ขอสอบถามเรื่องการพูดเพ้อเจ้อครับ

 
chalit.tu
วันที่  16 เม.ย. 2563
หมายเลข  31756
อ่าน  929

ขอนอบน้อมแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น พร้อมทั้งพระธรรม และพระสงฆ์

จากพระพุทธพจน์นี้ครับ

ละคำเพ้อเจ้อ เว้นขาดจาก คำเพ้อเจ้อ พูดถูกกาล พูดแต่คำที่เป็นจริง พูดอิงอรรถ พูดอิงธรรม พูดอิงวินัยพูดแต่คำ มีหลักฐาน มีที่อ้างอิง มีที่กำหนด ประกอบด้วยประโยชน์ โดยกาลอันควร

คือตีความได้ว่าวาจาที่ไม่เป็นสัมผัปปลาปะนั้นต้องเป็นคำพูดที่เป็นประโยชน์ แบบนี้แล้วการที่เราพูดคุยธรรมดาในชีวิตประจำวัน เช่น

- พูดว่าทานข้าวหรือยัง

- เล่าเรื่องของตนเองว่าไปทำอะไรที่ไหนมา

- คุยธุระการงาน

แบบนี้จะเข้าข่ายเป็นการพูดเพ้อเจ้อไหมครับ เพราะพูดไม่มีประโยชน์เป็นเรื่องทั่วไป

ขอบคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 17 เม.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

แม้การถามสาระทุกข์ เมื่อพบปะกันก็ด้วยจิตที่เป็นกุศลได้ อกุศลก็ได้ เรื่องราวเดียวกัน แต่จิตต่างกัน ทักทายกันเพราะโลภะก็ได้ แม้จะคำพูดเดียวกัน แต่อีกบุคคลพูดด้วยจิตที่ดีงามเป็นกุศลหรือกิริยาจิตก็ได้ครับ ดังเช่น พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ย่อมมีธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันคือ ย่อมถามถึงสาระทุกข์ ถามถึงความเป็นไปของภิกษุผู้อาคันตุกะที่มาถึง ว่าเธอพออดทนได้หรือ ถามถึงความเป็นไปต่างๆ ด้วยจิตที่ดี ดังนั้น เรื่องราวที่พูดจึงไม่ใช่การตัดสินว่าเป็นพูดเพ้อเจ้อ สำคัญที่จิตและเจตนาเป็นสำคัญครับ

จะเป็นกุศลหรืออกุศลจิตนั้นสำคัญที่จิตและสำคัญที่เจตนาครับ ดังนั้นคำพูดใดเป็นคำพูดเพ้อเจ้อก็สำคัญที่เจตนา ไม่ใช่เรื่องที่จะพูด สำคัญที่จิตครับ เช่น แม้จะพูดเรื่องราวของบุคคลอื่น เช่น เรื่องข้าว เรื่องน้ำ เรื่องโจร แต่พูดด้วยจิตที่เห็นถึงความไม่เที่ยงว่า แม้โจรคนนี้จะเก่งเพียงใดก็ต้องตาย มีความไม่เที่ยงเป็นที่สุด แม้ข้าว น้ำที่มีมากเพียงใด ข้าวและน้ำนั้นก็ต้องถึงความสิ้น เสื่อมไปเป็นธรรมดา คำพูดนี้ไม่ใช่คำพูดเพ้อเจ้อ แม้จะกล่าวเรื่องของโจร เรื่องของข้าว เรื่องของน้ำ เพราะเจตนากล่าวด้วยจิตที่เป็นกุศล ด้วยจิตที่เห็นตามความเป็นจริงของสภาพธรรมที่ไม่เที่ยงโดยปรารภเรื่องราวในชีวิตประจำวัน แต่จิตขณะนั้นเป็นความเห็นถูก หากจิตเป็นกุศลแล้ว เรื่องราวที่พูดจะเป็นคำพูดเพ้อเจ้อไม่ได้เลยครับ

ที่สำคัญควรเข้าใจความจริงว่า ปุถุชนเป็นผู้หนาด้วยกิเลส จึงเป็นธรรมดาที่อกุศลย่อมเกิดได้ง่าย ดังนั้นในชีวิตประจำวันก็มีการพูด แต่การพูดนั้นก็ย่อมเป็นไปในอกุศลมากกว่าจิตที่เป็นกุศล มีการพูดเพ้อเจ้อ เรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ ด้วยจิตที่เป็นอกุศลครับ จึงเป็นผู้ตรงว่าเป็นธรรมดาที่จะต้องมีการพูดเพ้อเจ้อ ไม่มากก็น้อย ซึ่งผู้ที่จะไม่พูดเพ้อเจ้ออีกเลยคือพระอรหันต์ครับ ส่วนในองค์ของศีล ๕ นั้นไม่มีเรื่องการพูดเพ้อเจ้อ มีแต่เพียงการพูดเท็จ ดังนั้นศีล ๕ ไม่ขาดเพราะเหตุแห่งการพูดเพ้อเจ้อครับ แต่ที่สำคัญเมื่อปัญญาค่อยๆ เจริญขึ้น ก็ย่อมค่อยๆ ขัดเกลากิเลสทีละน้อย ค่อยๆ เห็นโทษแม้การพูดในเรื่องที่จะไม่เป็นประโยชน์กับตนเองและผู้อื่นครับ แม้จะยังละไมไ่ด้ เพราะไม่ใช่ฐานะ แต่เริ่มที่จะเห็นโทษแม้ด้วยใจบ้างหรือยังเท่านั้นครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 17 เม.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ในความหมายของการพูดเพ้อเจ้อ หรือ พูดสัมผัปปลาปะนั้น หมายถึง อกุศลเจตนาที่จงใจพูดในเรื่องที่ไม่มีประโยชน์แก่ผู้อื่น

การพูดเพ้อเจ้อ มีองค์ประกอบ ๒ อย่าง คือ มุ่งที่จะพูดคำที่ไร้ประโยชน์ และ มีการกล่าวถ้อยคำเช่นนั้นออกไป ซึ่งเกิดจากอกุศลจิต นั่นเอง แต่ก็ไม่ได้หมายรวมความว่า การพูดเรื่องทั่วไปแล้วจะเป็นการพูดเพ้อเจ้อทั้งหมด เพราะเหตุว่าพระธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียด ลึกซึ้ง และพิจารณาที่สภาพจิตเป็นสำคัญ เช่น การพูดกับผู้อื่นด้วยเมตตาจิต ถามถึงสุขทุกข์ และการพูดแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ในการดำรงชีวิตแก่ผู้อื่นด้วยกุศลจิต ครูอาจารย์สั่งสอนศิลปวิทยาเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับประกอบอาชีพที่สุจริตในภายภาคหน้า แก่ศิษย์ เป็นต้น อย่างนี้ไม่เป็นการพูดเพ้อเจ้อ ดังนั้น การจะผิดอกุศลกรรมบถข้อการพูดเพ้อเจ้อ ซึ่งเป็นวจีทุจริต นั้น ต้องหมายถึงเฉพาะการพูดด้วยอกุศลเจตนา ให้ผู้อื่นรับรู้ในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ เท่านั้น

เพราะฉะนั้น ประโยชน์ที่ได้จากการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ในส่วนของอกุศลธรรม นั้น ก็เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก เห็นโทษเห็นภัยของอกุศลธรรม แล้วถอยกลับจากอกุศลธรรม แม้จะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม เพราะเหตุว่า ถ้าเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยก็จะเป็นผู้ประมาท ในที่สุดแล้วก็จะเป็นอกุศลที่มีมาก มีกำลังล่วงจนกระทั่งล่วงเป็นทุจริตกรรมประการต่างๆ ได้ ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chalit.tu
วันที่ 17 เม.ย. 2563

ขอบคุณอาจารย์ทั้งสองมากครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Dusita
วันที่ 18 เม.ย. 2563

กราบ อนุโมทนา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Somporn.H
วันที่ 20 เม.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 23 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ