สังฆาทิเสสข้อ 4
ถ้าโยมแฟนบอกจะมาทำธุระแถวๆ วัดที่อาตมาอยู่ อาตมาเลยบอกทำไมไม่มาหลังอาตมาลาสิกขาล่ะ แบบนี้เข้าข่ายไหม
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ไม่ได้กล่าวเพื่อให้ผู้หญิงมาบำเรอตนด้วยกาม ก็ไม่ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ในข้อดังกล่าว
ความจริงที่ควรจะได้พิจารณา คือ บุคคลผู้เห็นโทษของการอยู่ครองเรือน ว่า คับแคบ (คับแคบด้วยอกุศล คับแคบด้วยกิเลส) มีแต่จะเป็นเครื่องพอกพูนกิเลส ให้หนาแน่นขึ้น แล้วมีอัธยาศัยน้อมไปที่จะขัดเกลากิเลสให้ยิ่งกว่าเพศคฤหัสถ์ จึงสละทุกสิ่งทุกอย่าง สละทรัพย์สมบัติ สละวงศาคณาญาติแล้วออกบวช เป็นบรรพชิต ด้วยความจริงใจ ด้วยความตั้งใจที่จะขัดเกลากิเลสจริงๆ นี้คือ จุดประสงค์ของการบวช ไม่ใช่บวชด้วยความไม่รู้ ไม่ใช่บวชตามๆ กัน ที่สำคัญการบวชไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นเรื่องของอัธยาศัยที่ได้สะสมมาจริงๆ ที่จะมีชีวิตที่ขัดเกลายิ่งกว่าเพศคฤหัสถ์ ชีวิตความเป็นอยู่ ย่อมแตกต่างไปจากคฤหัสถ์ที่เคยเป็นอย่างสิ้นเชิง
ถ้าบวชไปแล้ว ไม่ได้ศึกษาพระธรรมวินัย ประพฤติผิดประการต่างๆ ล่วงละเมิดสิกขาบทที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ นั่น เป็นอันตรายมาก มีแต่จะคร่าให้ไปสู่อบายภูมิเท่านั้น ไม่ควรเห็นว่า การบวช เป็นเรื่องเล่นๆ บวชแล้วจะทำอะไรๆ ก็ได้ ไม่ใช่อย่างนั้นเลย เพราะเพศบรรพชิต เป็นเพศที่สูงยิ่ง ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...