บาปของฆราวาสที่ห้ามมรรคผล

 
หาทาง
วันที่  17 ธ.ค. 2562
หมายเลข  31379
อ่าน  1,381

ผมได้อ่านคำสอนของพระท่านหนึ่ง ท่านบอกว่า ถ้าเราได้ล่วงละเมิดพ่อแม่เอาไว้แล้วไม่ได้ทำพิธีขอขมาจะไม่สามารถทำมรรคผลให้เกิดขึ้นได้ หรือแม้แต่คิดโกรธเคืองก็จะทำมาหากินไม่ได้ มีแต่ไม่เจริญถ่ายเดียว ในประเด็นนี้ พระพุทธองค์ท่านเคยตรัสไว้ไหมครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 18 ธ.ค. 2562

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ หน้า ๒๙๔

บุคคลใดเลี้ยงมารดาและบิดาโดยธรรม เพราะการบำรุงมารดาและบิดานั่นแล บัณฑิตย่อมสรรเสริญบุคคลนั้นในโลกนี้ทีเดียว บุคคลนั้นละจากโลกนี้ไปแล้ว ย่อมบันเทิงในสวรรค์

(พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค มาตุโปสกสูตร)

[เล่มที่ 60] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๖ หน้า ๑๖๐

ผู้ไม่เลี้ยงดูมารดาบิดา ย่อมเดือดร้อนในภายหลังว่า เราสามารถพอที่จะเลี้ยงดูมารดาและบิดาผู้แก่เฒ่าชราได้ ก็มิได้เลี้ยงดูท่าน

(พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก ชนสันธชาดก)

แต่ละคนก็มีความประพฤติที่ไม่ดีด้วยกันทั้งนั้น มีความประพฤติเป็นไปตามกำลังของกิเลส มากบ้าง น้อยบ้าง ตามการสะสมของแต่ละบุคคล แต่เบื้องต้นให้เข้าใจว่า กิเลสทั้งหลาย ทำร้ายตนเอง เป็นโทษกับตนเอง และ สิ่งที่ไม่ดีที่ได้ทำไปแล้ว เมื่อถึงคราวให้ผล ผลที่เกิดขึ้นย่อมเป็นผลที่ไม่ดี ไม่น่าปรารถนาไม่น่าใคร่ไม่น่าพอใจ เท่านั้น ตามควรแก่เหตุ โดยที่ไม่มีใครทำให้เลย จึงควรอย่างยิ่งที่จะได้เห็นโทษเห็นภัยของกิเลสจริงๆ เพราะถ้าประมาทกำลังของกิเลส สะสมไปเรื่อยๆ วันข้างหน้าอาจจะทำกรรมที่หนักๆ ได้

จากประเด็นคำถามดังกล่าว ถ้ายังไม่ได้ถึงขั้นฆ่าบิดามารดา ก็ไม่ได้ห้ามมรรคผล [แต่ถ้าหากว่าผู้ที่ตนเองล่วงเกิน ผู้ที่เรากล่าวร้าย นั้น เป็นพระอริยบุคคล อันนั่น ห้ามมรรคผล ถ้าหากไม่ได้ทำการขอขมาขอโทษในสิ่งที่ตนเองได้ล่วงเกิน แต่ถ้าได้ขอขมาแล้ว ก็ไม่ได้เป็นเครื่องกั้นมรรคผลแต่อย่างใด]

ที่น่าพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง คือ ถึงไม่ได้ห้ามมรรคผล แต่ถ้าไม่ได้มีเริ่มต้นในหนทางที่ถูกต้อง คือ หนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญาจากการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ย่อมไม่มีทางไปถึงการบรรลุมรรคผลนิพพานได้

อีกประการหนึ่ง คือ การเห็นโทษ โดยความเป็นโทษ แล้วกระทำคืน ขอโทษผู้ที่ตนล่วงเกิน เป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อจะได้สำรวมระวังไม่กระทำในสิ่งที่ผิดอย่างนั้นอีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้มีพระคุณ เช่น บิดามารดาเป็นต้น เราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งที่ผ่านไปแล้วได้ สิ่งที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป แต่ขณะนี้สำคัญอย่างยิ่ง ที่จะได้ตั้งต้นใหม่ด้วยคุณความดี และฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ความเข้าใจพระธรรม ก็จะเกื้อกูลให้คุณความดีประการต่างๆ เจริญขึ้นในชีวิตประจำวัน นำพาชีวิตไปสู่คุณความดีทั้งปวง ไม่นำพาไปในทางที่ผิด ครับ

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 19 ธ.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chatchai.k
วันที่ 17 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ค่อยๆศึกษา
วันที่ 2 ก.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ