ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๔๗
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
* * ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๔๗ * *
~ พระภิกษุ ก่อนบวช เป็นผู้ฟังพระธรรม เข้าใจพระธรรม จึงสละทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งทรัพย์สมบัติ วงศาคณาญาติ ที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสยิ่งขึ้น ในเพศบรรพชิต
~ พระภิกษุ ไม่ใช่บวชเพื่ออาศัยผ้าเหลือง แต่ต้องเพราะเห็นประโยชน์ของการเข้าใจพระธรรม เพื่ออุทิศชีวิตต่อการที่จะศึกษาธรรม และขัดเกลากิเลสอย่างยิ่ง โดยการที่จะต้องประพฤติปฏิบัติตามพระวินัยด้วย
~ เป็นพระภิกษุ เพื่อขัดเกลากิเลส คำนี้คำเดียว คือ เพื่อขัดเกลากิเลส แต่ถ้าเป็นไปเพื่อพอกพูนกิเลส นั่นไม่ถูกแล้ว ไม่ใช่พระภิกษุแล้ว ใครส่งเสริมให้ทำสิ่งที่ผิด นั่นก็คือ ช่วยกันทำลายพระพุทธศาสนา
~ พระภิกษุ สละเงินและทองแล้ว จึงบวช เมื่อบวชแล้ว จะมีเงินทองได้อย่างไร
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงรับเงินทองหรือเปล่า? เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงไม่รับเงินทอง แล้วเพราะเหตุใดพระภิกษุที่ปฏิญาณว่าจะประพฤติตามพระองค์ จึงรับเงินรับทอง
~ รับเงินรับทอง เป็นกิเลส พระภิกษุจะขัดเกลากิเลสมิใช่หรือ แล้วจะรับเงินทองได้อย่างไร?
~ เป็นมิตรจริงๆ ต้องให้สิ่งที่ประเสริฐถูกต้อง คือ ความเข้าใจถูก
จะมากหรือจะน้อยก็ตาม
~ เวลาที่กุศลจิตเกิด จะให้กล่าวคำร้ายๆ จะให้ทำสิ่งที่ชั่วๆ ได้ไหม?
ก็ไม่ได้
~ ฟังพระธรรมเพื่อเข้าใจ หนึ่งขณะในสังสารวัฏฏ์ยังมีโอกาสได้ยินได้ฟัง
~ ปัญหาทั้งหลาย โทษทั้งหลาย ความไม่สงบทั้งหลาย ก็เกิดจากอกุศลทั้งหมด
~ ถ้าไม่ใช่ปัญญา ไม่มีทางเลยที่จะไปละ ชำระล้างอกุศลซึ่งเกาะติดแน่นอยู่ในใจ
~ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ช่วยให้คนทั้งหลายพ้นจากความเห็นผิดความเข้าใจผิด แล้วก็เป็นผู้ที่ตรงที่สามารถที่จะเข้าใจความจริงได้ มิฉะนั้น ก็แก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้เลย เพราะเข้าใจผิด คิดว่าอกุศลเป็นกุศล
~ ถ้าโกรธเขา เป็นกุศลหรือเปล่า? เป็นอกุศล ถ้าสงสารเขา เป็นกุศลหรือเปล่า? เป็นกุศล
~ เมื่อโกรธเกิดขึ้นแล้ว ดีไหม? ไม่ดี ใครเดือดร้อน โกรธเกิดที่ไหนไม่เป็นสุข จะไปทำให้คนที่มีความโกรธ เป็นสุข เป็นไปไม่ได้เลย
~ บูชาพระรัตนตรัย ด้วยความเข้าใจธรรม ศึกษาธรรม แล้วก็ช่วยให้คนอื่นได้มีความเข้าใจที่ถูกต้องด้วย ทุกครั้งที่กล่าวคำจริง เพื่อหวังประโยชน์ให้คนอื่นได้เข้าใจถูกต้อง เป็นการบูชาพระรัตนตรัย
~ ถ้าใครกล่าวตามพระธรรมวินัย ควรฟังไหม ไม่ว่าใคร ไม่ว่าภิกษุ อุบาสก อุบาสิกา ควรฟังไหม? เพราะไม่ใช่คำของเขา แต่เป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้น ทุกคำที่จริง
~ พระธรรมทั้งหมด ทรงแสดงให้เข้าใจสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ เท่าที่กำลังของสติปัญญาจะเข้าใจได้ และ อบรมต่อไป เพราะคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำ เปลี่ยนไม่ได้เลย เป็นความจริงถึงที่สุด
~ ตลอดชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย ทุกขณะ คือ ความจริง ไม่เว้นเลยสักขณะเดียว ทุกวันทุกเวลา สั้นยิ่งกว่าวินาที ก็เป็นสภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไปโดยไม่รู้เลย
~ ถ้าไม่มีการฟังพระธรรม ย่อมไม่มีทางที่จะรู้โทษของการที่มีความไม่รู้ในสิ่งที่กำลังปรากฏจึงทำให้หลงพอใจมากจนกระทั่งเกิดความทุกข์เมื่อเกิดความพลัดพรากหรือไม่ได้ในสิ่งที่พอใจ จนกระทั่งเป็นเหตุให้กระทำทุจริตกรรมร้ายแรงถึงกับว่าสามารถที่จะฆ่าคนอื่นได้ เอาทรัพย์ของคนอื่นมาเป็นของตน มากมายมหาศาล
~ สะสมความไม่รู้มานานแสนนาน และไม่มีวันจะหมดสิ้นไปได้ ถ้าไม่มีความเข้าใจถูกต้องตรงตามความเป็นจริง
~ ความเข้าใจเป็นธรรมที่ค่อยๆ คลายความติดข้อง เพราะค่อยๆ เริ่มเข้าใจ
~ เราเป็นทุกข์ เพราะความไม่รู้ และ มีกิเลส หนทางที่จะดับทุกข์ คือ มีความรู้ (ปัญญา) ที่จะดับกิเลส
~ กุศล ความดีทั้งหลาย ไม่นำทุกข์โทษภัยมาให้ แต่อกุศลที่ทุกคนมีนี่แหละนำทุกข์โทษภัยมาให้ ตามกำลังของอกุศลนั้นๆ
~ ที่ปั่นป่วน ที่เดือดร้อน ที่วุ่นวาย ต้องเพราะอกุศล แม้แต่ความคิดของแต่ละคน ในชีวิตประจำวัน ผิดพลาดพลั้งไปก็เพราะอกุศล ไม่ใช่เพราะกุศล
~ มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่พึ่ง ก็ต้องอาศัยคำของพระองค์ ไม่ใช่คิดเอง
~ หนทางเดียวที่จะทำให้เป็นคนดีได้ คือ ความเข้าใจพระธรรม
~ พระธรรมเป็นสิ่งที่ควรอย่างยิ่งแก่การได้ยินได้ฟังด้วยความเคารพในความลึกซึ้งของผู้ที่ทรงตรัสรู้ความจริง และทรงแสดงความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้ด้วยพระมหากรุณาที่จะให้คนอื่นได้เข้าใจถูก ได้เห็นถูก
~ ประโยชน์ของการเข้าถึงความจริงของสภาพธรรม คือ มั่นคงที่จะเข้าใจว่า ขณะนี้เป็นธรรมที่เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป
~ ธรรมเป็นปกติ คนส่วนใหญ่คิดว่า ธรรมต้องไปทำให้มีขึ้น ให้เกิดขึ้น แต่ว่าตามความเป็นจริงตลอดชีวิต ทุกชีวิตในสังสารวัฏฏ์ เป็นธรรมทั้งหมด ไม่มีขณะไหนที่ไม่ใช่ธรรมเลย เพราะฉะนั้น การรู้จักธรรม ไม่ใช่ต้องไปทำอะไรให้เกิดเลย เพียงแต่ว่าสิ่งที่กำลังมีในขณะนี้ ฟัง แล้วก็รู้ว่า ปัญญาสามารถรู้ว่า สิ่งที่ได้ยินได้ฟังเป็นคำจริงทุกคำ
~ การฟังธรรมก็เพื่อเข้าใจถูกต้องว่า ธรรมเป็นธรรม เกิดปรากฏแล้วดับไป ชั่วคราว ทุกอย่างปรากฏชั่วคราว ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ชั่วคราวทั้งนั้น
~ ทั้งหมดของพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง แต่ละหนึ่ง ละเอียดยิ่ง เพื่อความไม่ใช่เรา
~ ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สอดคล้องกันเป็นความจริงทุกขณะ ไม่ว่าแสนปีมาแล้ว โกฏิ (สิบล้าน) ปีมาแล้วหรือข้างหน้าจะเป็นอย่างไร สภาพธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ถึงที่สุดโดยประการทั้งปวงใครเปลี่ยนไม่ได้เลย อยู่ที่ว่าใครจะเข้าใจก็เห็นประโยชน์ เพราะฉะนั้น ถ้าเราช่วยให้คนฟังได้เข้าใจขึ้นบ้าง ก็ยังเป็นประโยชน์กว่าไม่เข้าใจกันเสียเลย เพราะว่าจริงๆ แล้ว ยาก ลึกซึ้ง แต่ว่าเข้าใจได้แน่นอน ถ้าเข้าใจถูกแม้นิดเดียวก็ยังดีกว่าเข้าใจผิดมหาศาล
~ ถ้าเราสามารถเข้าใจคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ พระคุณที่ได้ทำให้เรามีความเข้าใจถูกมากมายมหาศาลที่ไม่ทำให้เราหลงผิดทำผิด เพราะถ้ามีความเข้าใจถูก ก็จะไม่ทำสิ่งที่ไม่ถูก
~ สิ่งที่ผิดจะมารวมอยู่ในพระพุทธศาสนาไม่ได้ จะทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมลง เพราะว่ามีสิ่งที่ผิดปลอมแปลงเข้ามา
~ ความถูกต้องตามความเป็นจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าอย่างอื่น เพราะเหตุว่า เราจะเอาความผิดมาปองดองกัน ไม่มีทาง เขาก็แยกกันอยู่แล้ว คนนี้เห็นผิดอย่างนี้คนนั้นเห็นผิดอย่างนั้น ไม่มีวันที่ความเห็นผิดจะมารวมหรือปองดองกันได้ แต่ว่าถ้าเป็นความเห็นถูกเมื่อไหร่ ไม่มีการที่จะเป็นอย่างอื่นเพราะว่า ความจริงต้องเป็นความจริง
~ ภัยของพระพุทธศาสนาที่คนมองไม่เห็นเลย เห็นแต่อย่างอื่น ภัยอื่น แต่ภัยที่สำคัญที่สุดคือความไม่รู้ความไม่เข้าใจธรรม
~ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พุทธศาสนา พยายามอย่างยิ่งที่จะรักษาความบริสุทธิ์ความถูกต้องของพระพุทธศาสนา เพราะฉะนั้น เราไม่ใช่เป็นคนที่จะโจมตีหรือเราจะหวังร้ายต่อใคร แต่เพราะเขาไม่รู้เพราะฉะนั้น ใครที่ไม่รู้ ก็คิดผิด พูดผิด ทำผิด ใช่ไหม? แต่สำหรับเรา เราก็รู้ตามที่ได้ศึกษาและไตร่ตรองพร้อมที่จะให้พิสูจน์ได้ว่าตรงไหนเป็นความจริงอย่างไร เพราะฉะนั้น เราพูดความจริงเพื่อให้คนพิจารณาว่าความจริงเป็นอย่างไร นี่คือสิ่งที่เราหวังดีที่สุด เราไม่ต้องการให้ใครเห็นผิดเข้าใจผิดแม้นิดเดียว เพราะเหตุว่า ผิดก้าวหนึ่ง ก็นำไปสู่ก้าวต่อๆ ไป ออกจากพระสัทธรรม ไม่เหลือความเป็นพระพุทธศาสนา
~ คำของพระสัมมาสัมสัมพุทธเจ้าทุกคำจากการที่ได้ทรงตรัสรู้ด้วยพระมหากรุณา ไม่ใช่เพื่อจะทำร้ายใครเลยทั้งสิ้น คำที่เราพูด ไม่ได้ทำร้ายใคร เพราะเหตุว่า เป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อประโยชน์สูงสุด คือ ให้เข้าใจถูกต้อง เพราะเขาคิดเองผิดได้ คนอื่นก็ผิดกันได้ทั้งนั้นแหละ แม้แต่เรา ถ้าเราไม่เข้าใจจริงๆ ก็ต้องผิด เพราะฉะนั้น เพื่อประโยชน์ ก็พูดคำจริง เพื่อให้ทุกคนพิจารณาว่าถูกต้องไหม? นี้คือ สิ่งที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พุทธศาสนา จะทำต่อไป และก็จะทำตลอดไปด้วย เพราะเหตุว่า รักษาคำที่ถูกต้อง ไม่ให้คนอื่นมาทำลาย
* * ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ * *
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๔๖
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ผู้มั่นคงในการกล่าวคำจริงเพื่อความดำรงมั่นของพระธรรม