จริงใจหรือไม่ที่จะเข้าใจพระพุทธศาสนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ประมวลสาระสำคัญ
จากการสนทนาธรรม
เรื่อง
"พระพุทธศาสนาเถรวาท รัฐธรรมนูญ และการสืบสานพระธรรมวินัย"
ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ
วันอังคารที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๒
~ ถ้าไม่ได้ยิน ไม่ได้ฟังคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีใครจะเข้าใจพระพุทธศาสนาบ้าง? ก็เพียงแต่เรียกว่าพระพุทธศาสนา แล้วก็ยังกล่าวคำว่ามีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ตรงหรือเปล่า มั่นคงหรือเปล่า เข้าใจหรือเปล่า?
~ เวลาแต่ละนาที มีค่า เพราะว่าใครก็ไม่รู้ว่าใครจะจากโลกนี้ไปเมื่อไหร่ เดี๋ยวนี้ก็ได้ เพราะฉะนั้น ก่อนจากโลกนี้ เป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์จากพระพุทธศาสนามากน้อยแค่ไหน เพราะว่า ใครเป็นที่เคารพสูงสุดของทุกคน ทั้งประเทศ ประเทศไทยและประเทศอื่นด้วย ทั้งโลก ผู้ที่ทุกคนเคารพสูงสุด คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ เมื่อได้ฟังพระธรรมแล้ว ก็รู้ว่า กว่าจะรู้ ไม่ใช่เพียงแค่ชาตินี้หรือไม่กี่ครั้ง หรือไม่กี่คำ แต่ต้องเป็นผู้ที่เคารพ มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ไม่ใช่พึ่งให้ได้ลาภ ได้ยศ ได้เกียรติยศสรรเสริญต่างๆ แต่พึ่งเพราะเหตุว่า ทุกคน มีใครบ้างไม่ตาย และวันไหน ใครรู้ ไม่มีใครสามารถที่จะรู้เลย แต่ระหว่างที่มีชีวิต สิ่งที่ประเสริฐที่สุด ก่อนจากโลกนี้ไป ไม่ใช่ตำแหน่งหน้าที่ยศถาบรรดาศักดิ์ เพราะเหตุว่าติดตามไปไม่ได้ แต่สิ่งที่ติดตามไปได้ คือ ความเห็นถูก ความเข้าใจถูก ซึ่งถ้าไม่มีการฟังพระธรรม โดยเถรวาท อย่างมั่นคง ในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่สามารถที่จะมีอะไรที่ประเสริฐที่ติดตามไป เพราะเหตุว่า ไม่เคยได้ยินได้ฟังเลย แต่ว่าถ้าได้ยินแล้ว ประมาทไม่ได้เลย ทุกคำ
~ ต้องเป็นผู้ที่ตรง พิจารณา จะรักษาประเทศชาติ ต้องเป็นคนตรงแล้วต้องไตร่ตรองและต้องเข้าใจถูกต้อง ถ้าเข้าใจผิด รักษาประเทศชาติ ไม่ได้
~ ผู้ประเสริฐ เถระ (มั่นคง) จริงๆ ต้องเป็นผู้ที่จะประพฤติปฏิบัติตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าไม่ประพฤติปฏิบัติตาม ไม่ใช่ภิกษุในพระธรรมวินัย ไม่ใช่คนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าคนของเรา แต่ต้องเป็นคนของอกุศล เพราะว่า พระองค์ทรงเป็นผู้ที่ประเสริฐ ด้วยเหตุนี้ ทุกคนต้องตรงจริงใจเพื่อที่จะได้ประโยชน์ทั้งประเทศชาติและตนเอง ตนเอง สำคัญมาก ถ้าตนเอง เป็นคนไม่ดี ประโยชน์ประเทศชาติ ก็เสื่อมโทรม
~ ถ้าผิดแล้ว ก็จะดำรงชีวิตแบบผิดๆ
~ เถรวาท ต้องเป็นผู้ที่มั่นคงในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าไม่มีการศึกษาให้เข้าใจ จะมั่นคงได้อย่างไร
~ การเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงบำเพ็ญพระบารมี (คุณความดีที่ทำให้ถึงฝั่งของการดับกิเลส) ไม่ใช่เพื่อพระองค์เองจะตรัสรู้ความจริงเฉพาะพระองค์เอง แต่ทรงมีพระมหากรุณารู้ว่าคนอื่นเมื่อได้ฟังคำของพระองค์แล้ว สามารถค่อยๆ เข้าใจความจริงแล้วก็จะแก้ปัญหาได้ แต่ถ้าไม่รู้จักความจริง ไม่มีทางที่จะแก้ปัญหาได้เลย
~ พระพุทธศาสนาคือคำสอน และเป็นคำสอนที่จะนำไปสู่การรู้ความจริงของทุกอย่างจนกระทั่งสามารถที่จะขัดเกลาความไม่รู้ตั้งแต่เกิดจนตายทุกชาติให้ค่อยๆ น้อยลง เพราะเหตุว่า ความไม่รู้ทำให้เกิดความไม่ดีทั้งหมด ความไม่รู้ความจริง จะนำไปสู่ความดีจนถึงที่สุดไม่ได้
~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ลึกซึ้ง บ่งถึงสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ซึ่งใครที่ไม่ได้ฟังคำของพระองค์ถูกปกปิดไว้ด้วยความไม่รู้และความคิดของตัวเอง เพราะฉะนั้น เรื่องของความเชื่อ ทำให้มีหลายลัทธิศาสนา ตามความเชื่อของบุคคลนั้นๆ แต่ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้ให้ใครเชื่อ ไม่สามารถที่จะทำให้ใครเชื่อได้ถ้าพระองค์ไม่ทรงแสดงความจริงคือธรรม ให้คนที่ได้รับฟังพิจารณาไตร่ตรองเกิดความเข้าใจของตนเองซึ่งมั่นคงขึ้นทีละเล็กทีละน้อย
~ ความไม่รู้ ความไม่ดี มีประโยชน์ไหม? และถ้าไม่รู้ ก็ยังคงทำตามความไม่รู้ ต่อเมื่อไหร่รู้ จึงรู้จักตัวเองเพิ่มขึ้น
~ ถ้าตัวเราเป็นคนหนึ่งที่เข้าใจ เราก็สามารถที่จะกล่าวถึงความจริงให้แต่ละหนึ่งๆ เข้าใจได้ในความถูกต้อง ความเป็นมิตรที่ดี คือ กัลยาณมิตร ต้องให้ความจริง ให้สิ่งที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น ผู้ที่เป็นเพื่อนที่ดี (เป็นมิตรที่ดี) ยิ่งกว่าใคร คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ ควรที่จะตระหนักว่า ประเทศไทย เป็น (ประเทศที่มีพระพุทธศาสนา) เถรวาทจริงๆ หรือเปล่า หรือเรียกว่าเถรวาท แต่ไม่รู้ว่าเถรวาทคืออะไร เพราะฉะนั้น ก็เหมือนของปลอมหรือเปล่า มีชื่อ ปิดป้ายไว้ แต่ความจริงคือ ความไม่รู้
~ แม้พระสัมมาสัมพระเจ้า จะทรงดับขันธปรินิพพานไปแล้ว แต่คำสอนของพระองค์เป็นศาสดาแทนพระองค์ทุกกาลสมัย เพราะเหตุว่า คำสอนทุกคำเป็นคำจริง ซึ่งไม่มีใครสามารถที่จะปฏิเสธได้ทุกกาลสมัยด้วย
~ ปัญหาเกิดที่แต่ละคน ถ้าแต่ละคนไม่มีปัญหา ประเทศชาติ ก็ไม่มีปัญหา
~ ไม่มีใครสามารถที่จะทำให้ความไม่รู้ที่มีอยู่ในใจของทุกคนออกไปได้เลย นอกจากปาฏิหาริย์คือธรรมเตชะ (ธรรมเดช) คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำ จะทำให้เริ่มรู้จักสิ่งที่มีทุกอย่างทั้งหมด ว่า ถ้าไม่มีปัจจัยที่จะทำให้เกิดขึ้น สิ่งนั้นก็เกิดไม่ได้
~ ปัญญา ซื้อไม่ได้ จะไปอ้อนวอนขอร้องจากใครๆ ก็ไม่ได้ เงินเท่าไหร่ในสากลโลกทั้งหมด ก็ไม่สามารถที่จะทำให้ปัญญาเกิดได้ แต่คำจริงของผู้ที่ได้ทรงตรัสรู้ ควรอย่างยิ่งที่จะพิจารณาให้เกิดความเข้าใจของตนเอง ซึ่งถ้าไม่ฟังไม่มีทางที่ใครจะมาทำให้คนอื่นรู้ได้เข้าใจได้
~ ความเป็นผู้ตรงและความจริงใจที่ต้องการจะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้ศึกษาพระธรรม ไม่คิดเองหรือว่าไม่ฟังคำของคนอื่นแล้วก็คิดว่านั่นคือคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ว่าต้องเป็นผู้ที่รู้จักคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อนแล้วจึงจะรู้ว่าคำของคนอื่นหรือคำใดก็ตาม (ที่) ไม่ใช่ความจริง ไม่ใช่คำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัส แต่ว่าเป็นความคิดส่วนตัวของแต่ละคน เพราะฉะนั้น ความเห็นผิด มี แน่นอน และความเห็นถูก จะมีก็ต่อเมื่อได้รู้ความจริงจากการศึกษาพระธรรม เพราะฉะนั้น คนที่ไม่ศึกษาพระธรรมแล้วจะรักษาพระธรรมได้ไหม?
~ การฟังพระธรรมทั้งหมด จะนานหรือจะน้อยสักเท่าไหร่ก็ตาม ประโยชน์ที่แท้จริง คือ ได้เข้าใจสิ่งที่ฟังแค่ไหน ไม่มีใครสามารถที่จะรู้ได้ แม้ผู้ที่ได้ฟังพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามากมาย แต่ละท่านก็มีความเข้าใจต่างระดับ บางท่านเป็นถึงพระโสดาบัน บางท่านก็เริ่มเข้าใจธรรม บางท่านก็อาจจะยังไม่เข้าใจ เพราะเหตุว่าไม่ได้สะสมมาพอที่จะเห็นประโยชน์ แต่ถ้าได้ยินคำว่าพระพุทธศาสนา เริ่มไตร่ตรองว่าเป็นประโยชน์ไหมที่จะได้เข้าใจ หรือเพียงแต่พระพุทธศาสนาคืออะไร ก็ไม่รู้เหมือนเดิม เพราะฉะนั้น ก็เป็นเรื่องของแต่ละท่านที่จะได้รับประโยชน์จากการร่วมสนทนากัน.
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลจิต
ของท่าน พลโทขจรฤทธิ์ นิลกำแหง
ผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
ที่ได้เห็นประโยชน์ของพระธรรม จัดให้มีการสนทนาธรรมในครั้งนี้
และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลจิต
ของท่าน พลโทขจรฤทธิ์ นิลกำแหง
ผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
ที่ได้เห็นประโยชน์ของพระธรรม จัดให้มีการสนทนาธรรมในครั้งนี้
และขอบพระคุณและอนุโมทนาในกุศลจิตของ อ.คำปั่น ด้วยค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของอาจารย์คำปั่น
และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่าน
กราบแทบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่งครับ