วิบากดีแต่ยังทุกข์ วิบากไม่ดีแต่สุข

 
ชิงช้าชาลี
วันที่  26 เม.ย. 2563
หมายเลข  31806
อ่าน  625

ขอความกรุณาท่านผู้รู้ ช่วยแจกแจงธรรมเกี่ยวกับกรณีที่ว่า คนหลายคนได้รับวิบากที่เข้าใจว่าน่าจะดี (บังเอิญเห็นหัวข้อดารากลัวของแปลก) เช่น ได้เห็นผีเสื้อ เห็นปลาสวยงาม ได้กินผลไม้ แต่กลับรู้สึกกลัวเป็นทุกข์อย่างมาก ในทางตรงข้ามบางคนได้รับวิบากร้าย เช่นโดนทุบตี แต่รู้สึกชอบที่โดนกระทำเช่นนั้น หรือพวกซาดิสซ์ แบบนี้ ผลของวิบากต่างๆ ไม่ว่าดีหรือร้าย ท้ายสุดจะเป็นสุขหรือทุกข์อยู่ที่การปรุงแต่งต่อหรือคะ คืออะไรทางธรรมะคะ ขอความกรุณาอธิบายด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 27 เม.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ก่อนอื่นก็เขาใจสองคำนี้ก่อนครับ อิฏฐารมณ์ กับ อนิฏฐารมณ์ คือ อะไร

อิฏฐารมณ์ อารมณ์ที่น่าปรารถนา น่าพอใจ หมายถึง อารมณ์ที่ดีปานกลาง เช่น สี เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะที่สวยงาม เป็นที่น่าปรารถนาของคนทั่วไป แต่ไม่ถึงกับ ประณีตจนเป็นทิพย์ เป็นอารมณ์ของจิตได้ทั้ง ๔ ชาติ แต่สำหรับชาติวิบาก กรรม จัดสรรให้เฉพาะ "กุศลวิบากที่เกิดจากกุศลกรรมที่ปานกลางเท่านั้น" ที่มีอิฏฐารมณ์เป็น อารมณ์ (กุศลวิบากที่เกิดจากกุศลกรรมที่ประณีต มีอติอิฏฐารมณ์เป็นอารมณ์ อกุศลวิบากซึ่งเกิดจากอกุศลกรรม มีอนิฏฐารมณ์เป็นอารมณ์)

อนิฏฐารมณ์ อารมณ์ที่ไม่น่าปรารถนา ไม่น่าพอใจ หมายถึง อารมณ์ที่ไม่ดี เป็นสภาพที่หยาบทราม ไม่ประณีต เช่น สีที่ซากศพ เสียงด่า กลิ่นเหม็น รสเผ็ดจัด โผฏฐัพพะแข็งไป อ่อนไป ร้อนไป เย็นไป อนิฏฐารมณ์เป็นอารมณ์ของกุศลจิต อกุศลจิต วิบากจิต หรือกิริยาจิตก็ได้ แต่สำหรับวิบากจิต อนิฏฐารมณ์เป็นอารมณ์ของอกุศลวิบากเท่านั้น เพราะอกุศลกรรมจัดสรรให้อกุศลวิบากรู้เฉพาะอนิฎฐารมณ์

การประสบกับ อนิฏฐารมณ์ หรือ อนิฏฐารมณ์ เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย การไดัรับสิ่งที่น่าปรารถนา เป็นผลของกุศลกรรม แต่ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรมแล้วจะทำให้ได้รับในสิ่งที่ไม่น่าปรารถนาไม่น่าใคร่ ไม่น่าพอใจไม่มีใครทำให้เลย ต้องมาจากเหตุ คือกรรมที่แต่ละคนได้กระทำแล้ว

การได้รับวิบากดีทางตาก็เห็นสิ่งที่ดี อารมณ์นั้นเป็น อิฏฐารมณ์ แต่หลังจากเห็นสิ่งที่ดีแล้ว จิตอื่นๆ เกิดต่อ ชอบ หรือ ไม่ชอบสิ่งนั้นตามการสะสมมาในอดีต บางคนชอบสิ่งสกปรก สิ่งสกปรก ก็เป็นอารมณ์ที่ไม่ดี เกิดจากกรรมที่ไม่ดีให้ผล จะเปลี่ยนว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะความชอบไม่ได้ แต่ความชอบนั้นเป็นอกุศลจิตที่เป็น โลภะ บางคนเกลียด ไม่ชอบสีที่สวยงาม ก็ตามการสะสมมา ของแต่ละคนในอดีต แต่ เพราะควาไม่ชอบที่เป็นอกุศลจิตคือโทสะ จะเปลี่ยนลักษณะของอารมณ์ที่ดี ไม่ได้ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ชิงช้าชาลี
วันที่ 27 เม.ย. 2563

กราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ประสาน
วันที่ 27 เม.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 27 เม.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

วิบาก เป็นผลของกรรม มาจากกรรมที่ได้กระทำแล้ว ทั้งนั้น เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย

กรรม คือ การกระทำ กรรม มีทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว ผลจึงต่างกัน กล่าวคือ กรรมดีให้ผล ที่ดี ทำให้มีความสุข ส่วนกรรมชั่วให้ผลที่ไม่ดี ทำให้มีความทุกข์ เมื่อทำกรรมสำเร็จแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกรรมในชาตินี้หรือกรรมในชาติก่อนๆ ที่ผ่านมา เมื่อถึงคราวให้ผล ย่อมให้ผลตามฐานะของกรรม นั้นๆ ไม่มีใครสามารถลบล้างกรรมที่ทำสำเร็จไปแล้วได้

การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ในชีวิตประจำวัน ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นแห่งปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูกในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง แม้ในเรื่องกรรมและผลของกรรมก็เช่นเดียวกัน ไม่พ้นไปจากธรรมเลย ไม่พ้นจากชีวิตประจำวันด้วย ผู้ที่ได้ศึกษาพระธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนา ย่อมจะเป็นผู้มีความเข้าใจว่าผลที่เกิดขึ้นกับบุคคลแต่ละคน หรือแม้กระทั่งเกิดกับตัวเอง ไม่ว่าดีหรือร้าย น่าปรารถนาหรือไม่น่าปรารถนาก็ตาม ล้วนแล้วแต่เป็นเพราะกรรมที่เคยได้กระทำมาแล้วทั้งสิ้น ไม่มีใครทำให้เลย ซึ่งจะเห็นได้ว่า ถ้าไม่มีเหตุคือกรรมที่ได้กระทำมาแล้ว ผลที่จะเกิดย่อมมีไม่ได้ แต่เพราะมีเหตุคือกรรมที่ได้กระทำแล้ว เมื่อได้โอกาสที่กรรมจะให้ผล ผลจึงเกิดขึ้น

ซึ่งจะเห็นได้ว่าเพราะมีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จึงมีการรู้อารมณ์ต่างๆ มี รูป เสียง กลิ่น รส เป็นต้น และโดยปกติของผู้ที่เป็นปุถุชนจะห้ามไม่ให้ติดข้อง จะห้ามไม่ให้ยินดีในสิ่งที่กำลังปรากฏ ก็เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ จะห้ามไม่ให้โทสะเกิดก็เป็นไปไม่ได้ เพราะสะสมมากิเลสประเภทนั้นๆ มาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ฎ์ อีกทั้งยังไม่เห็นโทษของกุศล ยังไม่เข้าใจธรรมตามความเป็นจริง จึงถูกกิเลสกุศลครอบงำอยู่เป็นประจำ เมื่อได้เหตุได้ปัจจัยกิเลสก็เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่

ส่วนผู้ที่ดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาดแล้ว กิเลสย่อมไม่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะประสบกับอารมณ์ประเภทใดๆ ก็ตาม ดังนั้น ผู้ที่หมดกิเลสแล้ว กับ สัตว์โลก ผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่นั้น จึงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
น้ำมน
วันที่ 28 เม.ย. 2563

อนุโมธนา สาธุค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 23 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ