ความย้อนแย้งของ พระพุทธเจ้า

 
ธีรศักดิ์
วันที่  7 มี.ค. 2563
หมายเลข  31610
อ่าน  1,357

คือผมได้ยินมาอีกทีนะครับ ผมแค่อยากจะรู้ว่าจริงไหม เพราะเหตุผลอะไร

บอกเป็นวิทยาศาสตร์
แต่เวลาให้พิสูจน์ดันบอกต้องทำเอง สันทิฏฐิโก

เป็นประชาธิปไตย
แต่แบ่งชนชั้น ห้ามชาวนาค (ชาวนาคคือชาวนากา) ออกบวช เพิ่มกฎให้กับสตรี ออกกฎเอง แก้เองไม่ถงไม่ถามคนอื่น

บอกว่าเรื่องตนเองให้เถียงได้ แต่พอสู้ไม่ได้ก็บอกเป็นบัวใต้ตม

บอกฆ่าพ่อแม่บาปหนัก แต่พระเจ้าอชาตศัตรูนี่ปล่อยเฉย

จริงหรือไม่ครับ?


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 7 มี.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ผู้ที่ยังไม่เข้าใจ ไม่ใช่คำของพระพุทธเจ้า ก็บอกว่าพระพุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์ ผู้ที่ไม่เข้าใจพระธรรมก็กล่าวว่าพระพุทธเจ้าห้ามชาวนากาบวช ผู้ที่ไม่เข้าใจก็เข้าใจว่าปล่อยพระเจ้าอชาตศัตรูฆ่าพระราชบิดา แท้ที่จริงแล้ว พระธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่สาธารณะกับทุกคน ผู้ที่เชื่อก็มี ไม่เชื่อก็มี และ ที่เชื่อเพราะอะไร เพราะได้ฟังคำจริงของพระพุทธเจ้าแล้วได้ประจักษ์ความจริงนั้น ส่วน การบวช ก็ห้ามผู้ที่เป็นโรค หรือ สัตว์เดรัจฉานบวช ผู้ที่ไม่เข้าใจก็เอาประชาธิปไตยมาอ้างว่าขัด เพราะฉะนั้นผู้ที่ไม่เข้าใจ ไม่เลื่อมใส ก็มีเหตุผลที่จะขัดกับความจริงได้เป็นธรรมดา เช่นเดียวกับพระเจ้าอชาตศัตรู ถ้าเข้าใจความจริงของธรรมของพระองค์คือมีแต่ธรรมและธรรมเป็นอนัตตา คือ บังคับบัญชาไม่ได้ แม้จะห้ามให้ผู้ที่ไม่เลื่อม มาเลื่อมใสก็ไม่ได้ นี่คือความเป็นอนัตตาของธรรม จะห้ามพระเจ้าอชาตศัตรูไม่ให้ฆ่าพระราชบิดาก็ไม่ได้ เพราะกิเลสมีกำลัง ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 7 มี.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเ้จ้าพระองค์นั้น

ความคิดเห็นของผู้ที่ไม่ได้ฟังพระธรรม ไม่ได้ศึกษาพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง กับ ผู้ที่ได้ฟัง ได้ศึกษา มีความเข้าใจอย่างถูกต้อง มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ชีวิตของแต่ละบุคคล จึงมีความเป็นไปตามการสะสมจริงๆ ผู้ที่เห็นประโยชน์ของพระธรรม เห็นคุณค่าของปัญญาซึ่งเป็นธรรมที่ขัดเกลากิเลสขัดเกลาความไม่รู้อันสะสมมาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ ย่อมไม่ประมาทในการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย เมื่อได้ฟังได้ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง (ซึ่งเป็นพระพุทธศาสนา) ก็จะทำให้เข้าใจได้ว่า สิ่งที่พระองค์ทรงแสดงนั้น เป็นสิ่งที่มีจริงทุกอย่างทุกประการ เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น ไม่เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น จากที่ไม่รู้ ก็จะค่อยๆ รู้ขึ้น ไม่ว่าจะกล่าวถึงเรื่องใดก็ไม่พ้นจากความเป็นจริงของธรรม จึงต้องค่อยๆ ฟังค่อยๆ ศึกษา ขอให้เป็นการตั้งต้นจริงๆ เหมือนกับว่าไม่เคยรู้อะไรมาก่อน แล้วรองรับพระธรรมจริงๆ ด้วยความตั้งใจ ไม่ประมาทในแต่ละคำที่พระองค์ทรงแสดง ครับ

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Witt
วันที่ 7 มี.ค. 2563

พระธรรมไม่สาธารณะ ล้วนเป็นไปตามเหตุปัจจัยที่สะสมมาของแต่ละหนึ่งจริงๆ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 10 มี.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Somporn.H
วันที่ 3 เม.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
chatchai.k
วันที่ 23 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ