เจ้าแมวขันเงิน
เคยได้ฟังท่านอาจารย์ สุจินต์ เล่าเรื่องเจ้าแมวขันเงิน ในแนวทางเจริญวิปัสสนา ว่าเป็นแมวที่มีความอดกลั้นในเรื่องอาหารคือมักจะให้แมวตัวอื่นๆ กินก่อนแล้วตัวเองค่อยกินทีหลัง ทั้งๆ ที่ตัวเองสามารถที่จะแย่งกินก่อนได้ แต่ก็ไม่ทำ เมื่อผมฟังแล้วจึงพยายามเอาอย่าง และอยากฟังอีก แต่ไม่ทราบว่าอยู่ในตลับไหนตอนไหน ขอความกรุณาผู้รู้ช่วยสงเคราะห์บอกด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เรื่องแมวขันเงิน
ปรากฏอยู่ในคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ชุดแนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ ๑๕๒๗ ครับ
(ขอเชิญฟังได้ที่ลิ้งค์นี้ ครับ
แนวทางเจริญวิปัสสนา แผ่นที่ ๒๖
คำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในช่วงดังกล่าวนั้น มีดังนี้.-
"ขอเล่าเรื่องแมวของคุณธงชัย ชื่อ ขันเงิน เป็นแมวที่รูปร่างก็ไม่สวย อันนี้ก็เป็นผลของอกุศลกรรมที่ทำให้ปฏิสนธิด้วยอเหตุกอกุศลวิบาก แล้วก็ยังไม่มีกรรมที่จะมาเกื้อกูลให้เป็นสัตว์ที่สวยงามด้วย แต่ว่านิสัยดี นิสัยแปลกมาก คุณธงชัยเล่าว่า เคยทดลองขันเงินหลายครั้ง มีปลาทอดอยู่บนโต๊ะ แล้วคุณธงชัยก็เห็นขันเงินนั่งอยู่ ปกติขันเงินจะไม่หยิบอาหารบนโต๊ะเลย คุณธงชัยแอบดู ก็เห็นขันเงินมองปลาทอดบนโต๊ะ แล้วก็ยกมือ ๒ ข้างขึ้น จะเรียกว่า เท้าหน้าก็ได้ คุณธงชัยก็เกือบที่จะห้ามขันเงิน แต่ก็คอยดูต่อไปอีกสักหน่อย ก็เห็นขันเงินนี่เอื้อมไป แล้วก็หยุด ถ้าเป็นคน ก็ยังสงสัยว่า จะมีหิริโอตตัปปะที่จะสามารถวิรัติในขณะนั้นได้ไหม ห้ามใจของตัวเอง แม้ว่าจะเป็นสัตว์ดิรัจฉาน ที่จะถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ แต่ว่าเป็นสิ่งที่น่ารับประทานมาก น่าพอใจมากสำหรับแมว เพราะเหตุว่าเป็นปลาทอดอยู่บนโต๊ะ แล้วขันเงินก็หักใจลงจากโต๊ะ เดินออกไป และปรากฏว่าขันเงินเป็นผู้ที่มีจิตใจดีในเรื่องของการบริโภค แม้ว่าจะเป็นอาหารที่ตัวเองชอบ เช่น กุ้ง หรืออาหารที่ถูกปาก แต่ว่าถ้ามีแมวตัวอื่นอยู่ใกล้ๆ ขันเงินจะปล่อยให้แมวตัวอื่นกินเสียก่อน ถึงแม้ว่าจะไม่เหลือไว้สำหรับขันเงินอีก เพราะว่าแมวที่กินก็กินกุ้งหมดไปแล้ว ขันเงินก็ไม่ว่าอะไร แต่ว่าเป็นเวลาอื่น ขันเงินต้องเป็นใหญ่ คือว่าขันเงินอยู่ก่อน เพราะฉะนั้น แมวที่มาทีหลังจะเป็นใหญ่กว่าขันเงินไม่ได้ เว้นเวลาบริโภค ตัวที่มาทีหลังก็รู้ดีว่า พอถึงเวลากิน ก็เหยียบหัวขันเงิน ทำทุกอย่างได้หมด ซึ่งขันเงินจะไม่ว่าอะไรเลย ปล่อยให้กินจนอิ่ม จนหมดเรียบร้อยแล้ว ขันเงินก็จะกิน
เพราะฉะนั้น การสะสมอุปนิสัยถึงแม้ว่าเป็นสัตว์ดิรัจฉานก็ไม่มีสติปัญญาพอที่จะฟังธรรมเข้าใจ หรือว่าพิจารณาเหตุผลให้ยิ่งกว่านั้น แต่ว่าการสะสมของหิริบ้าง โอตตัปปะบ้าง ก็ไม่สูญหายไปไหน ทำให้สามารถที่จะมีอัธยาศัยที่ดีงามต่างๆ กันได้
อีกตัวหนึ่งก็เป็นสัตว์เลี้ยงของคุณดวงเดือน เป็นเป็ดตัวเล็กๆ ชื่อ เจ้าจิ๊บ เดินตามเสมอไม่ว่าจะไปไหน ถึงแม้เวลาที่รับประทานอาหารเจ้าจิ๊บก็จะนอนอยู่ที่รองเท้า แล้วเวลาที่เจ้าจิ๊บมีเพื่อนใหม่ เจ้าจิ๊บก็จะสอนเพื่อนใหม่ให้กินรำ ให้กินน้ำ ให้กินแหน สาธิตให้ดูจนกระทั่ง จะเรียกว่า พุงป่อง หรือว่าไม่ทราบว่าส่วนไหนของเป็ดที่ทำให้เห็นว่า เจ้าจิ๊บก็แย่หน่อยเพราะการสาธิต
นี่ก็คงจะเป็นความเมตตากรุณาของสัตว์ดิรัจฉาน แม้แต่ตัวเล็กนิดเดียว แต่ว่าเมื่อตัวอื่นเล็กกว่า ก็มีน้ำใจที่จะช่วยเหลือตามประสาสัตว์ เพราะฉะนั้น การสะสมของกุศลและอกุศลก็ไม่สูญหาย แม้ว่าไม่ได้ปฏิสนธิด้วยมหาวิบาก หรือมหาวิบากญาณสัมปยุตต์ ก็ยังมีโอกาสที่จะทำให้สิ่งที่สะสมมานั้น ทำให้กายวาจาเป็นไปตามการสะสมได้"
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ฟังแล้วอ่านแล้วทำให้เข้าใจสภาพธรรม
กราบขอบคุณและอนุโมทนาอาจารย์คำปั่นค่ะ