คำถามเกี่ยวกับที่มาของพระพุทธพจน์เรื่องทางที่ประเสริฐ เป็นต้น

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การที่จะมีความเข้าใจถูกเห็นถูกที่ค่อยๆ เจริญขึ้น ก็ต้องอาศัยการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย จะเข้าใจทันทีทันใดทั้งหมด เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

จากประเด็นคำถาม

-พุทธพจน์ที่ว่า บรรดาทางทั้งหลาย ทางมีองค์แปดประเสริฐ บรรดาสัจจะทั้งหลาย อริยสัจประเสริฐ บรรดาธรรมทั้งหลาย วิราคธรรมประเสริฐ
มาจากพระสูตรไหน

* * มาจาก พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้าที่ ๙๙

"บรรดาทางทั้งหลาย ทางมีองค์ ๘ ประเสริฐ บรรดาสัจจะทั้งหลาย บท ๔ ประเสริฐ บรรดาธรรมทั้งหลาย วิราคะประเสริฐ
---------

-วิราคธรรม แปลว่าอะไร คืออะไรหรือคะ

วิราคธรรม คือ ธรรมที่ดับหรือสำรากราคะ ได้แก่ พระนิพพาน


-ทำไมจุดมุ่งหมายของพุทธศาสนาจึงเป็นนิพพานเท่านั้นหรือคะ

เพราะถ้ายังไม่ได้ประจักษ์แจ้งพระนิพพาน ยังไม่ได้สามารถดับกิเลสตามลำดับขั้น จนถึงความเป็นพระอรหันต์ สังสารวัฏฏ์ก็ยังเป็นไป ยังไม่พ้นไปจากทุกข์ ดังนั้น จุดมุ่งหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นไปเพื่อดับทุกข์สิ้นทุกข์โดยประการทั้งปวง ซึ่งไม่มีในคำสอนอื่น

-พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้นที่เป็นสัพพัญญู (รู้สิ่งทั้งปวงไม่เว้นอะไร) หรือคะ

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น ที่เป็นสัพพัญญู คือ ทรงรู้ทุกสิ่งทุกอย่างตามความเป็นจริง ไม่มีเว้น ด้วยพระบารมีคุณความดีที่พระองค์ได้สะสมอบรมเจริญมาที่จะถึงความเป็นบุคคลผู้เลิศผู้ประเสริฐที่สุดในโลก ไม่มีใครเสมอเหมือน

-พระอริยบุคคลคืออะไรหรือคะ

พระอริยบุคคล คือ บุคคลผู้ที่ประเสริฐ ห่างไกลจากกิเลสที่ดับได้แล้ว กิเลสที่ดับได้แล้วจะไม่เกิดอีกในสังสารวัฏฏ์

-นิพพานคืออะไรหรือคะ ใช่วิราคธรรมหรือเปล่า

พระนิพพาน เป็นสภาพธรรมที่ไม่เกิดไม่ดับ มีจริงๆ มีลักษณะที่สงบ สงบจากกิเลส

พระนิพพาน เป็นวิราคธรรม และ สำหรับวิราคธรรม นั้น ยังหมายรวมถึง ขณะที่มรรคจิตเกิดขึ้นประจักษ์แจ้งพระนิพพาน ด้วยมรรคจิต จึงเป็นวิราคธรรมด้วย

-กาลามสูตรสามารถใช้กับอะไรได้บ้างหรือคะ

ทุกพระสูตรเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลเพื่อความเข้าใจอย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริง เป็นประโยชน์โดยตลอด แม้แต่กาลามสูตร หรือ เกสปุตตสูตร ก็เพื่อความเข้าใจอย่างถูกต้อง มีการพิจารณาไตร่ตรอง รอบคอบ เกิดปัญญาเป็นของตนเอง

-พระธรรมคุณ สามารถพิสูจน์ได้ทุกกาลเวลาจริงไหมคะ

ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นคำอนุเคราะห์เกื้อกูล เพื่อความเข้าใจสิ่งที่มีจริงตรงตามความเป็นจริง ขณะนี้มีธรรม มีสิ่งที่มีจริงๆ ทุกขณะไม่เคยขาดธรรมเลย ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม คือ คำสอนของพระองค์ จะไม่สามารถเข้าใจอะไรได้เลย จึงเป็นเรื่องของบุคคลผู้ที่มีโอกาสได้ฟังได้ศึกษาเท่านั้น จึงจะมีความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ และถึงจะเข้าใจความประเสริฐยิ่งของพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง

ก็ขอให้ได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมต่อไป ด้วยความอดทน ไม่ท้อถอย ไม่ใจร้อนอยากจะรู้เร็วๆ เพราะปัญญาเป็นพืชที่โตช้าต้องอาศัยการอบรมเจริญ สะสม เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ซึ่งสามารถตั้งต้น เริ่มต้นได้ตั้งแต่ในขณะนี้ ครับ

ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ

ควรเริ่มต้นอย่างไร

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขออนุโมทนาครับ