หงายของที่คว่ำ
มีกิเลสมากมายเช่นโลภะ ดังนั้นการได้มีโอกาสอบรมปัญญา รู้ความจริงของสิ่งที่ปรากฏที่ยากจะเปิดเผยลักษณะให้รู้ได้ จึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
จากการสนทนาธรรมที่ราวิลโฮม นครนายก ๑๓ ม.ค. ๕๙
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโลภะว่าเป็นสมุทัย บางทีก็คิดว่าดีเพราะไม่รู้ชื่อนั้น บางทีแค่เกิดมายังไม่ทันไรก็โลภะแล้ว..ยังไม่ทันรู้ว่าเป็นอะไรก็ติดข้องในความเป็น เพราะฉะนั้นข้อปฏิบัติใด หนทางใดที่ไม่ทำให้ออกจากสังสารวัฏฏ์ หนทางนั้นทั้งหมดเป็นมิจฉาปฏิปทา
ไม่ว่าจะทำให้เกิดบนสวรรค์หรือพรหมโลก รูปพรหม อรูปพรหมทั้งหมดเห็นโทษของกิเลสของตนแต่ไม่ได้รู้ว่าไม่ใช่เรา จึงนำไปสู่ภพภูมิตามควรแก่กุศลนั้นๆ แต่ไม่ได้ดับสังสารวัฏฏ์
แม้แต่ข้อความที่ว่าเหมือน หงายของที่คว่ำ คว่ำแน่นเลยไม่ใช่คว่ำบางๆ เปิดง่ายๆ คว่ำแน่นๆ แล้วจะหงายของที่คว่ำ แล้วก็ เปิดของที่ปิด เวลานี้ถูกปิดไว้แล้ว อารมณ์ที่ปรากฏทั้งหมดปิดบังจิตเจตสิกซึ่งเกิดขึ้นทำงานของตนๆ โดยไม่ขาดสาย ทำกิจเห็น ได้ยิน ... ไม่รู้เลยโน่นคนนี้ นั่นคนนั้น ทั้งหมดก็คือหน้าที่การงานของจิต เปิดของที่ปิดไว้แน่นอีกเหมือนกัน
บอกทางแก่คนหลง รู้ตัวหรือเปล่าหลงอยู่ไหน กลางป่าหรือที่ไหน แต่หลงอยู่ในสังสารวัฏฏ์หนากว่าหลงอื่น หลงป่ายังมีคนนำทางออกได้ แต่หลงในสังสารวัฏฏ์นานแสนนานมาแล้ว และก็ต่อไปอีกนานแสนนาน จะออกได้ยังไงถ้าไม่มีการฟังพระธรรม นี่คือพุทธานุสติ ธรรมานุสติ แต่ถ้าไม่เข้าใจพระคุณเลยไม่มีทางเป็นพุทธานุสติ ธรรมานุสติได้เลย บอกทางแก่คนหลง ทุกคนหลงอยู่ในสังสารวัฏฏ์..จะอยู่ต่อไปอีกนานเท่าไหร่!!!!!
ส่องประทีปในที่มืด เห็นสว่างๆ อย่างนี้แต่ไม่รู้ความจริงมืดแค่ไหนทั้งๆ ที่ปรากฏด้วยแสงไฟ แต่ไม่รู้ความจริงว่าแท้จริงมืดสนิท จิตมืดสนิท เจตสิกมืดสนิท โดยสภาวะที่ไม่ใช่รูปที่สามารถกระทบตา ธรรมะอื่นไม่มีทางปรากฏเลยทางตา แข็งก็มองไม่เห็น หวาน เผ็ด เปรี้ยว เค็มก็มองไม่เห็น เพียงแต่จำไว้ว่าพริกรูปร่างนี้ สีนี้เผ็ด ก็เป็นเรื่องของธรรมะทั้งหมดโดยนัยของขันธ์ก็ ๕ ไม่ต้องท่องจำก็ได้เพราะชินหู แต่ไม่ชินกับลักษณะของสภาพธรรมะ
หลงกว้างมากคือหลงในสังสารวัฏฏ์ หลงมานานมากแต่ไม่หลงได้เมื่อเข้าใจธรรมะ มีปัจจัยพร้อมที่สติสัมปชัญญะจะเข้าใจสิ่งที่ปรากฏ เลือกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ ขณะไหนทั้งสิ้น
กราบบูชาคุณท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่ง