คิดแทนใจคนอื่น ลืมความจริงของธรรม

 
sutta
วันที่  18 มี.ค. 2562
หมายเลข  30565
อ่าน  1,817

ถ้าทราบว่า เราเหมือนเล่นกับความคิดของเรา ปรุงแต่งคิดไปต่างๆ นานาให้สุข ให้ทุกข์ จะเห็นว่าไม่มีใครทำอะไรเราได้เลย นอกจากความคิดของเราอย่างเดียว จะคิดสุขก็ได้ จะคิดทุกข์ก ็ได้ จะคิดให้คนนี้รักเรา คนนี้เกลียดชังเรา ก็แล้วแต่เราจะคิดไป ทั้งๆ ที่คนนั้นอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นเลยก็ได้ ค่ะ

อย่าไปคิดแทนใจคนอื่น เพียงมองจากภายนอก เพราะอนัตตา ต่างจิตต่างใจ แต่ไม่ลืมที่เหมือนกัน คือ เป็นธรรมแต่ละขณะเท่านั้น ค่ะ ความเป็นจริงก็คือเมื่อเอาชื่อของคนนั้นออกก็คือสภาพธรรมที่สะสมมาที่ทำให้คิดอย่างนั้น พูดอย่างนั้น ทำอย่างนั้น แล้วเราก็ใส่ชื่อเข้าไปว่าเรากำลังพิจารณาคนนั้นคนนี้ แต่ความจริงก็เป็นจิตของตนเองที่เกิดขึ้นแล้วก็คิดถึงคนอื่น

เมื่อศึกษาธรรมะแล้วจะเข้าใจได้ แล้วก็รู้ว่า ที่เราคิดว่าเป็นคนอื่น ก็คือความคิดนึกของเรา เพราะว่าคนอื่นก็คือปรากฏทางตา แล้วก็เสียงปรากฏทางหู หรือว่าจะกลิ่นปรากฏทางจมูก รสอาหารต่างๆ หรืออาจจะเป็นรสเนื้อ รสอะไรก็แล้วแต่ ก็เป็นสิ่งที่ปรากฏทางลิ้น การกระทบสัมผัส กระทบกระทั่งกัน ก็คือการกระทบสัมผัสทางกาย เท่านี้ เพราะฉะนั้น อยู่ในโลกของความคิดตลอดเวลา

เราไม่รู้ตรงนี้เลย มีแต่ความเป็นเรื่องคนไม่ดี คนนั้นไม่ดี คนนี้ไม่ดี แล้วเมื่อไหร่จะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วก็ไม่มีเราและไม่มีเขา มีแต่สภาพธรรมซึ่งจะต้องอบรมขัดเกลาการไม่รู้ ยึดถือสภาพธรรมนั้นจนกว่าจะประจักษ์จริงๆ เป็นสภาพรู้ ธาตุรู้ที่กำลังคิด เพราะฉะนั้นประโยชน์จริงๆ ของการศึกษาบ่อยๆ เรื่องนั้นเรื่องนี้ในพระไตรปิฎกก็ให้ถึงความเข้าใจที่ถูกต้องว่าแท้ที่จริงแล้วก็เป็น จิต เป็นเจตสิก เป็นรูป เป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
phawinee
วันที่ 18 มี.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ ✨

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
นอ้ย
วันที่ 18 มี.ค. 2562

กราบสาธุค่ะท่านอาจารย์

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
panasda
วันที่ 18 มี.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Tikky
วันที่ 18 มี.ค. 2562

ตาสว่างอีกแล้วครับท่าน

อนุโมทนาคับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nualchan.deesawat
วันที่ 18 มี.ค. 2562

เป็นคำเตือนให้คิด ถ้าไม่ฟังคำเตือนนี้บ่อยๆ ก็จะลืมตลอดเวลา รู้สึกซาบซึ้ง กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ด้วยความเคารพ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เมตตา
วันที่ 21 มี.ค. 2562

...ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
s_sophon
วันที่ 22 มี.ค. 2562

" แต่ความจริงก็เป็นจิตของตนเองที่เกิดขึ้นแล้วก็คิดถึงคนอื่น "

" เมื่อศึกษาธรรมะแล้วจะเข้าใจได้ แล้วก็รู้ว่า ที่เราคิดว่าเป็นคนอื่น ก็คือความคิดนึกของเรา เพราะว่าคนอื่นก็คือปรากฏทางตา แล้วก็เสียงปรากฏทางหู หรือว่าจะกลิ่นปรากฏทางจมูก รสอาหารต่างๆ หรืออาจจะเป็นรสเนื้อ รสอะไรก็แล้วแต่ ก็เป็นสิ่งที่ปรากฏทางลิ้น การกระทบสัมผัส กระทบกระทั่งกัน ก็คือการกระทบสัมผัสทางกาย เท่านี้ เพราะฉะนั้น อยู่ในโลกของความคิดตลอดเวลา "

[ที่เราคิดว่าเป็นคนอื่น ก็คือความคิดนึกของเรา เพราะว่าคนอื่นก็คือปรากฏทางตา]

ประโยคแรก ขยาย คำกล่าว ในวงเล็บใหญ่ ใช่ใหม (คนอื่นจึงไม่มี ด้วยเหตุนี้.....)

และ ประโยคนี้คือคำสรุป [เพราะฉะนั้น อยู่ในโลกของความคิดตลอดเวลา]

จึงมีแต่สภาพธรรม จนความเป็นเราก็หามีไม่....

ผมมีความข้าใจอย่างนี้

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ศิริกัญญา
วันที่ 11 เม.ย. 2563

อนุโมทนาสาธุ ได้ข้อคิด ตอนนี้ตัวเองเป็นแบบนี้ คิดหวังอยากให้เป็นอย่างที่ตัวเองคิด แล้วเราก็ใส่ชื่อคนคนนั้นเข้าไป ตัดสินว่าเขาดี ไม่ดี ปรุงแต่ไปกันใหญ่จนทำให้ตัวเองทุกข์ อนุโมทนาท่านที่ให้ความรู้คะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 25 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ