Covid-19 พร้อมตายกันหรือยัง?
พร้อมที่จะตาย หรือพร้อมที่จะเรียนรู้การปกป้องชีวิตครับ?
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ผู้ที่มีความเข้าใจถูก็พร้อมที่จะตายและก็มีความเข้าใจถูกในการใช้ชีวิตที่ถูกต้องด้วย พระพุทธเจ้าพระสาวกทั้งหลาย เมื่อเจ็บป่วย ก็ไม่ได้ปล่อยให้ตายไปโดยไม่รักษา แต่ ก็มียา เภสัช ทานอาหารที่ไม่แสลงต่อโรค เป็นต้น ก็มีชีวิตที่ดำรงอยู่ในชีวิตประจำวันที่ถูกต้อง ป้องกันโรคต่างๆ ด้วย นี่คือ ผู้ที่เห็นถูกตามความเป็นจริงของธรรม มีชีวิตอยู่เพื่อเป็นประโยชน์ต่อโลก เพราะฉะนั้น ท่านละโรคกิเลสได้หมดสิ้น ที่จะไม่ต้องเกิดมาเป็นโรคอีก เพราะการมีโรคเพราะมีการเกิด ถ้าไม่เกิดก็ต้องมีโรค และ เกิดโรคแล้วก็เดือดร้อนสำหรับผู้มีกิเลส เหมือนถูกลูกศรดอกที่สองเสียบเข้าไปในใจ ดังนั้นปัญญาประเสริฐ ผู้เป็นพาลและบัณฑิตต่างก็กระทบสิ่งที่ไม่ดี ที่สมมติว่าเป็นโรค แต่ ผู้ปัญญาเป็นบัณฑิต ย่อมไม่หวั่นไหว แต่คนที่เป็นพาลย่อมเดือดร้อนหวั่นไหวอยู่ ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย โรค ๒ อย่างนี้ โรค ๒ อย่าง เป็นไฉน? คือ โรคกาย ๑ โรคใจ ๑ ปรากฏอยู่ว่า สัตว์ทั้งหลาย ผู้ยืนยันว่าไม่มีโรคทางกายตลอด เวลา ๑ ปีก็มี ยืนยันว่าไม่มีโรคทางกายตลอดเวลา ๒ ปีก็มี ๓ ปีก็มี ๔ ปีก็มี ๕ ปีก็มี ๑๐ ปีก็มี ๒๐ ปีก็มี ๓๐ ปีก็มี ๔๐ ปีก็มี ๕๐ ปีก็มี ๑๐๐ ปีก็มี ยิ่งกว่า ๑๐๐ ปีก็มี แต่ว่าผู้ที่จะยืนยันว่า ไม่มีโรคทางใจแม้เพียงเวลาครู่เดียวนั้น หาได้ยากในโลก เว้นแต่พระขีณาสพ (พระอรหันต์) ”
(พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต โรคสูตร)
โรค หมายถึง สภาพที่เสียดแทง โรคทางกาย เสียดแทงกายให้ได้รับความเจ็บปวด ทรมาน แต่โรคทางใจ คือ กิเลส เป็นสภาพที่ทำให้จิตเศร้าหมอง ย่อมเสียดแทงจิตใจของสัตว์ทั้งหลายให้เร่าร้อน และไม่ให้ออกไปจากวัฏฏะ
การดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะละเลย ก็ควรจะมีการดูแลรักษาและป้องกัน เพื่อประโยชน์ในการที่จะได้มีชีวิตอยู่เพื่อสะสมคุณความดีและอบรมเจริญปัญญาต่อไป แต่อะไรจะเกิด ก็เกิดตามเหตุปัจจัย ใครๆ ก็บังคับบัญชาไม่ได้
"ภัยจากไวรัสโควิด กำลังระบาด เป็นกันทุกคนหรือเปล่า? ไม่เป็นทุกคน ทำไมเป็น ทำไมไม่เป็น? คนติดเชื้อก็เป็น แล้วทำไมติด? มีกรรมเป็นปัจจัยหลัก แล้วก็การที่ไม่มีการระแวดระวังหลายๆ อย่างหลายปัจจัย เพราะฉะนั้น จะพ้นภัยได้อย่างไร? ทั้งหมดอยู่ที่ความเข้าใจ ถ้าไม่มีความเข้าใจจริงๆ ไม่มีทางเลย ถ้าจะพ้นภัยจริงๆ ทั้งหมด ก็คือ ไม่ต้องเกิด หนทาง มี จากผู้ที่ไม่เกิดแล้ว คือพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า"
อ้างอิงจากหัวข้อ ...
พระพุทธศาสนาไม่ใช่เถรสมาคม_สนทนาพิเศษ วันศุกร์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓
โรคที่สำคัญกว่าโรคทางกาย ก็คือโรคทางใจ (โรคทางใจ หมายถึง กิเลสที่เสียดแทงใจ) ซึ่งบางคนอาจจะไม่ได้พิจารณาเลยว่า โรคทางใจของตนเองมีอะไรบ้าง ซึ่งมีมากเหลือเกิน ทั้งโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น ที่พร้อมจะเกิดขึ้นเสียดแทงใจให้เร่าร้อนอยู่ตลอดเวลา และเมื่อไม่ได้สังเกต ไม่ได้สำรวจ ไม่ได้พิจารณาก็ย่อมจะไม่ได้เห็นโทษของโรคทางใจนั้น เพราะโรคทางใจเป็นโรคที่เห็นได้ยาก เพราะฉะนั้นการที่จะรักษาโรคทางใจ ก็จะต้องรักษายากกว่าโรคทางกาย และจะต้องใช้เวลานานในการเจริญกุศล ซึ่งเป็นยาที่จะรักษาอกุศลซึ่งเป็นโรคทางใจ ซึ่งถ้าผู้ใดพิจารณาเห็นอกุศลธรรมที่ตนมีตามความเป็นจริง แล้วก็รีบแก้ไข คือ พิจารณาเห็นโทษ ก็คงจะดีกว่าการที่จะปล่อยให้โรคนั้นกำเริบหรือว่าทรุดหนัก จนกระทั่งถึงกับเป็นอัมพาตทางใจ คือ ไม่ยอมที่จะขัดเกลากิเลสเลย ถ้าอกุศลมากมายเพิ่มพูนเหนียวแน่นถึงอย่างนั้นก็ยากที่จะแก้ไขได้ เพราะไม่ยอมแม้แต่คิดที่จะขัดเกลากิเลสของตนเองเลย แล้วกิเลสจะน้อยลงได้อย่างไร?
เพราะฉะนั้น ขอให้พิจารณาตนเองเพื่อประโยชน์ว่า การที่แต่ละบุคคลจะมีพระธรรมเป็นที่พึ่งอย่างมั่นคง ก็จะต้องเจริญกุศลเพื่อขัดเกลาอกุศลไปเรื่อยๆ จึงควรอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้ไม่ประมาทในการเจริญกุศลทุกประการ เพื่อรักษาโรคทางใจคือกิเลส ด้วยความเข้าใจพระธรรมอย่างถูกต้อง จนกว่าจะเป็นผู้ไม่มีโรคทางใจ คือ กิเลส อีกเลย เมื่อรู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอรหันต์ นั่นแหละ คือ ความไม่มีโรค เป็นลาภอย่างยิ่ง ที่แท้จริง ครับ.
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กราบอนุโมทนากับอาจารย์ทั้งสองท่านยิ่งค่ะ
เมื่อศึกษาพระธรรมว่ามีคณิกะมรณะ คือการตายทุกขณะ ยิ่งเห็นความลึกซึ้งในพระธรรม
ดังนั้นควรไม่ประมาท และพร้อมทุกขณะที่จะตายและจะป้องกันโรค ด้วยการศึกษาและฟังพระธรรมทันทีที่มีโอกาส
กราบอนุโมทนายิ่งค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เป็นธัมมะ เป็นอนัตตา เกิดเพราะเหตุป้จจัยครับ