ผู้วิเศษที่สามารถเห็นการณ์ล่วงหน้าได้

 
น้องกอล์ฟ
วันที่  16 มี.ค. 2550
หมายเลข  3081
อ่าน  2,153

วันนี้ผมเห็นคนที่เรียกว่าอาจารย์หรือผู้วิเศษที่สามารถเห็นการณ์ล่วงหน้าได้ มีคนไปดูเป็นจำนวนมากผู้ใหญ่ทั้งนั้นเลย มีผมเด็กอยู่คนเดียว ผมว่ามันเป็นการแสดงละคร แต่ทำไมผู้ใหญ่ทั้งนั้นครับ


  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 16 มี.ค. 2550

ที่ไปดู เพราะอยากรู้อนาคตข้างหน้า ชาติหน้าคืออนาคตของชาตินี้ ถ้าชาตินี้เราทำเหตุดี ชาติหน้าเราก็ได้ดี โดยที่เราไม่ต้องไปดูก็ได้ และที่สำคัญที่ไปดูเพราะอยากรวย อยากมีความสุข มีโลภะเป็นปัจจัย เมื่อโลภะเกิดย่อมไม่เห็นอรรถ ย่อมไม่เห็นธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
PUM
วันที่ 16 มี.ค. 2550

ผู้ไม่ประมาท ทำกาลปัจจุบันให้ดีที่สุด เพื่อเป็นพื้นฐานที่ดีที่สุดของอนาคต ซึ่งมีอดีตที่ได้ทำไว้ดีที่สุดแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งผู้วิเศษที่เห็นการณ์ล่วงหน้า และจะได้ไม่ต้องเสียใจกับอดีตที่ผ่านไปแล้ว เพราะได้ทำดีที่สุดแล้ว

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wirat.k
วันที่ 16 มี.ค. 2550

คนที่ยังชอบไปดูแถมเชื่อด้วยนั้น น้องกอล์ฟคิดว่าเขาน่าจะเป็นคนที่มีเหตุผลหรือเปล่าครับ?

หรือว่าเป็นคนที่น่าจะไปทาง งมงายไร้เหตุผล น้องกอล์ฟคิดว่าผลกับเหตุต้องตรงกันไหมครับ? ถ้าต้องตรงกัน ก็คงพอจะตอบได้ว่า คนเหล่านั้นเป็นประเภทไหนนะครับ ผู้ที่จะแสดงเหตุและผลของสิ่งใดๆ ได้โดยละเอียดก็คือ พระพุทธเจ้าครับ เพราะท่านบำเพ็ญบารมี คือสะสมปัญญาความรู้ความเข้าใจจริงๆ มานานมากๆ แล้วทรงนำมาแสดงให้พวกเราได้รู้ตามพระองค์ เราจึงพอจะมีความเข้าใจคร่าวๆ ครับ ว่าพฤติกรรมเช่นนี้ มาจากความเห็นผิดๆ ครับ แล้วก็เห็นผิดสะสมมาเนิ่นนานเช่นกัน จนเมื่อมีคนมาบอกเล่าอะไร ที่เป็นเรื่องจริงที่เป็นเหตุ เป็นผลและพิสูจน์ได้ ให้ฟังก็ไม่ยอมรับฟัง น่าสงสารจริงๆ ครับ

พี่เอง ก็อยากจะรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า เหมือนกันนั่นแหละครับ แต่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ครับ เหลือวิสัยในเวลาปัจจุบันนี้ ถ้าพระพุทธเจ้ายังอยู่ แล้วไปถามพระองค์ท่านนั่นแหละครับ O.K แต่นี่ใครเหรอครับ ที่มาตั้งตัวเป็นผู้รู้อนาคต แม้แต่กุศล อกุศลก็ไม่รู้ว่าเขาเข้าใจถูกหรือเปล่า ถ้าเขาเข้าใจผิดเรื่องนี้ตั้งแต่แรก ก็ไม่สามารถเจริญสมถภาวนาจนได้ฌาณ พอที่จะมีอภิญญาจิต รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้หรอกครับ เอาแค่ช่วยตอบว่า สัมมาสมาธิกับมิจฉาสมาธิต่างกันอย่างไรไม่ได้แล้วก็ Say Good Bye ได้เลยครับ น้องกอล์ฟคงตอบได้เองแล้วนะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
narong.p
วันที่ 17 มี.ค. 2550

การศึกษาธรรม ก็เพื่อให้เกิดความเข้าใจถูกว่าไม่มีเรา ดังนั้นหากยังคิดถึงอนาคต ถึงชาติหน้า เป็นการส่องให้เห็นถึงความมีตัวตนที่หนาแน่น ยากที่จะถอนจริงๆ จึงควรที่จะฟังธรรม เพื่อความเห็นถูกและจะต้องพิจารณาใคร่ครวญแนวทางที่ถูกต้อง ในการศึกษาธรรมคือ เข้าใจในธรรม (สิ่งที่ฟัง ที่อ่าน) และความเข้าใจ (ปัญญา) นั้น จะเป็นสังขารขันธ์ ปรุงแต่งให้สติสัมปชัญญะเกิด ระลึกรู้สภาพธรรมได้ จึงจะละความมีตัวตนได้ การศึกษาธรรม เพื่อ "ละ" ไม่ใช่เพื่อ "ได้" การเจริญกุศลในวันนี้จึงไม่ใช่เพื่อหวังให้ชีวิต (ของเรา) ในอนาคตดี แต่เป็นการเจริญสติด้วยปัญญาที่เข้าใจถูกว่าเป็นเพียงสภาพธรรม แท้จริงคือ ไม่มีเรา ดังนั้น ขณะนี้จึงควรฟังให้เข้าใจ เพื่อละ ความไม่เข้าใจ (อวิชชา)

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
น้องกอล์ฟ
วันที่ 17 มี.ค. 2550

ทุกๆ ความเห็น ต่างมีเหตุผลในตัวของมันเอง แต่ทุกๆ ความเห็น ทำให้ผมเริ่มจะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้าง หน่อยๆ ละครับ ขอบคุณทุกท่านมากครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 11 ก.ย. 2567

ยินดีในกุศจิตของทุกท่านค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ