บรรลุธรรม ..เป็นอย่างไร

 
หนุ่มกำลังบุญ
วันที่  1 ก.ค. 2562
หมายเลข  30987
อ่าน  6,212

อยากทราบว่าคนที่"บรรลุธรรม"แล้วนั้น จะมี ลักษณะ/รูปแบบ/พฤติกรรม/การใช้ชีวิต ..อย่างไรครับ

(หรือ) การบรรลุธรรม เป็นอย่างไรครับ

กราบขอบคุณผู้ให้คำตอบที่สงสัยด้วยครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 2 ก.ค. 2562

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การบรรลุธรรม คือ การเห็นความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ตามควาเมป็นจริงและถึงการดับกิเลสได้ ซึ่งการบรรลุธรรมมีหลายระดับขั้น คือ พระอริยบุคคลหลายระดับ คือ พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ ซึ่ง การบรรลุธรรมด้วยปัญญา เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นพระโสดาบัน ก็ดับกิเลสได้ คือ ความเห็นผิด การยึดถือข้อปฏิบัติที่ผิด และความสงสัยในพระรัตนตรัย แต่ ยังมีกิเลส คือ โลภะ โทสะ เป็นต้น มีท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี นางวิสาขามหาอุบาสิกา ท่านเหล่านี้ ก็ยังมี โลภะ ความยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส ยังมีโทสะ ความโกรธ ความเศร้าโศกเสียใจ เพราะฉะนั้นชีวิตปกติของพระอริยบุคคลทีเ่ป็นพระโสดาบันในเพศคฤหัสถ์ ท่านก็ยังยินดีพอใจในสิ่งต่างๆ ยังมีครอบครัวได้ และมีการประกอบอาชีพค้าขาย เพียงแต่ชีวิตท่าน จะไม่ล่วงศีล 5 โดยปกติ และ ยินดีในการให้ การสละเป็นอย่างยิ่ง และเห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริง ไม่ยึดถือว่าเป็นสัตว์ บุคคล แต่เป็นธรรม ครับ

โดยนัยเดียวกัน พระสกทาคามี ก็ยังไม่ได้ดับโลภะ โทสะ แต่โลภะ โทสะเบาบางลงก็ใช้ชีวิตด้วยปัญญาดั่งเช่นพระโสดาบัน แต่เมื่อเป็นพระอนาคามีแล้ว ก็ดับกิเลส คือ โลภะ โทสะได้ ไม่ยินดี ติดข้องในรูป เสียง กลิ่น รส สิ่งที่กระทบสัมผัส ท่านก็ไม่ยินดีในการมีครอบครัว เป็นผู้มีศีล 8 เป็นปกติ ดั่งเช่น ฆฏิการช่างหม้อ มีศีล 8 เป็นปกติ เลี้ยงดูมารดา บิดาที่ตาบอด แต่ไม่ติดข้องในกามและไม่มีการครองเรือน เป็นแบบสามี ภรรยา ครับ ส่วนพระอรหันต์ ดับกิเลสหมดสิ้นแล้ว หากเป็นคฤหัสถ์ ไม่บวชในวันนั้นก็จะปรินิพพาน หากบวชแล้ว ท่านก็มีชีวิตแบบลูกจ้างที่รอวันเลิกงาน ไม่ได้ยินดีในความตายและไม่ได้ยินดีในความเป็นอยู่ ไม่ติดข้องในสิ่งทั้งปวง แต่มีชีวิตเพื่อประโยชน์กับผู้อื่น เป็นการใช้ชีวิตของผู้มีปกติอยู่ด้วยปัญญาและดับกิเลสได้หมดสิ้น ดั่งเช่น ชีวิตของพระพุทธเจ้า ท่านพระสารีบุตร เป็นต้น ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 2 ก.ค. 2562

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า ธรรม คืออะไร? ธรรม ไม่ได้อยู่ในหนังสือ ไม่ได้อยู่ในตำรา แต่ธรรม มีจริงในขณะนี้ ซึ่งจะต้องอาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง และพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงนั้น ก็เป็นพระธรรมที่เป็นไปเพื่อเข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ซึ่งผู้ที่จะได้ฟังได้ศึกษาและได้รับประโยชน์จากพระธรรมนั้น ต้องเป็นผู้ได้เห็นประโยชน์ของพระธรรม สะสมศรัทธาที่จะฟังพระธรรมมาแล้วอย่างนับชาติไม่ถ้วน จึงทำให้ผู้นั้นสนใจที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาต่อไป สังเกตได้จากพระอริยสาวกทั้งหลายในอดีต ก่อนที่จะได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมนั้น ท่านได้สะสมปัญญา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งขาดไม่ได้เลย ก็คือ ได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เมื่อได้ศึกษาพระธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนาแล้วจะเข้าใจว่า ทุกคำในพระไตรปิฎก เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกจริงๆ ก็คือ เพื่อเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏตามความเป็นจริง เพราะสิ่งที่มีจริง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้แล้วโดยละเอียด โดยประการทั้งปวง พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงเป็นไปเพื่อละกิเลส เป็นไปเพื่อการตรัสรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง เมื่อมีปัญญาคมกล้า เจริญสมบูรณ์พร้อมก็สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ ตามลำดับมรรค สูงสุดคือถึงความเป็นพระอรหันต์ ดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาด เมื่อดับขันธปรินิพพานแล้วไม่มีการเกิดอีกในสังสารวัฏฏ์ เป็นผู้สิ้นทุกข์โดยประการทั้งปวง

ในสมัยปัจจุบันนี้ ยังเป็นช่วงเวลาที่พระพุทธศาสนายังดำรงอยู่ ผู้ที่เข้าใจพระธรรมและแสดงพระธรรมตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ก็ยังมีอยู่ จึงควรอย่างยิ่งที่จะได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมปัญญาต่อไป เพราะสังสารวัฏฏ์ เป็นเพียงที่พักชั่วคราวเท่านั้น เกิดในภพหนึ่งชาติหนึ่ง สั้นมาก พักแล้วก็ต้องเดินทางต่อไปอีกในสังสารวัฏฏ์ สิ่งที่จะเป็นที่พึ่ง และพึ่งได้อย่างแท้จริง คือ กุศลธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูก ครับ.

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
หนุ่มกำลังบุญ
วันที่ 3 ก.ค. 2562

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 20 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Bunma
วันที่ 8 มี.ค. 2567

อนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ