ความรู้สึกตลก

 
ชิงช้าชาลี
วันที่  25 เม.ย. 2563
หมายเลข  31798
อ่าน  926

อยากรบกวนถามว่า การที่รู้สึกตลกหรือขำในเรื่องต่างๆ คือธรรมะแบบไหนคะ แล้วเหตุใดจึงมีความรู้สึกขำเกิดขึ้นคะ และมีเหตุปัจจัยอะไรที่คนเราจะไม่ขำหรือไม่รู้สึกตลกในเรื่องใดๆ เลยได้ไหมคะ ขอขอบพระคุณค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 25 เม.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การรู้สึกตลก ขำ ไม่พ้นจากสภาพธรรมที่มีจริง คือ จิต เจตสิก ที่เกิดขึ้น อันแสดงความจริงว่าไม่มีเรา ไม่มีสัตว์บุคคล มีแต่ธรรม ไม่มีเราที่ตลก ไม่มีเราที่ขำ แต่ มีสภาพธรรมที่เกิดขึ้น คือ จิตที่เป็นโลภะ ความติดข้อง ยินดีพอใจ ในอารมณ์หนึ่งอารมณ์ใด ที่ทำให้เกิดการขำ การตลก ถ้าไม่มีโลภะ ความติดข้อง ยินดีพอใจ จะไม่ขำเลย นี่คือความเป็นปกติชีวิตประจำวันของปุถุชน ที่ยังมากด้วยกิเลสและเป็นธรรมดาเหลือเกิน ที่จะตลก ขำ ตราบใดที่ยังมีกิเลส มีโลภะ

หนทางดับกิเลส จึงไม่ใช่การห้ามไม่ให้ตลก ไม่ให้ขำ หรือจะห้ามกิเลส เพราะห้ามไม่ได้เลย ธรรมเป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ เมื่อมีเหตุปัจจัยกิเลสก็เกิดขึ้นเป็นธรรมดา ดังนั้นพระองค์ทรงแสดง อริยมรรค ทางสายกลาง คือ ทางแห่งปัญญาที่ให้เข้าใจถูกในสภาพธรรมตามความเป็นจริงที่เกิดแล้วว่าไม่ใช่เราเป็นธรรม กิเลสก็ไม่พ้นจากธรรม ไม่ใช่เรา ปัญญาที่เริ่มเข้าใจถูกในสิ่งที่เกิดขึ้นว่าไม่ใช่เรา เป็นหนทางการละกิเลส ดับกิเลสที่แท้จริง ตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 25 เม.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความบางตอนจากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ มีดังนี้

จิตที่จะทำให้เกิดการยิ้มหรือการหัวเราะ ต้องเป็นจิตที่เกิดร่วมกับโสมนัสเวทนา ถ้าขณะนั้นจิตเกิดร่วมกับอุเบกขาเวทนา ความรู้สึกไม่สุข ไม่ทุกข์ เฉยๆ จะไม่เป็นปัจจัยให้เกิดหัวเราะหรือยิ้ม เพราะฉะนั้นในขณะใดที่ยิ้มหรือหัวเราะ เวทนาในขณะนั้นเป็นโสมนัสเวทนา สติปัฏฐานเกิดได้ไหมในขณะที่ยิ้มหรือหัวเราะ ไม่มีใครไปบังคับว่าอย่าเกิด หรือเกิดไม่ได้ ไม่ใช่เจริญสติปัฏฐานแล้วต้องไม่ยิ้ม ต้องไม่หัวเราะ สติเป็นอนัตตา การยิ้ม ถ้าไม่มีปัจจัยก็ไม่เกิดขึ้น แล้วในขณะที่ยิ้มแล้วแล้วสติเกิดสามารถที่จะระลึกรู้ลักษณะของโสมนัสเวทนาได้ในขณะนั้น หรืออาจจะรู้ลักษณะของรูปหนึ่งรูปใดหรือนามหนึ่งนามใดก็ได้ เพราะเหตุว่าสติปัฏฐานเป็นอนัตตา ไม่มีใครสามารถจะบังคับว่า โสมนัสเวทนาอย่าปรากฏ ความดีใจอย่าปรากฏ ความสนุกสนานรื่นเริงอย่าปรากฏ ในขณะที่กำลังสนุก ลักษณะสภาพที่เป็นโสมนัส หรือความรู้สึกสนุกสนานปรากฏ เมื่อปรากฏแล้ว สติย่อมสามารถที่จะระลึกรู้สภาพที่ไม่ใช่ตัวตน เป็นแต่เพียงลักษณะของความรู้สึกชนิดหนึ่ง ซึ่งกำลังดีใจ เพลิดเพลิน หรือว่าสนุกสนานในขณะนั้น

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ชิงช้าชาลี
วันที่ 25 เม.ย. 2563

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ค่ะ บางทีสังเกตตัวเองแล้วเกิดความสังสัย เช่นบังเอิญเห็นรายการตลกตามทีวี การพูดผิดพูดถูก ทำ ท่าทางแปลกๆ เต้นแร้งเต้นกา ก็ทำให้รู้สึกตลก ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้สึกดีใจ หรือติดข้อง ยินดีพอใจในการกระทำนั้น ซึ่งดิฉันยังไม่ถึงจุดที่เข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง จึงยังโยงกับโลภะหรือโสมนัสเวทนาไม่ได้ค่ะ อย่างไรก็กราบขอบพระคุณค่ะ จะศึกษาต่อไปค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
kukeart
วันที่ 26 เม.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
talaykwang
วันที่ 24 พ.ค. 2563

ขออนุโมทนาในกุศลค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 29 พ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ