ความเข้าใจไม่โง่
โมหเจตสิกเกิดพร้อมกับอกุศลทุกประเภท ถ้าไม่โง่คงไม่ติดข้องเพราะมีโมหเจตสิกเกิดร่วมด้วย โกรธก็มีโมหเจตสิกเกิดร่วมด้วย ขณะที่เป็นอกุศลในชีวิตประจำวันนั้นโมหะเกิดแล้ว ความไม่รู้มีมากปกปิดให้ไม่รู้ความจริง จึงต้องมีการอบรมศึกษาอย่างละเอียด ฟังธรรมะเพื่อเข้าใจ มิเช่นนั้นกุศลจิตเกิดก็ไม่รู้ว่าเป็นกุศลขณะไหน บางทีก็คิดว่าอกุศลเป็นกุศล จะบอกว่าเราฉลาดได้อย่างไรถ้าไม่รู้ธรรมะตามความเป็นจริง
ได้ยินคำว่าโง่ .. ไม่ชอบใช่ไหม พอได้ยินว่าไม่รู้อะไร .. โกรธไหม ถ้าโกรธก็โง่แล้ว ขณะโกรธนั้นโง่แล้ว เพราะโง่จึงโกรธ ทั้งวันโลภะเกิดขึ้นก็ติดข้อง .. โง่ไหม พ้นไหม .. ไม่พ้นจนกว่าจะเข้าใจถูกต้อง ความเข้าใจไม่โง่ ค่อยๆ ขัดเกลาความโง่ไปทีละน้อยด้วยพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง
ทุติยอัฉริยสูตรแสดงถึงความน่าอัศจรรย์เมื่อมีการอุบัติขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าเป็นประโยชน์มาก โดยสรุปดังนี้
๑. เมื่อพระองค์ทรงแสดงธรรมะอยู่ หมู่สัตว์ผู้มีความติดข้องยินดีพอใจในกามคุณ ย่อมตั้งใจฟังด้วยดี เงี่ยโสตลงสดับ ตั้งจิตเพื่อรู้ทั่งถึงธรรมะ
๒. เมื่อพระองค์ทรงแสดงธรรมะอยู่ หมู่สัตว์ผู้มีความสำคัญตน ย่อมตั้งใจฟังด้วยดี เงี่ยโสตลงสดับ ตั้งจิตเพื่อรู้ทั่งถึงธรรมะ
๓. เมื่อพระองค์ทรงแสดงธรรมะอยู่ หมู่สัตว์ผู้มีความยินดีในความไม่สงบ ย่อมตั้งใจฟังด้วยดี เงี่ยโสตลงสดับ ตั้งจิตเพื่อรู้ทั่งถึงธรรมะ
๔. เมื่อพระองค์ทรงแสดงธรรมะอยู่ หมู่สัตว์ผู้ตกอยู่ในอวิชชาถูกความไม่รู้ครอบงำ ย่อมตั้งใจฟังด้วยดี เงี่ยโสตลงสดับ ตั้งจิตเพื่อรู้ทั่งถึงธรรมะ
ในฐานะที่ยังมีความไม่รู้อยู่ แต่ก็ยังได้อาศัยพระมหากรุณาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เกื้อกูลให้ได้ฟังคำจริงเพื่อความเข้าใจถูก ค่อยๆ ขัดเกลาละคลายความไม่รู้คือความโง่ไปทีละเล็กทีละน้อย
กราบบูชาคุณท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่ง