พระโสดาบันกับความโกรธ
ขอเรียนถามท่านอาจารย์ครับ
จากที่ได้ฟังอาจารย์มานะครับ พระโสดาบันยังไม่สามารถที่จะละความโกรธ (พยาปาท) ได้ ซึ่งย่อมกระทำอกุศลกรรมทางกาย และวาจาได้ เพราะพระโสดาบันยังไม่ใช่พระอรหันต์ อยากทราบว่าพระโสดาบันยังสามารถทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้หรือไม่ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ก่อนอื่นต้องทราบว่า พระโสดาบัน ไม่ใช่พระอรหันต์, ผู้ที่หมดจดจากกิเลสโดยประการทั้งปวง ดับกิเลสได้ทั้งหมด ต้องเป็นพระอรหันต์เท่านั้น ส่วนพระอริยบุคคลขั้นต่ำกว่านั้น ยังเป็นผู้มีกิเลส ยังมีเหตุปัจจัยให้อกุศลจิตเกิดขึ้น เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย แต่ไม่มีกำลังเหมือนกับปุถุชนผู้หนาแน่นด้วยกิเลส เพราะเหตุว่ากิเลสอย่างหยาบที่จะเป็นเหตุให้ล่วงศีลและเป็นเหตุเกิดในอบายภูมิ นั้น ดับได้อย่างเด็ดขาดตั้งแต่เป็นพระโสดาบัน พระอริยบุคคลทุกขั้นไม่มีการล่วงศีล และจะไม่ไปเกิดในอบายภูมิอีก และถ้าบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว ดับขันธปรินิพพาน ก็ไม่มีการเกิดอีกในสังสารวัฏฏ์ สิ้นทุกข์โดยประการทั้งปวง พระโสดาบัน ถึง พระอนาคามี ชื่อว่าเป็นผู้มีโทษน้อย ท่านดับกิเลสได้ตามสมควรแก่มรรคที่ท่านได้ กิเลสที่ดับแล้วจะไม่เกิดขึ้นอีก แต่ก็ยังมีกิเลสบางส่วนที่ยังไม่สามารถดับได้ กล่าวคือ ยังมีกิเลสเหลืออยู่ จึงยังมีอกุศลจิตเกิดขึ้นได้ แต่ไม่มากเหมือนกับปุถุชน
พระโสดาบัน ท่านจะไม่ล่วงศีล ๕ อย่างเด็ดขาด ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่พูดเท็จ และไม่ดื่มสุราเมรัยฯ ท่านจะไม่ล่วง แม้เพราะเหตุแห่งชีวิต แต่เนื่องจากท่านยังมีอกุศลเกิดขึ้นเป็นไปได้ อาจจะมีการกระทำในสิ่งต่างๆ เป็นไปตามอกุศลได้ แต่ไม่มีกำลังเหมือนอย่างปุถุชน เช่น ช่วงหนึ่งที่ท่านอนาถบิณฑกเศรษฐี สั่งให้คนใช้ลากคอหลานชายผู้ประพฤติไม่เหมาะไม่ควรออกจากบ้าน แต่ไม่มีทางที่ท่านจะมีอกุศลที่มีกำลังถึงกับทำร้ายร่างกายหรือฆ่า เป็นต้น
ความเป็นปุถุชน กับ คามเป็นพระอริยบุคคล เทียบกันไม่ได้เลย เพราะปุถุชนคือผู้หนาแน่นไปด้วยกิเลส เป็นผู้มีโทษมาก เพราะมีกิเลสมากและสามารถกระทำอกุศลกรรมหนักๆ ได้ แต่ก็สามารถขัดเกลาได้ ถ้าเห็นโทษของอกุศลธรรม เห็นคุณประโยชน์ของกุศลธรรม เพราะการที่จะค่อยๆ ขัดเกลากิเลสไปตามลำดับนั้น ต้องอาศัยการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม สะสมปัญญาไปตามลำดับ กิเลสที่มีมาก ต้องมีปัญญา ถึงจะดับกิเลสได้ ถ้าไม่มีปัญญาแล้ว ก็ไม่สามารถดำเนินไปถึงซึ่งการดับกิเลส ได้ ครับ.
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
พระธรรมคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น ที่จะทำให้ผู้ฟังมีความเข้าใจความจริง เห็นโทษของอกุศล และเห็นประโยชน์ของกุศล โดยกุศลที่ประกอบด้วยปัญญา เข้าใจลักษณะสภาพธรรมที่มีจริง ในแต่ละขณะที่เกิดปรากฏ ที่จะนำไปสู่การละคลายความไม่รู้ ความห็นผิดในสภาพธรรมนั้น ว่า เป็นสัตว์ บุคคล จึงจะเริ่มดับกิเลสได้ตามกำลังของปัญญา ซึ่งความจริงนี้ จะไม่รู้ได้เลยถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เมื่อเข้าใจ จึงเห็นพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และบูชาพระคุณของพุทธองค์ด้วยความเข้าใจนั้นเพิ่มขึ้นตามกำลังที่เข้าใจ
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนากุศล อ.คำปั่น อักษรวิลัย ด้วยค่ะ