ทุกข์ใจเพราะมีคนมาซื้อของที่เรากำลังจะซื้อ
ได้ซื้อที่ดินเพื่อใช้พักผ่อนและทำการเกษตรประมาณ 2 ไร่หลังจากซื้อแล้วตั้งใจจะซื้อที่ด้านข้างเพิ่มเพื่อปลูกบ้านพักและต้นไม้อีก แต่บังเอิญติดงาน ตั้งใจว่าเมื่องานเสร็จจะไปคุยกับเจ้าของที่ดิน ช่วงเวลานั้นเองเจ้าของที่ดินได้ส่งข้อความมาบอกว่าขายที่ไปได้แล้ว เวลานั้นรู้สึกทุกข์และเศร้าเสียใจมาก แต่สักพักก็ทำใจได้ หลังจากนั้นได้พบกับเจ้าของที่ดินที่เพิ่งซื้อใหม่ เมื่อเขาไปพัฒนาที่ดิน โดยนำดินมาถมเป็นภูเขาในแปลงของเขาเพื่อชมวิว แต่ในขณะเดียวกันภูเขานั้นก็บดบังวิวของเรา เมื่อมองจากที่ของเรา นอกจากนั้นเขาได้ปลูกไม้ใหญ่หลายต้นชิดรั้วอีกจะพูดอย่างไรเขาก็บอกว่าเขาทำในที่ของเขาแต่เขาทำความเดือดร้อนให้เรา ความทุกข์ใจจึงกลับมาอีกครั้ง จะทำอย่างไรดีให้หายทุกข์ใจ พยายามปล่อยวางแล้วแต่ยังทำไม่ได้
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
[เล่มที่ 24] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้าที่ 359
[๒๗๑] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ผู้มีทุกข์นั่นแหละ จึงมีความเพลิด-
เพลิน ผู้มีความเพลิดเพลินนั่นแหละ จึงมี
ทุกข์ ภิกษุย่อมเป็นผู้ไม่มีความเพลิดเพลิน
ไม่มีทุกข์ ท่านจงรู้อย่างนี้เถิด ผู้มีอายุ.
ตราบใดที่ยังมีกิเลส มีความติดข้อง ก็ไม่พ้นจากทุกข์ ทุกข์เพราะกิเลส ทุกข์เพราะความไม่รู้ เพราะฉะนั้น ทางที่จะพ้นทุกข์ คือ การรู้จักทุกข์ตามความเป็นจริง ซึ่งต้องเป็นปัญญาที่เข้าใจถูกว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา ไม่มีใคร ไม่มีที่ดิน มีแต่ธรรม กิเลสที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่เราที่มีกิเลส แต่เป็นเพียงธรรมที่เกิดขึ้น ทุกข์ใจ ก็ไม่ใช่เราทุกข์ใจแต่เป็นเพียงธรรมที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ทุกข์เท่านั้นที่เกิด ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป ไม่มีใคร มีแต่ธรรม การเข้าใจเช่นนี้ ยังไม่สามารถที่จะห้ามไม่ให้ทุกข์ได้ เพราะมีกิเลสที่สะสมมามากมายนับไม่ถ้วน แต่เป็นทางเอก ทางตรง ทางสายเดียวที่จะทำให้ละทุกข์ ละกิเลสได้หมดสิ้น เพราะฉะนั้นจึงควรเข้าใจความจริงว่าทุกข์เพราะกิเลส ห้ามไม่ได้ อนัตตาและเป็นธรรมไม่ใช่เรา ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ประโยชน์ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ไม่ใช่อยู่ที่การพอกพูนสะสมกิเลส แต่อยู่ที่การมีโอกาสได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก เมื่อมีปัญญาเจริญขึ้น เข้าใจความจริง เข้าใจว่ามีแต่ธรรม ที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยเท่านั้น ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใด ความทุกข์ ความเดือดร้อนใจ ก็จะคลายลง ด้วยความเข้าใจถูกเห็นถูก และ คุณความดีทั้งหลายก็จะเจริญขึ้นด้วย เช่น เมตตา ความเป็นมิตร เป็นเพื่อน ความหวังดีต่อผู้อื่น เป็นต้น คล้อยตามความเข้าใจถูกเห็นถูกที่ค่อยๆ เจริญขึ้น ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...