อนัตตา

 
ลุงหมาน
วันที่  18 ส.ค. 2562
หมายเลข  31109
อ่าน  861

อนัตตา ที่อยู่ภายกฏไตรลักษณ์

อนัตตา ที่พ้นจากกฏไตรลักษณ์

มีสภาพต่างกันหรือเหมือนกันอย่างไรครับ

ขอคำอธิบายครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 18 ส.ค. 2562

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อนัตตา ไม่มีแยกว่าพ้นจากไตรลักษณ์ หรืออยู่ในไตรลักษณ์ ครับ อนัตตา ก็คือ อยู่ในไตรลักษณะนั่นเอง

ซึ่ง ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ด้วย อรรถว่าดังนี้ครับ

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ เล่ม ๒ ภาค ๑- หน้าที่ 172ชื่อว่า เป็น อนัตตา เพราะเหตุ ๔ เหล่านั้น คือ โดยความเป็นของสูญ ๑ โดยความ

ไม่มีเจ้าของ ๑ โดยเป็นสิ่งที่ควรทำตามชอบใจไม่ได้ ๑ โดยปฏิเสธต่ออัตตา ๑.

------------------------------------------------------------------------

โดยความเป็นของสูญ คือ ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา เพราะไม่ใช่ว่าไม่มีอะไรเลย

สูญไปเลย แต่มีสภาพธรรม เพียงแต่สูญ คือ ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตนในสภาพธรรมนั้น

เลย เพราะเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา สัตว์ บุคคล ครับ

โดยความไม่มีเจ้าของ คือ ไม่มีใครเป็นเจ้าของสภาพธรรม ที่คิดว่าเป็นเจ้าของ

ทรัพย์สมบัติ ทรัพย์สมบัตินั้นก็ไม่รู้ว่าว่ามีคนเป็นเจ้าของเพราะเป็นแต่เพียงรูป และ

ทรัพย์สมบัติก็เสื่อมสบลายไป ไม่ใมีใครที่เป็นเจ้าของได้จริงๆ ผู้ที่เป็นเจ้าของ ก็ต้อง

จากไป ไม่มีใครเป็นเจ้าของจริงๆ เพราะเป็นแต่เพียงธรรมที่เป็นอนัตตา ครับ

โดยเป็นสิ่งที่ควรทำตามชอบใจไม่ได้ คือ ไม่สามารถให้ จิต เจตสิก รูปและสภาพ

ธรรมเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้น ตามใจชอบไม่ไ้ด้เลย และไม่ให้ดับไปก็ไม่ได้ จะให้ยั่งยืน

อยู่ตลอดเวลาไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้

โดยปฏิเสธต่ออัตตา คือ คือ ปฏิเสธว่าไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตนอยู่ในสภาพธรรม ครับ

นี่คือ อรรถ 4 อย่างที่แสดงถึงความเป็นอนัตตาของสภาพธรรม

ซึงการจะถึงความเป็นอนัตตา ก็ด้วยการประจักษ์ด้วยปัญญาเท่านั้น โดยเริ่มจากากร

ฟังพระธรรมที่ถูกต้อง ปัญญาก็จะค่อยๆ เจริญจนถึงการประจักษ์สภาพธรรมว่าไม่ใช่เรา

เป็นแต่เพียงธรรม ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 18 ส.ค. 2562

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นหนึง ไม่เป็นสอง หมายความว่า เป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น ตามความเป็นจริงของสภาพธรรม เปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่นก็ไม่ได้ พระองค์ทรงแสดงธรรมไปตามความเป็นจริง จากการทรงตรัสรู้ ว่า ธรรมทั้งปวง เป็นอนัตตา เพราะความหมายของอนัตตา คือ ไม่ใช่ตัวตน ไม่มีใครเป็นเจ้าของ เป็นสภาพธรรมที่ว่างเปล่าจากความเป็นตัวตนสัตว์ บุคคล เป็นสภาพธรรมที่บังคับบัญชาไม่ได้ ปฏิเสธต่ออัตตาอย่างสิ้นเชิง ความจริงเป็นอย่างนี้ ความเป็นอนัตตา ครอบคลุมสิ่งที่มีจริงทั้งหมด คือ จิต เจตสิก รูป และพระนิพพาน เพราะเป็นธรรมแต่ละอย่างๆ ที่มีจริง ที่ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน หาความเป็นสัตว์เป็นบุคคลในสภาพธรรมที่มีจริง ไม่ได้เลย

สำหรับพระนิพพาน เป็นสภาพธรรม ที่ไม่เกิดไม่ดับ พ้นจากการเกิดกับ แต่ก็เป็นอนัตตา เพราะเป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ ที่ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน

พระธรรม เป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้ง ก็ต้องค่อยๆ ฟังค่อยๆ ศึกษา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ครับ

ขอเชิญฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้

แม้คำว่า อนัตตา
อนัตตาไม่ใช่คำแปล

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 22 ส.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 24 ส.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
วิริยะ
วันที่ 1 ก.ย. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 20 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ