ทำไมจิตยึดติดในทรัพย์สินมาก

 
ชิงช้าชาลี
วันที่  10 เม.ย. 2563
หมายเลข  31724
อ่าน  894

เรียนท่านผู้รู้ เหตุใดคนเราจึงมีความยึดในทรัพย์มาก ทุกข์ใจมากเมื่อสูญเสีย บางคนยึดมากกว่าชีวิตตนเองถึงขั้นฆ่าตัวตายเมื่อเสียทรัพย์มาก จากตัวอย่างช่วงนี้ที่เศรษฐกิจไม่ดี สูญเสียรายได้ หรือบางคนไม่มีเลย บางคนกลัวจะไม่มีเงินมากกว่ากลัวโรคโควิด จะควรให้กำลังใจเช่นไรดีคะ ส่วนตัวก็ทุกข์ใจเช่นกันในสถานการณ์ปัจจุบัน ขอคำแนะนำด้วยค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 10 เม.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การที่ยินดีติดข้องในทรัพย์ในสิ่งต่างๆ และเกิดทุกข์เดือดร้อนใจมากมาย เพราะการพลัดพรากก็เพราะเหตุคือกิเลส คือ มีตัณหา ความติดข้อง ที่มีอยู่ในจิตและมีกิเลสคือความไม่รู้ อวิชชา เพราะไม่รู้ความจริงจึงติดข้อง นี่คือเหตุแห่งทุกข์ เหตุของการยึดถือในสิ่งต่างๆ และที่สำคัญ เพราะยึดถือว่ามีเรา มีสัตว์ บุคคลด้วยกิเลส จึงต้องการให้สิ่งนั้นอยู่กับตนเอง แต่เมื่อสิ่งเหล่านั้นไม่เที่ยง เพราะความยึดถือว่ามีเรา มีเขา มีสิ่งต่างๆ ก็เป็นปัจจัยให้เกิดทุกข์ เดือดร้อนใจ นี่คือความเป็นธรรมดาของปุถุชน

ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว จึงทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า ชนผู้ไม่มีกิเลสเครื่องกังวล มีความสุขหนอ ชนผู้ถึงเวท (คือ อริยมรรคญาณ) เท่านั้น ชื่อว่าผู้ไม่มีกิเลสเครื่องกังวล ท่านจงดูชนผู้มีกิเลสเครื่องกังวลเดือดร้อนอยู่ ชนเป็นผู้มีจิตปฏิพัทธ์ในชนย่อมเดือดร้อน. (คัพภินีสูตร)

ปุถุชน หมายถึง ผู้หนาด้วยกิเลส เต็มไปด้วยกิเลส และปุถุชนอีกควาหมายหนึ่งคือ ผู้เดือดร้อนโดยมาก เพราะอำนาจกิเลส

ดังนั้น จึงเป็นธรรมดาของกิเลสที่สะสมมามาก จึงเป็นเหตุปัจจัยให้ทุกข์ ยึดถือ หนทางการละกิเลส จึงต้องเริ่มจากหนทางที่ถูก ซึ่งเป็นทางเดียว ไม่มีทางอื่น คือ เริ่มมีปัญญาที่เข้าใจถูกว่าเป็นธรรมไม่ใช่เราก่อน เมื่อละคลายความยึดถือว่าเป็นเรา เป็นเขา ความเดือดร้อนก็น้อยลง การยึดถือสิ่งต่างๆ ก็น้อยลง ตามปัญญา เพราะ เข้าใจถูกว่าไม่มีใคร ไม่มีทรัพย์ มีแต่ธรรม นี่คือ ความจริงของปัญญาที่รู้ถูก แต่กิเลสมีมาก และ นับประมาณไม่ได้ จึงต้องเดือดร้อนไปกับการยึดถือต่างๆ เป็นปกติ ดังนั้นก็อบรมปัญญาท่ามกลางอกุศล ไม่ได้เปลี่ยนให้ไม่ให้กิเลสไม่เกิด เพราะเกิดแล้ว ความเดือดร้อนก็เกิดแล้ว แต่ ทั้งหมดก็ไม่ใช่เราเป็นธรรม การเข้าใจเช่นนี้จะเป็นหนทางการดับกิเลส ดับทุกข์ได้จนหมดสิ้น ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 10 เม.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

“ทุกข์นั้น ตัณหาไม่ได้สร้างแล้ว ย่อมไม่มา ทุกข์ ย่อมมีเพราะเหตุภายนอก มีพระอิศวรบันดาล ก็หาไม่ ที่แท้ ทุกข์ ย่อมมีเพราะตัณหานี้”

(สัมโมหวิโนทนี อรรถกถา พระอภิธรรมปิฎก วิภังคปกรณ์)

มีสมบัติอะไรในโลกซึ่งคนในโลกนี้เอาไปได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดๆ ก็ตามที่มีอยู่ ตั้งแต่บรรพบุรุษซึ่งได้ชื่อว่าครอบครองมีสิ่งเหล่านั้น แต่ก็จากไปหมด ไม่มีใครเป็นเจ้าของอย่างแท้จริงของสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลยสักอย่างเดียว

อ้างอิงจากหัวข้อ ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๔๙

เป็นธรรมดาของผู้ที่ยังมีโลภะหรือตัณหาอยู่ ซึ่งเป็นธรรมดาจริงๆ เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปเพราะเหตุปัจจัย ตามที่ได้สะสมมา ที่จะติดข้องในสิ่งหนึ่งสิ่งใด เมื่อติดข้องแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มความติดข้องอีก เก็บรักษา หวงแหน เมื่อพลัดพรากจากสิ่งนั้นไป สิ่งที่ตามมา ก็คือ ความโศกเศร้าเสียใจ คร่ำครวญถึงสิ่งนั้น ด้วยจิตที่เป็นอกุศล เพราะตามความเป็นจริงแล้ว ผลของความติดข้อง คือ นำมาซึ่งทุกข์เมื่อพลัดพรากสิ่งนั้นไป

สิ่งที่จะเป็นที่พึ่งจริงๆ ต้องเป็นการได้สะสมความดีและฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ครับ

ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ

ภัยที่น่ากลัวกว่าไวรัสโควิด

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ประสาน
วันที่ 12 เม.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 13 เม.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 23 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ