประโยชน์เกื้อกูลต่อผู้นั้นจริงๆ ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...