คนที่มีความสุขคือคนที่รู้จักพอ
ถ้าเรายังติดข้องในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะ ในทรัพย์ ในวัตถุสิ่งต่างๆ ขณะนั้นเราไม่มีวันเป็นสุขสงบจริงๆ ได้ เพราะเหตุใด เพราะเหตุว่าเท่าไรก็ไม่พอ คนที่มีความสุข คือ คนที่พอ เท่าไรก็พอ มีเท่าไรก็พอ แต่ถ้าคนที่ไม่พอ เท่าไรๆ ก็ไม่พอ ในพระไตรปิฎกอุปมาว่า ถึงแม้ว่าจะให้ภูเขาทองคำลูกหนึ่ง ก็ยังอยากได้อีกลูกหนึ่ง คือ ไม่มีทางจะพอได้เลยค่ะสมบัติ หรือบางคนทำบุญ มือนี้ก็ให้ไป ส่วนมือนี้ก็ยื่นออกไปรับ หมายความว่าให้ไปแล้วก็หวังผลที่จะได้ ก็เลยไม่มีความหมาย คือว่าต้องทำอย่างนี้อยู่ตลอดเวลา แต่คนที่รู้ว่า ทุกข์ทั้งหมดเกิดจากอกุศลทุกชนิด
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 53
ข้อความบางตอนจาก
รัชชสูตร
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกะมารด้วยพระคาถาว่า
ภูเขาทองคำล้วนมีสีสุกปลั่ง ถึงสองเท่าก็ยังไม่พอแก่บุคคลหนึ่ง บุคคลทราบดังนี้แล้ว พึงประพฤติสงบ ผู้ใดได้เห็นทุกข์มีกามเป็นเหตุแล้ว ไฉนผู้นั้นจะพึงน้อมใจไปในกามเล่า บุคคลทราบอุปธิว่าเป็นเครื่องข้องในโลกแล้ว พึงศึกษาเพื่อกำจัดอุปธินั้นเสีย
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๖ - หน้าที่ 145
บรรดาความอิ่มทั้งหลาย ความอิ่มด้วยปัญญาประเสริฐ เพราะผู้อิ่มด้วยปัญญานั้น ย่อมไม่เดือดร้อนด้วยกามทั้งหลาย คนผู้อิ่มด้วยปัญญา ตัณหาย่อมกระทำให้อยู่ในอำนาจไม่ได้.