จริงหรือเปล่าครับที่ว่า ในการเริ่มเรียนพระไตรปิฎก มีพระอรรรถกถาจารย์แนะนำว่า ควรเรียนพระอภิธรรมก่อน
ขอกราบสวัสดีอาจารย์วิทยากรของเว็บบ้านธัมมะอีกครั้งครับ
ผมขอสอบถามเพิ่มเติมหน่อยนะครับ ในระหว่างพระไตรปิฎก ๓ หมวด จริงหรือเปล่าที่พระอรรถกถาจารย์แนะนำให้เริ่มเรียนพระอภิธรรมก่อน เหตุเพราะว่า เป็นสภาวธรรมที่จะยังศรัทธาให้เกิดขึ้นได้ง่ายกว่า เพราะการจะไปศึกษาพระวินัย จะได้ระมัดระวังได้มากกว่า และเกื้อหนุนต่อการศึกษาพระสูตร ให้เห็นหรือเข้าใจถึงกุศลหรืออกุศลของบุคคลในเรื่องราวในพระสูตร
ขอขอบพระคุณมากครับผม
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ตามความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพระวินัย พระสูตร หรือ พระอภิธรรม ก็ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงเลย พระวินัยเป็นเรื่องของพระบัญญัติต่างๆ ที่เกี่ยวกับความประพฤติเป็นไปทางกาย ทางวาจา ซึ่งมาจากจิตใจ ก็ไม่พ้นไปจากธรรม พระสูตร เป็นการแสดงพระธรรม ณ สถานที่ต่างๆ ปรารภบุคคลต่างๆ ยกธรรมประการต่างๆ ขึ้นแสดง ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมตามความเป็นจริง ส่วนพระอภิธรรม เป็นการยกธรรมล้วนๆ ขึ้นแสดง ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตน เป็นธรรมที่ละเอียดยิ่ง ซึ่งเมื่อได้ศึกษาพระอภิธรรมเข้าใจแล้วก็ทำให้ศึกษาพระวินัย พระสูตรเข้าใจได้ด้วย เพิ่มพูนความมั่นคงในความเป็นจริงของสภาพธรรมมากยิ่งขึ้น
พระอภิธรรม ยาก แต่สามารถเข้าใจได้เมื่อได้เริ่มฟัง เริ่มศึกษา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ด้วยความละเอียดรอบคอบเท่านั้น ที่จะเป็นไปเพื่อขัดเกลาละคลายกิเลสในชีวิตประจำวัน สำคัญอยู่ที่ความเข้าใจถูก เห็นถูกตั้งแต่ต้นว่า สิ่งที่มีจริงเป็นธรรม ไม่ว่าจะแสดงโดยพระวินัย พระสูตร หรือพระอภิธรรม ก็เพื่อเข้าใจธรรม ตามความเป็นจริงนั่นเอง พระธรรมทุกคำมีค่ามาก เพราะเป็นพระปัญญาตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์คำปั่นอย่างสูงครับ
และขอขอบพระคุณคณะผู้จัดทำเว็บบ้านธัมมะอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ที่ได้เป็นแหล่งให้ผมได้ศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ตอนนี้ได้เริ่มศึกษาพื้นฐานพระอภิธรรม แผ่นที่ 1 ท่านอาจารย์สุจินต์มีเมตตาอนุเคราะห์เกื้อกูลช่วยอรรถาธิบายอย่างละเอียดพิสดาร แล้วไปอย่างไม่เร่งรีบ ศึกษาไปทีละคำ ท่านย้ำแล้วย้ำอีกจนผู้ฟังเข้าใจดี ถึงค่อยไปศึกษาคำอื่น ทีละคำๆ ท่านย้ำแล้วย้ำอีกว่า ไม่ควรท่องจำ ไม่ได้ให้ท่องจำ แต่ให้คิดพิจารณาจนเกิดความเข้าใจของตนเอง และเปิดโอกาสให้ผู้ฟังซักถามได้ตลอด ยังได้ยินเสียงท่านอาจารย์บ่อยๆ ว่า "ยังมีผู้ใดสงสัยอะไรมั้ยคะ" และ "มีท่านผู้ใดมีคำถามอะไรมั้ยคะ"
รู้สึกโชคดีเป็นบุญเหลือเกินที่ผมได้มีโอกาสมาศึกษาพระอภิธรรมที่ยังคงอยู่สมบูรณ์ครบถ้วน และยังมีผู้ที่เข้าใจอย่างแท้จริงในพระอภิธรรม และเป็นผู้มีปฏิสัมภิทา มีความรู้แตกฉานทั้งในเหตุ ทั้งในผล ทั้งในภาษา ทั้งในปฏิภาณ อย่างท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ รวมทั้งอาจารย์วิทยากรของมูลนิธิฯ ทุกท่านช่วยเป็นกัลยาณมิตรชี้นำทางให้แก่กระผม
ขออนุโมทนาสาธุครับ
ข้อความบางตอนจากหนังสือ...
พุทธศาสนานิกควรพิจารณาและศึกษาให้รู้ว่า ธรรมและความจริงที่พระองค์ตรัสรู้นั้นคืออะไร ความจริงที่พระองค์ทรงตรัสรู้ต่างกับความจริงที่เราคิดนึกหรือเข้าใจอย่างไรบ้าง
ความจริงที่พระองค์ทรงตรัสรู้ และทรงเทศนาสั่งสอนพุทธบริษัทให้เข้าใจและปฏิบัติตามจนเห็นความจริงนั้นๆ ก็คือ สิ่งทั้งหลายที่ปรากฏนั้น เป็นธรรมแต่ละชนิดแต่ละประเภท ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล
ธรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้นนั้นเพราะปัจจัยปรุงแต่งจึงเกิดขึ้นได้ เช่น ความโลภ ความโกรธ ความเสียใจ ความทุกข์ ความสุข ความริษยา ความตระหนี่ ความเมตตา ความกรุณาการเห็น การได้ยิน เป็นต้น ล้วนแต่เป็นสภาพธรรมแต่ละชนิด สภาพธรรมแต่ละชนิดแต่ละประเภทนั้นต่างกัน เพราะเกิดจากเหตุปัจจัยต่างๆ กัน
ดาวน์โหลดหนังสือ -->
ถ้าเข้าใจว่าขณะนี้ทั้งหมดเป็นพระอภิธรรมเป็นธรรมะที่มีจริง ไม่ใช่เรา ก็ทำให้สอดคล้องกันทั้ง ๓ ปิฏก ค่ะ