ผู้เผยแพร่สัทธรรมปฏิรูปได้รับผลกรรมอย่างไร

 
lokiya
วันที่  27 ก.พ. 2563
หมายเลข  31590
อ่าน  783

ผมเคยบริจาคเงินผลิตหนังสือเพื่อเผยแพร่สัทธรรมปฏิรูปมามากเป็นเวลากว่า 13 ปี เพราะตอนนั้นยังไม่ได้ศึกษาธรรมะอย่างละเอียด เข้าใจว่าต้องนั่งสมาธิ เดินจงกรมให้จิตสงบ จึงเป็นปัจจัย ให้ใช้กำลังสมาธินั้นพิจารณาสภาพธรรมที่เกิดดับ ได้พบเจอครูอาจารย์ที่สอนธรรมะที่เรียกกันว่าสายปฏิบัติ ผมอยากเรียนถามท่านวิทยากรว่า

1. ผมจะได้รับผลกรรมอย่างไรจากการกระทำนี้ ในชาตินี้ ชาติหน้า และชาติต่อๆ ไป

2. จะแก้ไขอย่างไรให้กรรมนี้ลดกำลังไป ผมกลัวมาเจอสัทธรรมปฏิรูปทำให้เสียเวลาในชาติหนึ่งๆ

3. ผู้ที่เป็นพระอริยบุคคลขั้นโสดาบันมีธรรมะใดเป็นตัวบอก

4. ผู้เป็นอริยบุคคลขั้นโสดาบันจะรู้ตนเองหรือไม่ครับว่าตนเองเป็นพระอริยบุคคล


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 28 ก.พ. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

๑ - ๒
อกุศลกรรม ที่ทำไปแล้วสำเร็จไปแล้ว ไม่สามารถไปแก้ไขอะไรได้ เมื่อเหตุปัจจัยพร้อมก็สามารถให้ผลเป็นผลที่ไม่ดี ไม่น่าปรารถนา ไม่น่าใคร่ไม่น่าพอใจได้ เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น แต่เมื่อรู้ว่าสิ่งใดผิด ก็ทิ้งแล้ว ตั้งต้นใหม่แล้ว ด้วยการตั้งใจฟังตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัย เพื่อความเข้าใจอย่างถูกต้อง สิ่งที่ผ่านแล้วก็ผ่านไป ชีวิตประจำวันขณะนี้ สำคัญ เมื่อสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก ก็เป็นเครื่องต้านทานไม่ให้ตกไปในทางที่ผิด

๓. ผู้ที่เป็นพระอริยบุคคลขั้นโสดาบันมีธรรมะใดเป็นตัวบอก

[เล่มที่ 36] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ ๘๑๘

ปหีนสูตร

ว่าด้วยธรรมที่พระโสดาบันละได้แล้ว

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๖ ประการนี้ อันบุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิละได้แล้ว ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ สักกายทิฏฐิ (ความเห็นผิดว่าเป็นตัวตน) ๑ วิจิกิจฉา (ความลังเลสงสัยในสภาพธรรม) ๑ สีลัพพตปรามาส (การลูบคลำยึดถือในข้อประพฤติปฏิบัติที่ผิด) ๑ ราคะที่เป็นเหตุไปสู่อบาย ๑ โทสะที่ เป็นเหตุไปสู่อบาย ๑ โมหะที่เป็นเหตุไปสู่อบาย ๑ ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๖ ประการนี้แล อันบุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิละได้แล้ว.


พระโสดาบัน เป็นพระอริยบุคคลขั้นแรก ที่สามารถดับกิเลสได้ในระดับหนึ่ง ดับได้เป็นเพียงบางประเภท ยังไม่สามารถดับได้ทุกประการ เพราะผู้ที่จะดับกิเลสได้อย่างหมดสิ้น ไม่มีเหลือนั้น คือ พระอรหันต์ การเป็นพระอริยบุคคลทุกขั้น เป็นได้ด้วยปัญญาและต้องดำเนินตามหนทางที่เป็นไปเพื่อความบริสุทธิ์หมดจดแห่งสัตว์ทั้งหลาย คือ อริยมรรค มีองค์ ๘ ที่เริ่มด้วย ความเห็นที่ถูกต้อง ไม่ใช่ว่า มีคนบอกว่าคนนั้นคนนี้เป็นพระโสดาบัน ก็จะเป็นตามนั้น เพราะถ้าไม่มีปัญญา ไม่ดำเนินตามหนทางที่ถูกต้องแล้ว ไม่สามารถเป็นพระอริยบุคคลได้เลย และที่สำคัญ การที่จะรู้ว่าใครเป็นพระอริยบุคคล ต้องมีปัญญาเข้าใจถูกเห็นถูก พร้อมทั้งเข้าใจด้วยว่าการเป็นพระอริยะเป็นได้ด้วยอะไร และเป็นพระอริยบุคคลที่เสมอกัน หรือ สูงกว่า จึงจะรู้ได้ บุคคลผู้มีปัญญาเท่านั้นถึงจะรู้ได้ว่าใครเป็นพระอริยบุคคลหรือไม่เป็นพระอริยบุคคล เพราะอะไรๆ ก็ไม่สามารถหลอกปัญญาได้

๔. ผู้เป็นอริยบุคคลขั้นโสดาบันจะรู้ตนเองหรือไม่ครับว่าตนเองเป็นพระอริยบุคคล

ถ้าเป็นพระโสดาบันจริงๆ ย่อมรู้ เพราะมีปัญญารู้ตรงตามความเป็นจริง รู้ว่ากิเลสใดที่ดับได้แล้ว และ รู้ว่ากิเลสใดที่ยังเหลืออยู่ ครับ

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
lokiya
วันที่ 28 ก.พ. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Dusita
วันที่ 28 ก.พ. 2563

กราบ อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Selaruck
วันที่ 29 ก.พ. 2563

กราบอนุโมทนายิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 23 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ