สัพพัญญุตญาณกับทศพลญาณ

 
ฉีฟ่งจื้อ
วันที่  6 มี.ค. 2562
หมายเลข  30522
อ่าน  1,090

เรียน ท่านวิทยากร

ขอเรียนถามว่าสัพพัญญุตญาณและทศพลญาณต่างกันอย่างไรและทั้ง 2 ญาณเป็นโลกุตระญาณหรือโลกียะญาณ ขออนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 6 มี.ค. 2562

ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ในปฏิสัมภิทามรรค อธิบายความแตกต่างระหว่าง สัพพัญญุตญาณ (อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ) กับทศพลญาณ เช่น ทศพลญาณ (กำลังของพระพุทธเจ้า) มี 10 ประการก็รู้ตามกิจ หน้าที่ 10 ประการนั้น แต่ สัพพัญญุตญาณนั้นรู้ 10 ประการที่ทศพลญาณรู้ด้วยและรู้มากกว่านั้นด้วย คือมากกว่า 10 ประการที่เหลือ เพราะสัพพัญญุตญาณเป็นปัญญาของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าที่รู้ธรรมทั้งปวงไม่มีส่วนเหลือเลยครับ

เชิญอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องความแตกต่างระหว่าง สัพพัญญุตญาณกับทศพลญาณ ได้ที่นี่ครับ

[เล่มที่ 69] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ - หน้าที่ 629 [เล่มที่ 38] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้าที่ 68

เชิญอ่านรายละเอียดในเรื่องทศพลญาณได้ที่นี่ครับ

[เล่มที่ 38] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้าที่ 56

เชิญอ่านรายละเอียดในเรื่องสัพพัญญุตญาณได้ที่นี่ครับ

[เล่มที่ 68] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ - หน้าที่ 161

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 6 มี.ค. 2562

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสัพพัญญุตญาณ เป็นพระปัญญาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่พระองค์ทรงปรารถนาที่จะรู้ พระสัพพัญญุตญาณนี้ เกิดจากการสะสมอบรมมานานถึง ๔ อสงไขยแสนกัปป์ ซึ่งเมื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็มาพร้อมกับอรหัตตมัคคญาณ ซึ่งพระสัพพัญญุตญาณ เป็นชาติกิริยา ที่พระปัญญาที่ทรงรู้สภาพธรรมทั้งปวง ตามความเป็นจริง

ส่วน ทศพลญาณ มีหลากหลายถึง ๑๐ ประการ ซึ่งเป็นกำลังของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑๐ ประการ ดังนี้

๑. พระตถาคตทรงรู้ชัดซึ่งฐานะ โดยเป็นฐานะ และอฐานะโดยเป็นอฐานะ ในโลกนี้ตามเป็นจริง
๒. พระตถาคต ทรงรู้ชัดซึ่งวิบากแห่งกรรมทั้งที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน โดยฐานะ โดยเหตุ ตามเป็นจริง
๓. พระตถาคต ทรงรู้ชัดซึ่งปฏิปทาเครื่องให้ถึงประโยชน์ทั้งปวง ตามเป็นจริง
๔. พระตถาคต ทรงรู้ชัดซึ่งโลกอันมีธาตุเป็นอเนก มีธาตุต่างๆ ตามเป็นจริง
๕. พระตถาคต ทรงรู้ชัดซึ่งความที่สัตว์ทั้งหลายเป็นผู้มีอัธยาศัยต่างๆ กัน ตามเป็นจริง
๖. พระตถาคต ทรงรู้ชัดซึ่งความหย่อนและยิ่งแห่งอินทรีย์ ของสัตว์อื่น ของบุคคลอื่น ตามเป็นจริง
๗. พระตถาคต ทรงรู้ชัดซึ่งความเศร้าหมอง ความผ่องแผ้ว การออกแห่งฌานวิโมกข์ สมาธิ และสมาบัติทั้งหลายตามเป็นจริง
๘. พระตถาคต ทรงระลึกชาติหนหลังได้เป็นอันมาก
๙. พระตถาคต ทรงเห็นหมู่สัตว์ผู้กำลังจุติ กำลังอุปบัติ เลว ประณีต มีผิวพรรณดีมีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ล่วงจักษุมนุษย์
๑๐. พระตถาคตกระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติอันหาอาสวะมิได้.

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 20 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ