ใส่บาตรพระตอนเช้า
คือผมอยากจะอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรและเทวดาประจำ ผมควรจะพูดแบบไหนให้ส่วนบุญที่ผมทำถึงเจ้ากรรมนายเวรและเทวดาประจำตัวจริงๆ
ขอบคุณคำแนะนำมากๆ นะครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เจ้ากรรมนายเวรไม่มี อุทิศให้ในสิ่งที่ไม่มีจริง
ท่าน อ.สุจินต์...ที่จริงแล้วดิฉันอยากจะถามผู้ที่อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรว่า ท่านเข้าใจเรื่องเจ้ากรรมนายเวรว่าอย่างไร เพราะรู้สึกว่าใช้กันมากทีเดียว เรื่องเจ้ากรรมนายเวร แล้วกลัวเหลือเกินว่า ถ้าไม่อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร จะไม่พ้นจากเคราะห์กรรมต่างๆ มีท่านผู้ใดที่เคยทำหรือเคยคิดอย่างนี้บ้างหรือเปล่าคะ หรือเคยคิดว่า เจ้ากรรมนายเวรคืออย่างไร เมื่อทำบุญแล้วควรอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่สามารถรู้และอนุโมทนาได้ แต่เจ้ากรรมและนายเวร ดูจะเป็นคำคล้องของกรรมเวรกับเจ้านายที่ว่า มีเจ้ากรรมนายเวร แต่ตามความเป็นจริงแล้วใครทำให้ท่านปฏิสนธิในชาตินี้ เริ่มตั้งแต่ปฏิสนธิ อะไรพาให้หรืออะไรทำให้แต่ละบุคคลเกิดในภพนี้ ในภูมินี้ เป็นบุคคลนี้ เจ้ากรรมนายเวรหรือเปล่า หรือกรรมของท่านเองแต่ละท่านที่ได้กระทำแล้วกรรมหนึ่งเป็นปัจจัยทำให้ปฏิสนธิเกิดขึ้นในภูมินี้
เพราะฉะนั้น ไม่มีที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นเจ้ากรรมของท่าน เพราะเหตุว่าแต่ละท่านมีกรรมเป็นของตน แม้แต่ปฏิสนธิจิตที่เกิดในภูมินี้ก็เป็นผลของกรรมหนึ่งที่ได้กระทำแล้วในอดีตของท่านเอง ไม่ใช่มีเจ้ากรรมที่ทำให้ปฏิสนธิ
ข้อความในอังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต ธัมมปริยายสูตร ข้อ ๑๙๓
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจะแสดงธรรมปริยายอันเป็นเหตุแห่งความกระเสือกกระสนแก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมปริยายอันเป็นเหตุแห่งความกระเสือกกระสนเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายเป็นผู้มีกรรมเป็นของของตน เป็นผู้รับผลของกรรม เป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด เป็นผู้มีกรรมเป็นพวกพ้อง มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กระทำกรรมใดไว้เป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม ย่อมเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
เพราะฉะนั้น ก็ไม่มีใครจะเป็นเจ้ากรรมนายเวร
ขออนุโมทนา
ศึกษาธรรมเพิ่มเติมได้ที่ www.dhammahome.com
โดย มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ควรที่จะได้เข้าใจเป็นเบื้องต้นว่า เราไม่สามารถจะทราบได้ว่าผู้ที่ล่วงลับไปแล้วจะเกิดเป็นอะไร ที่ไหน จะสามารถรับรู้การอุทิศส่วนกุศลของเราหรือไม่ ก็ตามควรแก่ความเป็นไปของผู้นั้นและการสะสมของผู้นั้น ด้วย การอุทิศส่วนกุศลให้ใคร จุดประสงค์ก็เพื่อให้ผู้นั้นได้รู้เพื่อผู้นั้นจะได้เกิดกุศลจิตอนุโมทนา กุศลจิตที่อนุโมทนาย่อมเป็นกุศลของผู้อนุโมทนาเองซึ่งกุศลที่เกิดขึ้นด้วยการอนุโมทนานี้จะเป็นเหตุให้ได้รับผลที่ดี คือ กุศลวิบากจิตเกิดขึ้น ไม่ใช่เราหยิบยื่นกุศลของเราให้คนอื่นแต่การที่เราทำกุศล แล้วเป็นเหตุให้คนอื่นที่รู้อนุโมทนา ยินดีด้วยขณะใดที่เขาอนุโมทนายินดีด้วยขณะนั้นก็เป็นกุศลของเขาซึ่งจะต้องเป็นกุศลจิตของ ผู้ที่อนุโมทนาเท่านั้นจริงๆ
การมีโอกาสได้สะสมความดีในชีวิตประจำวันก็ย่อมเป็นสิ่งที่ดีและสำหรับผู้ที่ เห็นคุณค่าแห่งการเกิดกุศลจิต ว่าเป็นขณะที่มีค่า ก็จะมีการคิดถึงผู้อื่น ประสงค์จะให้ผู้อื่นเกิดกุศลจิต จึงมีการอุทิศส่วนกุศล เป็นการเจริญกุศลเพิ่มขึ้นอีกประการหนึ่ง
อีกประการหนึ่ง คือ ไม่มีเจ้ากรรมนายเวร เพราะสัตว์โลกมีกรรมเป็นของของตน ทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่ว เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ก็ทำให้ผลเกิดขึ้นเป็นไปตามควรแก่เหตุ ครับ
ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ
รบกวนถามเรื่องเทวดาประจำตัวหน่อยครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...