ถึงเวลาแล้วที่ชาวพุทธจะรับฟังสิ่งที่ถูกต้อง

 
khampan.a
วันที่  6 ก.ย. 2562
หมายเลข  31152
อ่าน  1,684

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น



ประมวลสาระสำคัญจากการสนทนาพิเศษ

เรื่อง

"พระพุทธศาสนา กับ สังคมไทย [ตอนที่ ๑]"

ที่บ้านคุณทักษพล - คุณจริยา เจียมวิจิตร

วันศุกร์ที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๒





(ทีมงานอาสาสมัครบันทึกวีดีโอการสนทนาพิเศษในวันนี้)



~ ต้องมีคนหลายคนรวมกันจึงจะเป็นสังคม แม้จะเป็นเพียงหนึ่งคนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงมีพระมหากรุณาแสดงประโยชน์ให้แม้แก่คนเดียว แต่เมื่อหลายๆ คนรวมกันเข้า สิ่งที่พระองค์ทรงแสดงให้แต่ละหนึ่งคนเป็นผู้ที่มีความเข้าใจ ว่า อะไรถูก อะไรผิด อะไรดี อะไรชั่ว ก็จะทำให้คนแต่ละหนึ่งคนเมื่อเป็นคนดีแล้วสังคมก็ต้องดี

~ ถ้าแต่ละคน ไม่มีความเข้าใจความจริงเลย จะอยู่กันอย่างไร ก็อยู่กันอย่างไม่รู้

~ สำนักปฏิบัติ ง่ายไหม? ไม่ได้มีความเข้าใจในคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงตั้งแต่ทรงตรัสรู้จนถึงกาลที่พระองค์ได้เสด็จดับขันธปรินิพพาน แต่คำสอนทั้งหมดตลอด ๔๕ พรรษา ใครสนใจที่จะศึกษาด้วยความเคารพอย่างยิ่งในความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า?

~ ผู้ที่ศึกษาพระธรรมด้วยความเคารพเท่านั้น ที่จะเห็นถึงคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในทุกคำที่พระองค์ได้ตรัสไว้ดีแล้ว ซึ่งต้องศึกษาอย่างละเอียดมาก ด้วยความเคารพ เพราะใครจะมีปัญญาที่จะสามารถเข้าใจคำที่พระองค์ตรัส โดยไม่ศึกษาอย่างละเอียด?

~ ถ้าเป็นภิกษุผู้ที่เข้าใจพระธรรม ก็จะเป็นผู้ที่ประพฤติปฏิบัติขัดเกลากิเลสตามพระวินัยบัญญัติ กำกับไว้ชัดมาก

~ ต้องไม่ลืมว่า จะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อเข้าใจธรรม ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา พระองค์ตรัสไว้ ถ้าไม่เห็นธรรม จะเห็นความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อย่างไร

~ ถ้าเข้าใจพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหรือไม่มีพระพุทธรูป ระลึกถึงพระคุณของพระองค์ได้ไหม ถ้าเข้าใจพระธรรมแล้วระลึกถึงพระคุณ เท่านั้น ไม่ใช่ใครก็ตามไม่เข้าใจธรรมเลยแล้วก็มีพระพุทธรูป ไหว้อะไร? ไหว้รูป

~ บางทีเราไม่เห็นรูปของพ่อแม่ แต่เราก็คิดถึงพระคุณของท่านได้ ใช่ไหม? แต่เมื่อเห็นรูปคุณพ่อคุณแม่ขณะใด ขณะนั้นก็เตือนให้ระลึกถึงคุณความดี เพราะว่าเวลาที่เราไม่เห็น มีมากกว่าเวลาที่เห็น

~ ต้องเป็นผู้มีความจริงใจ คือ สัจจบารมี, สิ่งที่มีจริง ไม่ว่าจะเป็นกุศลหรืออกุศล ก็มีจริง เพราะฉะนั้น ผู้ที่รู้ความจริง ก็เปลี่ยนไม่ได้ ผิด ก็คือ ผิด ถูกก็คือถูก แล้วจะแก้ไขหรือเปล่า เพราะว่าบางคนทั้งๆ ที่รู้ว่าสิ่งนั้นผิด ก็ไม่แก้ แต่ถ้ามีความเข้าใจในพระธรรมวินัยจริงๆ เห็นคุณของพระรัตนตรัยความเคารพอย่างยิ่ง จะแก้ไหม? เมื่อรู้ว่าผิด ก็ต้องแก้ เพราะฉะนั้น สัจจบารมี ถ้าไม่มี คนนั้นไม่มีทางที่จะงอกเงยในทางธรรมที่จะเข้าใจถูกต้องได้ เพราะเป็นคนที่ไม่ตรง ไม่สามารถจะละทิ้งสิ่งที่ผิดได้

~ ที่ชาวบ้านไม่เข้าใจในพระธรรมวินัย ทำในสิ่งที่ผิด เพราะเหตุว่า พระภิกษุซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากชาวบ้าน ไม่ว่าในเรื่องของอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค ไม่ได้ทำสิ่งตอบแทน หมายความว่า ไม่ได้กระทำสิ่งที่จะอนุเคราะห์แก่ชาวบ้านเลย คือ ไม่ได้สอนให้เขาเข้าใจ แต่ว่าให้เขาทำอย่างอื่นที่ผิด ถ้าชาวบ้านมีความรู้มีความเข้าใจธรรม จะทำผิดอย่างนี้หรือ เพราะฉะนั้น ใครเป็นเหตุให้ชาวบ้านทำสิ่งที่ผิด เพราะพระภิกษุไม่ได้ให้สิ่งที่ถูกแก่ชาวบ้าน

~ ปัญหาสังคม ไม่ใช่ว่าพึ่งจะมีในวันนี้ แต่มีทุกวัน นานมาแล้วด้วย ในสมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่เสด็จดับขันธปรินิพพาน มีคนมีทุกข์ไปเฝ้าหรือเปล่า? มี พระองค์ทรงแสดงความจริงของสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ให้เขาเข้าใจถูกต้อง

~ ใจเหมือนกันทุกคนหรือเปล่า ทุกคนมีใจเดียวกันหรือเปล่า คนดื้อ คนว่ายาก กับ คนว่าง่ายเหมือนกันหรือเปล่า แล้วจะให้คนว่ายาก มา (เป็นคน) ว่าง่ายได้ไหม ก็ต้องค่อยๆ สะสมด้วยความเป็นผู้ที่ตรง และสิ่งใดถูกก็ต้องถูก พร้อมที่จะละสิ่งที่ผิด พร้อมที่จะแก้ไข รู้ว่าแก้ยาก แต่ก็ควรที่จะเริ่ม

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมทุกประการ ทุกอย่างโดยสิ้นเชิง เพราะฉะนั้น คำของพระองค์ ตอบปัญหาทุกปัญหา และทุกกาลสมัยด้วย

~ จะบวชทำไม ในเมื่อทำหน้าที่ของคฤหัสถ์ทุกอย่าง เช่น การให้ความรู้ต่างๆ ที่จะสงเคราะห์ในด้านอาชีพต่างๆ ซึ่งนั่นไม่ใช่หน้าที่ของพระภิกษุเลย เพราะพระภิกษุที่บวชแล้ว จะไม่เป็นคฤหัสถ์อีกต่อไป

~ ไม่ว่าในสมัยใด ภิกษุในพระธรรมวินัย เปลี่ยนไม่ได้ ต้องเป็นภิกษุในพระธรรมวินัย คือ ไม่ทำหน้าที่ของคฤหัสถ์ เพราะฉะนั้นพระภิกษุมีการสงเคราะห์คฤหัสถ์อย่างใหญ่หลวงมากยิ่งกว่าการที่จะให้อาชีพใดๆ ทั้งสิ้น (ด้วยการแสดงพระธรรมให้คฤหัสถ์ได้เข้าใจถูกเห็นถูก) เพราะว่าอาชีพไม่มีที่สิ้นสุด วิชาการก็ไม่มีที่สิ้นสุด เขาก็ศึกษากัน เป็นครูบาอาจารย์ มีสิ่งต่างๆ มากมายแต่ไม่เข้าใจธรรม เพราะฉะนั้น ถ้าพระภิกษุ มัวมุ่งที่จะสงเคราะห์อย่างที่คฤหัสถ์เขาทำกัน จะมีเวลาที่ไหนศึกษาพระธรรมและขัดเกลากิเลสด้วย

~ เพื่อจะไม่เป็นการผิดพระธรรมวินัย พระภิกษุ ก็ลาสิกขาได้ แล้วก็มาทำกิจของคฤหัสถ์ ไม่ผิดเลย และไม่ทำลายพระพุทธศาสนาด้วย

~ แม้ว่าจะมีทรัพย์สินเงินทองไม่ขาดอะไรเลยทั้งสิ้น ก็ไม่ฟังพระธรรม (ก็มี) ไม่ใช่ว่าพอมีเงินมีทองมากมายแล้วก็มาฟังพระธรรม ก็ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะฉะนั้น ก็ต้องรู้จริงๆ อย่างละเอียดว่า อะไรมีค่ากว่ากัน? ทรัพย์สมบัติเงินทอง หรือว่า ความเข้าใจถูกต้องในธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญพระบารมีนานมากกว่าจะทรงตรัสรู้และเมื่อทรงตรัสรู้แล้วเห็นว่าลึกซึ้งมาก แต่ก็ทรงเห็นว่าคนที่เข้าใจได้ มี เพราะฉะนั้น พระองค์ก็ทรงอนุเคราะห์ชาวโลกด้วยการทรงแสดงความจริงที่ได้ทรงตรัสรู้ คนอื่นรู้ไม่ได้ ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม แล้วถ้าไม่ฟังธรรมไม่ศึกษาธรรม พระศาสนาก็ดำรงอยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้น พระภิกษุ ไม่มีหน้าที่อย่างคฤหัสถ์ (ที่จะไปช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ) เพราะนั่นเป็นหน้าที่ของรัฐบาล เป็นหน้าที่ของประชาชนคนดีที่จะช่วยเหลือกันและกัน แต่ก็จะต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจดี และจิตใจดีงามจะเพิ่มขึ้นได้ มีมากขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อได้เข้าใจพระธรรม

~ ยิ่งมีภัยพิบัติต่างๆ ก็น่าจะคิดว่า อะไรเป็นเหตุ เพราะฉะนั้น ถ้าเขารู้ว่าอะไรเป็นเหตุ เขาก็แก้เหตุได้ คิดที่จะรู้เหตุ เพื่อจะได้ไม่ทำเหตุที่ทำให้ต้องเดือดร้อน (เพราะเหตุที่ทำให้เดือดร้อน คือ อกุศลกรรม)

~ ให้อะไรประเสริฐกว่าการให้ทรัพย์สิ่งของ ทรัพย์สิ่งของ ก็ยังหมด แต่ความเข้าใจธรรม มีแต่เพิ่มพูนขึ้น คนอื่นก็ให้ไม่ได้ ถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรม

~ ถ้าทุกคนมีความจริงใจ เป็นคนตรง ก็สามารถที่จะเริ่มพิจารณาถึงความถูกต้อง และเมื่อรู้ว่าอะไรถูก ย่อมทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่ที่ผิดอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะเหตุว่า พูดคำว่า พระภิกษุ แต่พระภิกษุ ก็ไม่ได้เป็นพระภิกษุในพระธรรมวินัย เพราะฉะนั้น ใคร ที่จะดำรงพระพุทธศาสนาได้ ก็ต้องพุทธบริษัททั้งพระภิกษุและคฤหัสถ์ที่มีความเข้าใจที่ถูกต้องในพระธรรมวินัย

~ เพราะไม่รู้ จึงทำในสิ่งที่ผิดๆ มาโดยตลอด เพราะฉะนั้น ถ้าจะถูก ก็คือ เริ่มเห็นคุณของพระรัตนตรัย ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ตรัสไว้ ไม่ล่วงละเมิด ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่แก้ไข

~ ภิกษุ ต้องไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง และพระภิกษุต้องเข้าใจพระธรรมวินัย มิฉะนั้น ไม่ใช่พระภิกษุ แล้วจะบวชทำไม ถ้าไม่ศึกษาธรรม

~ ต้องตรงต่อพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ทุกคำ ไม่มีใครเป็นศาสดานอกจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่กล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรงตามที่ได้ทรงแสดงไว้ คนนั้นก็ดำรงรักษาพระพุทธศาสนา แต่ถ้าไม่พูดตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว ก็ไม่ใช่ชาวพุทธแล้ว เขานับถือใคร

~ ถึงเวลาที่ชาวพุทธจะศึกษา รับฟังสิ่งที่ถูกต้องที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้วทั้งสามปิฎก ใครกล่าวตามนั้น ก็คือว่า ไม่ผิด ถ้าเป็นคำที่ถูกต้อง ทำให้เข้าใจได้ อะไรเป็นโทษ อะไรเป็นประโยชน์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้เพื่อทรงอนุเคราะห์สัตว์โลกให้ได้เข้าใจธรรม ด้วยคำของพระองค์ ไปสำนักปฏิบัติไม่ได้เข้าใจคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย แล้วก็มีสำนักปฏิบัติทั่วโลก บางคนก็คิดว่าพระพุทธศาสนาคือสำนักปฏิบัติ

~ ใครก็ตาม อยู่ที่ไหนก็ตามที่เห็นคุณของความเข้าใจถูกต้องความรู้ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนแล้วก็เกิดมีแล้วก็เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด จะไม่ดำรงรักษาสิ่งนั้นหรือ นี่คือพุทธบริษัท เพราะฉะนั้น ไม่มีใครสามารถที่จะทำลายพระพุทธศาสนาได้ นอกจากพุทธบริษัทที่ไม่เข้าใจธรรม

~ เราจะไปให้ใครสนใจธรรม ไม่ใช่วิสัย เพราะฉะนั้น ที่พุทธบริษัทพยายามดำรงพระธรรมคำสอน ก็โดยการศึกษาให้เข้าใจถูกต้อง ด้วยความเคารพแล้วก็เมื่อมีความเข้าใจแล้ว ก็ทำทุกทางที่จะให้คนอื่นได้มีโอกาสได้เข้าใจธรรมด้วย เหมือนอย่างที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงทำเป็นตัวอย่าง เพราะฉะนั้น เราก็จะไม่เพิกเฉย แต่จะทำทุกทาง เพราะฉะนั้น อยู่ที่ว่าพุทธบริษัทเข้าใจความเป็นพุทธบริษัทหรือเปล่า หน้าที่ของพุทธบริษัทคืออะไร นอกจากเรียนเข้าใจธรรมแล้ว ยังมีหน้าที่ดูแลพุทธบริษัทด้วยกันด้วย

~ ต้องไม่ลืมสัจบารมี เป็นคนที่ตรง เพราะอนาคตยังอีกยาวไกลมาก เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีความเข้าใจว่าอะไรถูกอะไรผิด ไม่มีทางที่จะเป็นชาวพุทธได้ แล้วการที่จะรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด ต่างคนต่างคิดไม่ได้ ต้องตามพระธรรมวินัย



...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และ อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
Nataya
วันที่ 6 ก.ย. 2562

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
มกร
วันที่ 6 ก.ย. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Thanapolb
วันที่ 6 ก.ย. 2562

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์​ที่เคารพยิ่ง
และ อนุโมทนาในกุศลจิตของอาจารย์คำปั่น​และผู้ร่วมสนทนาทุกท่าน ครับ..

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Nattaya40
วันที่ 6 ก.ย. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
meenalovechoompoo
วันที่ 7 ก.ย. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Dechachot
วันที่ 8 ก.ย. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Khemsai
วันที่ 8 ก.ย. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เมตตา
วันที่ 10 ก.ย. 2562

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง ในการสืบทอดพระพุทธศาสนา ด้วยการให้เข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ ตรงตามความเป็นจริง ค่ะ และ กราบอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 20 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ