การลักทรัพย์ผู้อื่น จะให้ผลอย่างไรใน อกุศลวิบากจิต 7 ดวง
พระไตรปิฏกกล่าวว่าผลอย่างเบาคือ ทรัพย์สินเสียหาย แล้วผลของกรรมที่เกิดทางจิต จะได้อย่างไร
ถ้ากล่าวว่าจะได้ยินเสียงที่ไม่ดี ก็รู้สึกว่าเหตุกับผลไม่สัมพันธ์กันครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เวลาเราสูญเสียสิ่งใด ก็คือ เราไมไ่ด้เห็นสิ่งนั้น เห็นสิ่งอื่น เพราะฉะนั้น เมื่อสิ่งดีๆ ที่เคยเห็น กับไม่ได้เห็น และเห็นสิ่งที่ไม่ดีแทน เป็นต้น เหล่านี้ก็เป็นผลของกรรมที่เกิดทางตา ไฟไหม้บ้าน ไฟไหม้ทรัพย์สิน เห็นไฟ แทนที่จะเห็นสิ่งดีๆ กระทบความร้อน เป็นต้น นี่คือ ไม่พ้นจาก ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ในทางของการรับผลของกรรม ครับ สำคัญที่สุด คือ เข้าใจถูกไหมว่าไม่มีเรา มีแต่ธรรมที่เห็น ได้ยิน นี่คือหนทางที่ถูกต้องในการดับกิเลส ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เมื่อถึงคราวที่กรรมจะให้ผล ใครก็ยับยั้งไม่ได้ เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เมื่อได้รับผลของกรรมในฝ่ายที่เป็นอกุศล (คือ ได้รับอกุศลวิบาก) ก็เป็นธรรมดาจริงๆ สำหรับผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ ที่จะมีความหวั่นไหว เกิดความเศร้าเสียใจ ซึ่งก็เป็นธรรมอีกเหมือนกันที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ แต่ที่ควรจะได้พิจารณาจริงๆ คือ ชีวิตยังเป็นไปอยู่ ก็ควรจะเป็นโอกาสที่จะได้สะสมความดี รวมถึงความเข้าใจถูกเห็นถูก ด้วย เพราะทรัพย์สินเงินทอง ไม่สามารถติดตามไปในภพหน้าได้ แต่ความดีและความเข้าใจพระธรรมจะสะสมเป็นที่พึ่งต่อไป และ เป็นเหตุที่จะนำมาซึ่งผลที่ดีด้วยในขณะที่ยังต้องเดินทางไกลในสังสารวัฏฏ์
อีกประการหนึ่งที่น่าพิจารณา คือ ยิ่งการได้รับอกุศลวิบาก ในขณะนี้ ก็ยิ่งจะเป็นเครื่องเตือนใจให้ไม่ประมาทในชีวิต ในการที่จะได้สะสมความดีต่อไป เพราะการได้รับอกุศลวิบาก ก็ต้องมาจากเหตุ ก็คือ อกุศลกรรม นั่นเอง โดยที่ไม่มีใครทำให้เลย ดังนั้น จึงไม่ควรที่จะทำเหตุที่ไม่ดี ต่อไป พระธรรมจึงเป็นประโยชน์เกื้อกูลอย่างยิ่งในชีวิตประจำวัน ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...