ฉันอาหารมื้อเดียว

 
pth.n
วันที่  17 มี.ค. 2563
หมายเลข  31637
อ่าน  6,614

ที่ว่าฉันอาหารมื้อเดียวมีความหมายว่าอย่างไร (ตามความคิดน่าจะรับประทานอาหารในหนึ่งวันเพียงครั้งเดียว)


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 18 มี.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติพระวินัยสำหรับผู้ที่เห็นโทษของกิเลส เห็นโทษของความวุ่นวายในเพศคฤหัสถ์ ออกบวชเป็นพระภิกษุในพระธรรมวินัย การกระทำและความเป็นอยู่ของท่านจึงต่างจากคฤหัสถ์ราวฟ้ากับดิน การบริโภคอาหารที่เหมาะสมสำหรับพระภิกษุต้องเป็นเวลาที่สมควร คือ ตั้งแต่อรุณขึ้นจนถึงเที่ยงวันเท่านั้น เลยเวลาเที่ยงไปเรียกว่าเวลาวิกาล เป็นเวลาที่ไม่สมควรในการบริโภค ถ้าหากพระภิกษุบริโภคอาหารหลังเที่ยง เป็นอาบัติปาจิตตีย์ เป็นโทษสำหรับผู้ล่วงละเมิด

เวลาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกำหนดไว้ในการบริโภคอาหารสำหรับพระภิกษุทั้งหลาย คือ ตั้งแต่อรุณขึ้นจนถึงเที่ยง นั้น จะฉันตอนไหนก็ได้ในระยะเวลาดังกล่าว ถ้าฉันอาหารในเวลาเช้าถึงเที่ยง แม้จะฉันหลายครั้ง ก็เรียกว่า ฉันมื้อเดียว คือ ไม่มีมื้อที่ ๒ เพราะท่านไม่ได้บริโภคอาหารในเวลาวิกาล ตรงกับข้อความใน

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๑๙๙ ดังนี้ว่า

"บทว่า เอกภตฺติโก ความว่า ภัตมี ๒ มื้อ คือ ภัตที่พึงกินเวลาเช้า ๑ ภัตที่พึงกินเวลาเย็น ๑ ในภัต ๒ มื้อนั้น ภัตที่พึงกินเวลาเช้ากำหนดด้วยเวลาภายในเที่ยงวัน ภัตที่พึงกินเวลาเย็นนอกนี้ กำหนดด้วยเวลากินเที่ยงวันภายในอรุณขึ้น ฉะนั้น แม้จะฉันสัก ๑๐ ครั้ง ในเวลาภายในเที่ยงวัน ก็เป็นผู้ชื่อว่าฉันมื้อเดียวนั่นเอง. ที่ตรัสว่า มีภัตมื้อเดียว ดังนี้ ทรงหมายถึงภัตที่พึงกินเวลาเช้า นั้น"

อีกประการหนึ่ง เวลาอ่านพระไตรปิฎก จะพบคำว่า เอกาสนิกังคะ แปลว่า องค์แห่งภิกษุผู้มีการฉัน อาสนะเดียว (ที่นั่งเดียว) เป็นปกติ กล่าวคือ นั่งฉันอาหาร ที่นั่งที่เดียวจนกว่าจะฉันเสร็จ ไม่นั่งหลายที่ โดยความหมายแล้ว ก็คือ ในช่วงเวลาอรุณขึ้นจนถึงเที่ยง จะบริโภคอาหารเพียงครั้งเดียว เมื่อนั่งแล้วก็ฉัน ณ ที่นั้นจนเสร็จ หลังจากนั้นก็จะไม่ฉันอาหารอะไรอีกเลย อันนี้ไม่ได้มีพระวินัยบัญญัติว่าจะต้องฉัน ณ อาสนะเดียวหรือฉันครั้งเดียว แต่มีสิกขาบทที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่า พระภิกษุ จะฉันอาหารในเวลาวิกาลไม่ได้ ดังนั้น ในช่วงเวลาอรุณขึ้นจนถึงเที่ยง พระภิกษุ จะฉันกี่ครั้ง ก็ย่อมได้ ซึ่งก็ต้องดูสิกขาบทอื่นประกอบด้วยว่า เป็นอาหารที่ได้รับประเคนเรียบร้อย เป็นต้น

ดังนั้น ก็เข้าใจได้ว่า ถ้ายังอยู่ในเวลาเช้าถึงเที่ยง ก็เรียกว่า ฉันมื้อเดียว เพราะไม่ได้ฉันในเวลาวิกาล (กล่าวคือ ไม่มีมื้อที่ ๒) แต่ถ้าเป็นผู้จะขัดเกลากิเลสยิ่งขึ้น ก็ฉันครั้งเดียว ซึ่งตรงกับคำว่า เอกาสนิกังคะ นั่นเอง ครับ

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pth.n
วันที่ 18 มี.ค. 2563

สาธุค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 21 มี.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ