ทำบุญกับพระอรหันต์ทำให้ได้อานิสงค์ภายในวันนั้นหรือไม่
เคยอ่านพระสูตรหนึ่งซึ่งจำชื่อสูตรไม่ได้ เรื่องที่มีผู้ทำบุญกับพระพุทธเจ้า แม้เป็นคนยากจนเข็ญใจ ผลของบุญทำให้เป็นเศรษฐีได้ภายในวันนั้น
ถ้าสมมติในยุคนี้มีพระอรหันต์ การทำบุญกับท่าน ในยุคนี้การให้ผลจะเหมือนเช่นในพุทธกาลหรือไม่ครับ เพราะเคยอ่านเรื่องการให้ผลของกรรม ว่ามีทั้งให้ผลในชาติปัจจุบัน ผลชาติหน้า ผลชาติต่อๆ ไป
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ทานจะมีผลมากต้องถึงพร้อมด้วยเหตุ ดังนี้
[เล่มที่ 48] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 9
๑. อรรถกถาปฐมปีฐวิมาน
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทานมิใช่จักมีผลมากด้วยการถึงพร้อมแห่งไทยธรรมอย่างเดียว ที่แท้ ทานจักมีผลมาก ก็ด้วยความถึงพร้อมแห่งจิตที่เลื่อมใส และด้วยความถึงพร้อมแห่งเขต [ทักขิไณยบุคคล] เพราะฉะนั้น ทานวัตถุเพียงสักข้าวกำมือหนึ่งก็ดี เพียงผ้าเก่าผืนหนึ่งก็ดี เพียงเครื่องลาดทำด้วยหญ้าก็ดี เพียงเครื่องลาดทำด้วยใบไม้ก็ดีเพียงสมอดองน้ำมูตรเน่าก็ดี บุคคลมีจิตเลื่อมใสแล้ว ตั้งไว้ในทักขิไณยบุคคล ทานแม้นั้น ก็จักมีผลมาก รุ่งเรืองมาก แผ่ไพศาลมาก ดังนี้.
จากข้อความในพระไตรปิฎกแสดงถึงความจริงว่าทานจะมีผลมาก ไม่ใช่แค่ให้กับทักขิไณยบุคคล มีพระอรหันต์ เป็นต้น แต่การถึงพร้อมด้วยไทยธรรม คือ ของที่ให้ ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ดี คือ ได้มาโดยชอบธรรม และ อีกประการหนึ่งที่สำคัญมาก คือ ด้วยจิตที่เลื่อมใส คือ ใจของผู้ให้ ยิ่งจิตปราศจากกิเลส ประกอบด้วยปีติและมีปัญญาก็ย่อมมีผลมาก แต่ถ้าจิตสลับระหว่างกุศล อกุศล เช่น หวังผลให้ทาน เป็นต้น กุศลผลบุญก็น้อยลง เพราะฉะนั้นสภาพจิตเป็นสิ่งที่สำคัญ ว่าจะได้รับผลบุญมากหรือน้อยด้วยครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรมทั้งหลาย เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ผลที่เกิดขึ้นย่อมมาจากเหตุ ที่ควรจะได้พิจารณา คือ ผู้ควรแก่การับทาน นั้น มีมาก ไม่ใช่เฉพาะเพศบรรพชิตเท่านั้น ดังนั้น ถ้าทานกุศลในชีวิตประจำวัน ไม่เกิดเลย จะดำเนินไปถึงการดับกิเลสได้อย่างไร เพราะกิเลสมีมาก สะสมมาอย่างยาวนานในสังสารวัฏฏ์ การเจริญกุศล จึงไม่ใช่เพื่ออย่างอื่น แต่เพื่อขัดเกลากิเลสของตนเองเป็นสำคัญ และเมื่อได้สะสมเหตุที่ดีไว้แล้ว เมื่อถึงคราวให้ผล ก็ย่อมให้ผลเป็นผลที่ดีเท่านั้น ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...