ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๘๘ (ครั้งพิเศษ)
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๘๘ (ครั้งพิเศษ)
ประมวลสาระสำคัญจากการสนทนาธรรม
ที่โรงแรม OAKS พุทธคยา ประเทศอินเดีย
วันอาทิตย์ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๒
~ สิ่งที่มีทุกวัน แต่ถูกปกปิดมาในสังสารวัฏฏ์นานเท่าไหร่ ไม่เคยเปิดเผยเลย จนกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ ทรงแสดงพระธรรม เปิดสิ่งที่ปิดมาในสังสารวัฏฏ์นานแสนนานให้ค่อยๆ เห็น ให้ค่อยๆ เข้าใจ
~ ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นำไปสู่ความเห็นที่ถูกต้องว่าสิ่งนั้นที่ไม่ใช่เรา ก็เพราะมีชั่วคราวแสนสั้น พระองค์ทรงแสดงว่าสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ตามที่มีความเกิดเป็นธรรมดา สิ่งนั้นมีความดับไปเป็นธรรมดา
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงบำเพ็ญพระบารมี (คุณความดีที่ทำให้ถึงฝั่งของการดับกิเลส) ทรงตรัสรู้ความจริงแล้วก็ทรงแสดงพระธรรม ณ สถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ที่ผู้นั้นสามารถจะเข้าใจธรรมได้
~ ต้องเป็นผู้ที่ตรง ถูกคือถูก ผิดคือผิด มิฉะนั้นจะไม่ได้สาระจากพระธรรม
~ ศรัทธาเป็นสภาพธรรมที่มีจริง ขณะที่ฟังธรรม เข้าใจ มีศรัทธา แต่ขณะที่คิดเรื่องอื่น ไม่มีศรัทธา ,ศรัทธา เป็นสภาพธรรมฝ่ายดี เป็นเจตสิก (สภาพธรรมที่เกิดประกอบพร้อมกับจิต) ที่ดีงาม ที่ทำให้สภาพธรรมที่เกิดร่วมกันผ่องใส ขณะนั้นไม่มีโลภะ ไม่มีโทสะ ไม่มีโมหะ
~ ถ้าไม่มีความเข้าใจธรรมเลย ก็อยู่ฝั่งกิเลสไป ในสังสารวัฏฏ์ฎ์เพิ่มไปเรื่อยๆ ออกจากสังสารวัฏฏ์ไม่ได้ แล้วรู้ไหมว่าสังสารวัฏฏ์นานเท่าไหร่มาแล้ว ก็จะนานต่อไปอีกเท่านั้นหรือยิ่งกว่านั้น ตราบใดที่ยังไม่มีความเข้าใจธรรม
~ บุคคลผู้ที่มีปัญญา ท่านเห็นว่าเกิดแล้วตายแน่ๆ แล้วขณะที่เกิดมาก็มีทุกสิ่งทุกอย่าง มีความสุข มีทรัพย์สมบัติ มีความทุกข์บ้างอะไรบ้างสารพัดอย่าง พอถึงตาย หายไปหมดเลย ไม่เหลือเลย แล้วระหว่างที่เกิดมาแล้วจะต้องตายแต่ก่อนตายก็มีทุกอย่างแล้วพอตายหายหมด แล้วจะมีประโยชน์อะไร ก็แค่มีตอนเกิดแล้วก่อนตายพอตายแล้วก็ไม่เหลือเลย เพราะฉะนั้น ถ้าได้ฟังธรรมบ่อยๆ ค่อยๆ เข้าใจความจริง ก็จะเห็นคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงหนทางที่สามารถจะดับทุกข์ ไม่มีการเกิดอีกต่อไป
~ ธรรมทั้งหลาย เกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย เปลี่ยนไม่ได้ บังคับไม่ได้ ไม่ต้องการเจ็บป่วย ก็ไม่ได้ ไม่ต้องการทุกข์ ก็ไม่ได้ทั้งหมด จะมีลาภ ยศสรรเสริญหรืออะไรทั้งหมดก็เป็นธรรมทั้งนั้นซึ่งมีเหตุปัจจัยทำให้เกิดแล้วก็ดับแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย หยุดยั้งการเป็นปัจจัยของการที่จะทำให้เกิดไม่ได้ เพราะฉะนั้น ถ้ามีความเข้าใจถูกต้องว่าเป็นธรรม ก็จะไม่มีเราเลย มีแต่ธรรมทั้งหมดซึ่งอาศัยเหตุปัจจัยเกิดดับรวดเร็วสุดที่จะประมาณได้ โดยไม่มีใครสามารถที่จะไปหยุดยั้งหรือเปลี่ยนแปลงได้เลย เพราะเปลี่ยนแปลงความเป็นไปของธรรมไม่ได้
~ ถ้ามีความเข้าใจธรรม จะอยู่ตรงไหน อะไรก็ตามที่เกิดต้องมีเหตุปัจจัยที่จะให้เกิดขึ้นเป็นอย่างนั้นไม่เป็นอย่างอื่น ข้อพิสูจน์ก็คือเห็นเลยว่าไม่มีใครไปบังคับไปทำ ก็ต้องเป็นอย่างที่จะต้องเป็น แล้วก็มีการเบิกบานบ้างไหมที่ได้เข้าใจความจริงว่า นี่แหละเป็นธรรมไม่ใช่เรา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา ถ้าทุกคนเข้าใจธรรมก็จะเบิกบานได้ ไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆ
~ ถ้าจะเกิดความลำบาก แม้ลำบากก็จริง ไม่ว่าอะไรทั้งสิ้นเกิดแล้วทั้งหมดไม่ใช่เรา แต่ว่ามีปัจจัยที่จะให้เกิดขึ้นกับแต่ละคน หลากหลายมาก
~ ถึงแม้ว่าจะหวัง ใครก็หวังได้ แต่จะตรงกับที่หวังหรือเปล่า ก็ต้องแล้วแต่เหตุปัจจัย
~ หวัง ก็ไม่ได้สิ่งที่เป็นไปอย่างหวัง แต่ต้องเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ถ้าคิดได้อย่างนี้ จะไม่เป็นทุกข์เลย
~ เกิดแล้วก็ต้องตายๆ ไม่รู้จบ เพราะเหตุว่า ตราบใดที่ยังไม่มีปัญญา ไม่มีใครที่จะไปหยุดยั้งการเกิดได้เลย
~ ชาตินี้ ควรมีความเข้าใจที่ถูกต้อง ดีกว่าที่จะเกิดมาแล้วไม่รู้ ไม่รู้อะไรเหมือนคนตาบอดที่มืดสนิท จากโลกนี้ไป ไปไหนก็ไม่รู้อีก แล้วก็เกิดอีกแล้วก็ไม่รู้อีก น่าสังเวชแต่ต้องเป็นปัญญาจริงๆ ที่เห็นจริงๆ ว่า การเกิดแล้วก็ไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ไม่สามารถที่จะสิ้นสุดสังสารวัฏฏ์ได้
~ ถ้าได้มีความเข้าใจธรรม ความเข้าใจนี้แหละก็จะติดตามอยู่ในจิตที่มีโอกาสที่จะได้รู้ความจริง เพราะเหตุว่า ถ้าไม่รู้ความจริง เกิดมานานเท่าไหร่แล้ว แล้วก็จะเกิดต่อไปโดยไม่มีใครสามารถที่จะหยุดยั้งการเกิดดับของธรรม ซึ่งไม่ใช่เรา แต่หลงเข้าใจว่าเป็นเรา
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรมที่จะทำให้คนฟังสามารถเข้าใจได้ นี่เป็นสิ่งที่เป็นพระมหากรุณาอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้ เมื่อผู้ใดเห็นพระคุณที่เรายังมีโอกาสได้ฟังคำที่พระองค์ตรัสไว้ดีแล้ว แล้วก็สามารถที่จะเข้าใจขึ้น จะบูชาด้วยอะไร? ด้วยจิต ที่มีความเคารพสักการะอย่างยิ่งในพระคุณของพระองค์ แม้ไม่มีดอกไม้ ไม่มีธูปเทียนใดๆ เลย แต่จิตที่นอบน้อมในพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพราะเข้าใจในพระคุณก็เป็นการบูชา แต่ถ้าบูชาเพียงด้วยดอกไม้ธูปเทียนเครื่องสักการะ แต่ไม่เข้าใจธรรม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสรู้เพื่อที่จะรับดอกไม้ธูปเทียนโดยที่ว่าคนนั้นไม่ได้เข้าใจธรรม.
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๘๗
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...