พ่อแม่รักลูก...ความจริงแล้วก็รักตัวเอง?!...

 
lovedhamma
วันที่  24 เม.ย. 2562
หมายเลข  30795
อ่าน  802

จากหัวข้อที่ถาม...เป็นแบบนั้นจริงๆ หรือครับ ถ้าจริง...แล้วมีองค์ประกอบอะไรที่บอกว่าจริงบ้าง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 25 เม.ย. 2562

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ ราชสูตร - หน้าที่ ๔๘๑

ใครๆ ตรวจตราด้วยจิตทั่วทุกทิศแล้ว หาได้พบผู้เป็นที่รักยิ่งกว่าตนในที่ไหนๆ
ไม่เลย สัตว์เหล่าอื่นก็รักตนมากเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ผู้รักตน จึงไม่ควรเบียดเบียนผู้อื่น

ข้อความบางตอนจากอรรถกถาราชสูตร มีว่า

ก็ สัตวโลกทั้งหมดนี้ รักคนอื่นก็เพื่อประโยชน์ตนเองเท่านั้น แม้เมื่อปรารถนาบุตร ก็ปรารถนาว่า บุตรนี้ จักเลี้ยงดูเราในยามแก่ เมื่อปรารถนาธิดา ก็ปรารถนาว่าตระกูลของเราจักเจริญขึ้น เมื่อปรารถนาภริยา ก็ปรารถนาว่า จักบำเรอเท้าเรา เมื่อปรารถนาแม้คนอื่นจะเป็นญาติมิตร หรือพวกพ้อง ก็ปรารถนาเนื่องด้วยกิจนั้นๆ ดังนั้น ชาวโลก เป็นผู้เห็นแต่ประโยชน์ตนเท่านั้น จึงรักคนอื่น ... สัตว์ทั้งหมดรักตัวเอง คือ รักสุข เกลียดทุกข์อย่างนี้ ฉะนั้น ผู้รักตนเมื่อปรารถนาประโยชน์สุขเพื่อตน จึงไม่เบียดเบียน ไม่ฆ่าสัตว์อื่น โดยที่สุดแม้มดดำมดแดง ทั้งไม่เบียดเบียน ด้วยปหรณวัตถุ (วัตถุเป็นเครื่องประหาร) มีฝ่ามือ ก้อนดิน และท้อนไม้เป็นต้น จริงอยู่ เมื่อตนทำทุกข์ให้แก่ผู้อื่น ทุกข์นั้นเป็นเหมือนก้าวออกมาจากกรรมที่ตนทำไว้แล้วนั้น จักปรากฏในตน เวลาใกล้ตาย ก็ข้อนี้ เป็นธรรมดาของกรรม นั่นแล.

-------------------------------------
ความติดข้อง ความรัก อยากได้ในสิ่งที่น่าปรารถนาน่าใคร่น่าพอใจ ก็ย่อมมีเป็นธรรมดา ใครๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้ เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย แต่แม้ว่าจะมีอกุศล เกิดขึ้นเป็นไป ซึ่งก็เกิดขึ้นเป็นไปมากอยู่แล้วในแต่ละวัน ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสของกุศลเลย โอกาสของกุศล ก็ย่อมมีได้เช่นเดียวกัน เช่น มารดาบิดา ปรารถนาดีต่อลูก ช่วยเหลือลูก เป็นต้น

ควรที่จะได้พิจารณาอยู่เสมอว่า พระคุณของมารดาบิดา ที่ท่านได้กระทำต่อบุตรนั้น มีมากมายมหาศาล ท่านเป็นผู้ที่เอาใจใส่เลี้ยงดูบุตรให้เจริญเติบโตอย่างปลอดภัย โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ท่านเป็นผู้พร่ำสอนให้บุตรออกจากความชั่ว แล้วให้ตั้งอยู่ในความดี สอนให้รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ พร้อมทั้งให้ศึกษาศิลปวิทยา เพื่อให้บุตรมีความรู้ติดตัวอันจะเป็นบ่อเกิดแห่งการงานประการต่างๆ ซึ่งจะทำให้ชีวิตของบุตรดำเนินไปด้วยความไม่เดือดร้อนในภายภาคหน้าเป็นต้น ในฐานะที่เป็นบุตรธิดา ก็ต้องตั้งใจทำในสิ่งที่ดีประพฤติตนเป็นคนดี ปรนนิบัติดูแลท่าน ตอบแทนพระคุณของท่านอย่างเต็มกำลังความสามารถ ครับ

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 20 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ