ฟังและความตั้งใจฟังธรรม

 
pth.n
วันที่  5 เม.ย. 2563
หมายเลข  31697
อ่าน  579

ปัจจัยของการฟังมีหรือไม่คะและจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่ได้ฟังเป็นความจริง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 5 เม.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การได้ฟัง หรือ การได้ยิน อาศัยเหตุปัจจัยจึงเกิดขึ้น อาศัยโสตปสาทรูป คือ หู และ เสียง รวมทั้งกรรม ที่เป็นปัจจัยให้เกิดการได้ยิน โสตวิญญาณ แต่การได้ยิน การได้ฟังสิ่งหนึ่งสิ่งใด ก็มีทั้งการได้ยินเสียงที่ดี ได้ยินที่ไม่ดี ก็เพราะกรรมเป็นปัจจัย เมื่อกรรมดีให้ผลก็ทำให้ได้ยินเสียงที่ดี เมื่อกรรมไม่ดีให้ผลก็ทำให้ได้ยินเสียงที่ไม่ดี และ การจะได้ยิน ได้ฟังพระธรรมที่ถูกต้อง ก็เพราะอาศัยเหตุปัจจัย คือ ได้สะสมบุญไว้มาแต่ชาติปางก่อน คือ ความเข้าใจพระธรรมที่ถูกต้อง ทำให้ได้พบบัณฑิต ได้อยู่ใปนะเทศที่สมควรที่มีการแสดงธรรม และ ก็ได้ฟังสิ่งที่ถูกต้อง เพราะกรรมดีที่เป็นความเข้าใจพระธรรมที่ได้ทำมาแล้วให้ผล ทำให้ได้ยิน ได้ฟังสิ่งที่ถูกต้องอีก ครับ

การจะรู้ว่าสิ่งที่ได้ฟังถูกหรือผิด หรือ พิจารณาว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด จะเชื่อใครดี ก็เป็นสิ่งที่น่าพิจารณาว่า ธรรมอย่างหนึ่งที่เป็นสภาพธรรมที่รู้ตามความเป็นจริงและแยกแยะออกว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด นั่นคือ ปัญญา ดังนั้นถ้าจะตอบตรงๆ ก็คือ ผู้นั้นเองต้องมีปัญญาความเข้าใจถูกแล้ว ก็จะรู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด อันเริ่มมาจากการฟัง การอ่านให้เข้าใจว่า พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงนั้น ทรงแสดงสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา อนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ เพราะฉะนั้นคำสอนใด สอนให้มีปัญญาเข้าใจถูกในขณะนี้ว่าไม่ใช่เราเป็นธรรม เป็นแต่เพียง ธรรมที่เกิดขึ้นและดับไป สอนให้เข้าใจว่า ธรรมคือ สิ่งที่มีจริง เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น สี เสียง กลิ่น รส โกรธ โลภ เหล่านี้เป็นธรรมไม่ใช่เรา และการจะรู้ธรรมก็รู้ในขณะนี้ในสภาพธรรมที่กำลังปรากฎ การเข้าใจเช่นนี้และคำสอนเช่นนี้ก็ตามคำพระพุทธเจ้า ก็เป็นคำสอนที่ถูกต้อง แต่ผู้ที่อ่าน ผู้ที่ฟัง เมื่อได้ยินคำอธิบายนี้ ถ้าสะสมปัญญาความเห็นถูกมาก็เข้าใจ ถ้าสะสมมาน้อยก็เข้าใจน้อย ถ้าสะสมความเห็นผิด ก็เข้าใจผิดและไม่เข้าใจในสิ่งที่อธิบาย เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าจึงเป็นเพียงผู้บอกทาง ส่วนแต่ละคนแต่ละท่านก็ตามการสะสมแต่ละคน ปัญญานั้นเองที่จะเป็นเครื่องตัดสินรู้ว่าคำสอนใด ถูกหรือผิด ตามที่กล่าวมาครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 5 เม.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓
หน้า ๔๔๘

ธัมมัสสวนสูตร

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการฟังธรรม ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน? คือผู้ฟังย่อมได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง ๑ ย่อมเข้าใจชัดสิ่งที่ได้ฟังแล้ว ๑ ย่อมบรรเทาความสงสัยเสียได้ ๑ ย่อมทำความเห็นให้ตรง ๑ จิตของผู้ฟังย่อมเลื่อมใส ๑ ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการฟังธรรม ๕ ประการนี้แล

(พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต ธัมมัสสวนสูตร)


พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา นั้น ประกอบด้วยเหตุและผล เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นไปเพื่อการละคลายกุศล เป็นไปเพื่อการดับกิเลส เป็นไปเพื่อการไม่เกิดอีก บุคคลผู้ที่ไม่มีปัญญา ย่อมไม่เห็นประโยชน์ของพระธรรมที่มีคุณค่ามากนี้ ถึงแม้ว่าจะมีผู้แนะนำในสิ่งที่ดีมีประโยชน์แก่เขาอย่างไรก็ตาม เขาย่อมไม่เห็นคุณค่า ไม่เห็นประโยชน์ เพราะฉะนั้น พระธรรม จึงเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ได้สะสมบุญมาแล้วตั้งแต่ชาติปางก่อนเท่านั้น เคยเห็นประโยชน์ของพระธรรมมาแล้ว จึงตั้งใจ ตั้งใจศึกษาเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก ส่วนบุคคลผู้ที่ไม่ได้สะสมบุญมา ไม่เห็นประโยชน์ของพระธรรม ย่อมไม่ได้รับประโยชน์จากพระธรรม


ข้อความบางตอนจากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ มีดังนี้

[ยากนักหรือ?]

ลองคิดดู ความดีมีหลายอย่าง ทานการให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่คนอื่น ก็เป็นความดีอย่างหนึ่งกายวาจาที่ไม่เบียดเบียนใครแล้วยังช่วยเหลือคนอื่นทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่คนอื่น ก็เป็นความดี แต่ความดีเพียงฟังธรรมะ ทำได้ไหม? ไม่ต้องเสียวัตถุใดๆ เลยทั้งสิ้น ใช่ไหม? กายวาจาก็ไม่ต้องไปแบกหามหรือไปทำอะไรให้คนอื่น ด้วยความเหนื่อยยากของเรา เพราะว่าบางทีการที่จะทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่คนอื่นก็ทำให้เราไม่ได้อยู่เฉยๆ สบายๆ ใช่ไหม แต่ก็ทำ แต่ว่า เพียงแค่ฟัง ทำไม่ได้หรือ? ลำบากนักหรือกับการที่จะฟังธรรมะ เพราะฉะนั้น ที่ไม่ฟังเพราะอะไร? เพราะไม่เห็นประโยชน์ว่าการฟังทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจ และบางคนก็ยังสงสัยต่อไปว่า ความรู้ความเข้าใจจะมีประโยชน์อะไร? นี่ก็แสดงให้เห็นอวิชชา (ความไม่รู้) ว่าปิดบังไว้หนาแน่นมากมายสักแค่ไหน เพียงแค่รู้กับไม่รู้ก็ไม่เห็นความต่างแล้วว่าอะไรมีประโยชน์ ไม่ได้ให้ทำอะไรเลย ฟังให้เข้าใจ ถูกต้องไหม? ไม่ต้องไปนั่งนานๆ หรือว่าไปเดินเยอะๆ หรือว่าไปแบกหามอะไรเลยทั้งสิ้น ฟังให้เข้าใจสิ่งที่กำลังฟัง เท่านี้ทำไม่ได้หรือ? รู้อย่างนี้สบายมากไหม ไม่ต้องทำอะไรเลย ฟังทันทีที่จะฟังได้ นั่นคือ ความดีที่ดีกว่าอย่างอื่น เพราะว่าประกอบด้วยปัญญา

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ประสาน
วันที่ 5 เม.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

เพียงแค่ฟัง ทำไม่ได้หรือ? ลำบากนักหรือกับการที่จะฟังธรรมะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 8 เม.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pth.n
วันที่ 15 เม.ย. 2563

สาธุค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 23 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ