อวิชชาก็มาก โลภะก็ฉลาด

 
nattawan
วันที่  22 พ.ค. 2562
หมายเลข  30879
อ่าน  920

อวิชชาก็มาก โลภะก็ฉลาด เดี๋ยวนี้มีสิ่งที่กำลังปรากฏ อาจหาญที่จะรู้ว่านั่นเป็นธรรมะหรือเปล่า นั่นส่องให้เห็นถึงการสะสมในอดีตว่าปัญญาน้อยแต่อวิชชามหาศาล และโลภะก็ฉลาดที่จะพาไปด้วยความไม่เข้าใจ ต้องเป็นปัญญาจริงๆ จึงจะเป็นหนทางที่จะดับกิเลสได้ จึงควรสะสมอบรมปัญญาและความดีทุกประการ

จากการสนทนาพระสูตร ที่ มศพ. ๑๓ ส.ค. ๕๔

รอบรู้จริงๆ จึงจะสามารถเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมะเมื่อสติสัมปชัญญะรู้เฉพาะลักษณะของธรรมะทีละอย่าง แล้ววันนี้ตั้งกี่อย่าง ธรรมะทั้งนั้นแต่ไม่รู้เลยสักอย่าง รู้บ้างหรือยังในทีละหนึ่ง แข็งปรากฏตั้งแต่เช้า เห็นก็มีสิ่งที่ปรากฏทางตาตั้งแต่เช้ามา หลากหลายมาก รวดเร็วมากและไม่กลับมาอีกเลยสักอย่างเดียว

ไม่ต้องเป็นห่วงจะไปรู้สิ่งที่ดับไปแล้ว ไม่ต้องคร่ำครวญหาสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่เดี๋ยวนี้มีสิ่งที่กำลังปรากฏและฟัง เป็นผู้ตรงที่จะรู้จักตัวเองว่าฟังแล้วกำลังเข้าใจเห็น เฉพาะเห็น วิตกไม่เกิดพาไปที่อื่น เพราะกว่าวิตกจะมาที่ลักษณะของสภาพธรรมะก็ต้องอาศัยความเข้าใจ ไม่มีใครไปเดิน ไปทำ ไปปฏิบัติให้มาอยู่ตรงนี้ตรงนั้นก็ไม่ได้ แต่รู้ตามความเป็นจริงว่าทั้งหมดเป็นอนัตตา กล้าหาญ อาจหาญร่าเริงที่จะเข้าใจว่าเป็นธรรมะซึ่งไม่มีใครสามารถบังคับบัญชาได้ แต่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ถ้ามีปัญญาไม่ต้องห่วงเลยเพราะเป็นเรื่องของปัญญาที่เข้าใจถูกและเข้าใจขึ้นเมื่อมีการฟัง ไตร่ตรอง มีความเข้าใจขึ้นอีกก็เป็นความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ใครก็ยับยั้งไม่ได้ รู้ตามความเป็นจริงว่าเป็นธรรมะ มั่นคงขึ้น จึงจะเป็นปัจจัยให้ระลึกรู้และเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมะที่ปรากฏ

ขณะนี้มีแข็งก็จริง ถ้ามีคนบอกให้รู้แข็งก็ได้ ไม่ยากเลย เพราะแข็งมีแล้ว แต่ไม่มีความเข้าใจและไม่ใช่สติสัมปชัญญะซึ่งเป็นอนัตตา ไม่ได้ละความต้องการและไม่ได้ละความไม่รู้ ซึ่งไม่ใช่หนทาง

อริยสัจ ๔ ลึกซึ้ง แม้แต่หนทางก็เป็นปกติ เพราะมีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่าทั้งหมดเป็นธรรมะเกิดดับโดยไม่รู้ อวิชชามากมายและอย่างอื่นก็ไม่สามารถละอวิชชาได้เลย ปราบโลภะด้วยตัวตนไม่ได้ โลภะเกิดมาก ลองละดูสิ มีแต่โลภะจะพาไป เพราะได้ยินเพียงแต่ชื่อและขณะนั้นก็เป็นเราที่กำลังมีโลภะ เข้าใจว่าเป็นเรา

การเข้าใจธรรมะแม้ขณะนี้ก็ส่องไปถึงการสะสมที่สะสมมาแล้วนานว่ามีกิเลสมากน้อยแค่ไหน กิเลสใดบ้าง ระดับไหนบ้าง จะละคลายได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่ปัญญาจริงๆ ก็ไม่ใช่หนทางที่จะทำให้อกุศลทั้งหลายลดน้อยลง เพราะโลภะฉลาดแต่ไม่ใช่เข้าใจถูก เพียงแต่พาไปตลอดเวลา ไม่รู้ตัวเลยสักนิดเดียวว่าเป็นไปตามโลภะ ถ้าปัญญาไม่เกิด ถ้าต้องการเมื่อไหร่ ฉลาดไหม รู้จักโลภะไหม อยู่ไหน มาหรือยัง ไม่เห็นเลย เพราะกำลังต้องการ แล้วพาไปเลย เก่งไหม เพราะฉะนั้น สะสมปัญญาและความดีทุกอย่างเพื่อจะให้มีกำลัง ปัญญาไม่ทำให้เกิดอกุศล

กราบบูชาคุณท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่ง


  ความคิดเห็นที่ 2  
 
kullawat
วันที่ 24 พ.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 4 มิ.ย. 2562

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chatchai.k
วันที่ 20 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nattawan
วันที่ 9 ส.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ