อาสภิวาจา...คำพูดแรกของพระพุทธเจ้า
สวัสดีค่ะ
ดิฉันได้อ่านพระพุทธประวัติตอนหลังจากที่เจ้าชายสิทธัตถะประสูติ ท่านได้ตรัสว่า "เราเป็นผู้เลิศของโลก เป็นผู้ใหญ่ที่สุดของโลก เป็นผู้ประเสริฐที่สุดของโลก นี้เป็นการเกิดครั้งสุดท้าย ไม่มีการเกิดใหม่อีกต่อไป"
อยากทราบว่าท่านหมายรวมถึงมนุษย์ทุกคนบนโลกไม่ใช่เฉพาะพระองค์เองใช่มั้ยคะ
ขอบคุณค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ที่พระองค์ทรงเปล่งอาสภิวาจา ซึ่งเป็นวาจาที่องอาจดังกล่าวนั้น หมายถึง พระองค์เอง ซึ่งเป็นผู้ที่จะได้ตรัสรู้ถึงความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นบุคคลผู้เลิศผู้ประเสริฐที่สุด โดยไม่มีใครเสมอ
พระองค์ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาเพื่อที่จะตรัสรู้สภาพธรรมที่มีจริงตามความเป็นจริงแล้วทรงแสดงธรรมโปรดสัตว์โลกให้ได้เข้าใจธรรมตามความเป็นจริง พ้นจากกองทุกข์ทั้งปวงเหมือนอย่างพระองค์ ทั้งเทวดา มนุษย์พรหมทั้งหลาย ต่างก็เคารพสักการะบูชาพระองค์ผู้ยิ่งด้วยพระบริสุทธิคุณพระปัญญาคุณ และพระมหากรุณาคุณโดยที่ไม่มีใครเปรียบเทียบได้ หลังจากที่พระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว ตลอดระยะเวลาของการประกาศพระศาสนาเป็นเวลา ๔๕ พรรษา วันหนึ่งๆ พระองค์ทรงพักผ่อนน้อยมาก ทรงบำเพ็ญประโยชน์แก่สัตว์โลกอย่างแท้จริง กล่าวได้ว่าไม่มีใครแสดงพระธรรมมากเท่าพระองค์ ทั้งหมดทั้งปวงนั้นเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกของสัตว์โลกอย่างแท้จริงจึงทำให้ผู้ที่สะสมเหตุที่ดีมาเห็นประโยชน์ของการได้เข้าใจความจริง ได้ฟังได้ศึกษา จากที่เคยเต็มไปด้วยกิเลสนานาประการมีโลภะ โทสะ โมหะเป็นต้น สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอริยบุคคล ดับกิเลสตามลำดับมรรคได้ สูงสุดคือถึงความเป็นพระอรหันต์หมดจดจากกิเลสโดยประการทั้งปวง ถ้ายังไม่ได้บรรลุก็สะสมเป็นอุปนิสัยที่ดีต่อไปในภายหน้า ดังนั้น สิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่สุด คือพระธรรมคำสอนของพระองค์ พระธรรมแต่ละคำๆ นั้นมีค่ามาก เป็นวาจาสัจจ์ ที่แสดงความจริงให้สัตว์โลกได้เข้าใจตามความเป็นจริงและทั้งหมดนั้นก็มาจากการทรงบำเพ็ญพระบารมีตลอดระยะเวลา๔อสงไขยแสนกัปป์กว่าจะได้ทรงตรัสรู้ ที่ควรอย่างยิ่งที่พุทธศาสนิกชนจะได้ศึกษาเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกยิ่งขึ้นต่อไป ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...