สารทจีนกับความเข้าใจที่ถูกต้องคืออย่างไร
อาหารของโลกมนุษย์ ก็เป็นอาหารอย่างที่เรารับประทานกัน คือมีขนมจ้าง ขนมเทียน เป็นกับข้าวต่างๆ แต่อีกภพภูมิหนึ่ง ไม่ต้องมีแม่ครัวแบบนี้ หรืออาจจะไม่ต้องการรสขนมจ้างอีกต่อไป เพราะเหตุว่าถ้าเกิดเป็นเทพ รสทิพย์ เป็นอาหารที่อร่อยกว่าขนมจ้างหรือขนมในโลกนี้ทั้งหมด ถ้าเป็นสวรรค์ ทุกอย่างประณีตมาก สิ่งที่ปรากฏก็น่าดู กลิ่นก็หอม รสก็เป็นทิพย์ และทุกอย่างก็สะดวกสบายมาก
เพราะฉะนั้นไม่ใช่บรรพบุรุษของเรายังต้องการขนมชนิดนี้ ถ้าสิ้นชีวิตแล้วไปเกิดในภูมิอื่นก็ต้องแล้วแต่ว่าเป็นภพภูมิอะไร แต่ข้อสำคัญที่สุดก็คือว่า เราซึ่งเป็นบุตรหลานมีความกตัญญูกตเวที แล้วระลึกถึงบรรพบุรุษแล้วทำกุศล แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ เมื่อผู้ที่เราอุทิศให้เกิดกุศลจิต เขาก็ได้รับผลของกุศล ไม่จำเป็นต้องเป็นขนมจ้าง ประณีตกว่าก็ได้
สารทจีน เป็นประเพณีอย่างหนึ่ง
ตามความเข้าใจเดิมไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้วิญญาณพเนจร ไหว้เจ้า เจ้าคืออะไร คือเทพ แล้วไหว้เจ้ากันนั้น ไหว้ด้วยอะไร ด้วยของเซ่นต่างๆ เป็นต้น เพื่ออะไร เพื่อความเจริญของคนที่ไหว้ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้เพื่อแสดงความกตัญญู ไหว้ด้วยอะไร ด้วยของเซ่นต่างๆ มีเป็ด ไก่ ขนม และกระดาษเงิน กระดาษทอง เป็นต้น เพื่อให้บรรบุรุษได้รับสิ่งต่างที่ลูกหลานทำให้ไหว้วิญญาณพเนจร ด้วยของเซ่นต่างๆ เพื่อให้เขาได้รับอาหาร ด้วยความเข้าใจว่าเป็นวันประตูนรกเปิด เป็นต้น
ความเข้าใจที่ถูกต้องในทางพระพุทธศาสนา (สาร์ทจีน)
การไหว้เจ้าไหว้เจ้า ... เจ้าคืออะไร คือ เทพ เทพต้องการอาหารแบบมนุษย์ไหม.? หรือ เทพมีอาหารทิพย์อยู่แล้ว ไม่ต้องให้อาหารมนุษย์ก็ได้ (ดังข้อความในพระไตรปิฎก พรหมเทวสูตร)
การบูชาเทพคืออย่างไร? คือ ทำกุศลอุทิศผลบุญที่เราทำให้ ชื่อว่าบูชาเทพ (ข้อความใน ปาฏลิคามิยสูตร) การที่เราจะเจริญหรือไม่เจริญ อยู่ที่กุศลใช่ไหม? (สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของๆ ตน)
ระลึกถึงเทพอย่างไรจึงจะถูกต้อง? การได้เกิดเป็นเทพ เป็นผลมาจากกุศลกรรม และ คุณธรรมของเทพนั้นก็มี ศรัทธา ศีล เป็นต้น ดังนั้น การระลึกถึงเทพ คือ ระลึกถึงคุณธรรม ที่เป็นธรรมฝ่ายดี เช่น ศรัทธา ศีล เป็นต้น จึงเป็นการระลึกถึงเทพที่ถูกต้อง (เทวตานุสสติ)
การไหว้บรรพบุรุษ
การกตัญญูต่อบรรพบุรุษ คืออย่างไร จึงจะถูกต้อง?
การกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ คือ ทำกุศลแล้วอุทิศส่วนกุศลให้ (สิงคาลกสูตร) อาหารของมนุษย์ บุคคล (บรรพบุรุษ) ที่ล่วงลับไปแล้วทานได้ไหม? ... ไม่ได้ (อรรถกถาธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ)
การไหว้วิญญาณพเนจร
วิญญาณพเนจร มีจริงไหม? ... ไม่มีจริง ตายแล้วต้องเกิดทันที (ถ้ายังมีกิเลส) ไม่มีวิญญาณไปเร่ร่อน 7 วัน 15 วัน แสวงหาที่เกิด แต่ที่เราเห็นว่า เป็นคนนั้น คนนี้ที่ตายแล้ว นั่นเป็นภพภูมิอื่นที่เขาไปเกิดแล้ว เช่น เปรตที่ต้องการส่วนบุญจากการอุทิศส่วนกุศล จึงมาปรากฎตัวให้เห็น เป็นต้น
ประตูนรกเปิดได้ไหม? ... เปิดได้ บางครั้งบางคราว ต่อจากนั้น ก็อยู่ในนรกนั้นอีก (นรกขุมใกล้ๆ) อาหารของสัตว์นรกคืออะไร? ใช่อาหารของมนุษย์หรือเปล่า? ... ไม่ใช่ แต่มีอาหารของสัตว์นรกอยู่แล้ว
เรื่อง บุคคลที่ควรกราบไหว้สูงสุด
การกตัญญูที่ถูกต้อง สำหรับบุคคลที่ล่วงลับไปแล้ว คือ ทำบุญอุทิศกุศลไปให้
เทวดาก็เช่นกัน ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ และ ใครที่ควรเราไหว้? สูงสุด คือพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า เป็นบุคคลที่ควรกราบไหว้สูงสุด แม้แต่พรหม เทวดา มีพระอินทร์ เป็นต้น ก็ไหว้พระองค์ เพราะพระองค์เป็นบุคคลผู้เลิศครับ (ทุติยสักกนมัสนสูตร)
เรื่อง อาหารของเทพ ไม่ใช่อาหารแบบมนุษย์
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 133
ข้อความบางตอนจาก
พรหมเทวสูตร
ครั้งนั้นแล ท้าวสหัมบดีพรหมลอยอยู่ในอากาศ ได้กล่าวกะนางพราหมณีผู้มารดาของท่านพระพรหมเทวะด้วยคาถาทั้งหลายว่า ดูก่อนนางพราหมณี ท่านถือการบูชาด้วยก้อนข้าวแก่พรหมใด มั่นคงเป็นนิตย์ พรหมโลกของพรหมนั้นอยู่ไกลจากที่นี้ ดูก่อนนางพราหมณี ภักษาของพรหมไม่ใช่เช่นนี้ ท่านไม่รู้จักทางของพรหมทำไมจึงบ่นถึงพรหม.
เรื่อง การบูชาเทพคือทำบุญแล้วอุทิศกุศลให้
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 755
ข้อความบางตอนจาก
ปาฏลิคามิยสูตร
บุรุษชาติบัณฑิต ย่อมสำเร็จการอยู่ในประเทศใด พึงเชิญท่านผู้มีศีลสำรวมแล้ว ประพฤติพรหมจรรย์ ให้บริโภคในประเทศ นั้น ควรอุทิศทักษิณาทานเพื่อเทวดาผู้สถิตอยู่ในที่นั้นๆ เทวดาเหล่านั้น อันบุรุษชาติบัณฑิตนับถือบูชาแล้ว ย่อมนับถือบูชาบุรุษชาติบัณฑิตนั้น แต่นั้นย่อมอนุเคราะห์ บุรุษชาติบัณฑิตนั้น ประหนึ่งมารดาอนุเคราะห์บุตรบุคคลผู้อันเทวดาอนุเคราะห์แล้ว ย่อมเห็นความเจริญทุกเมื่อ.
เรื่อง การบูชาบรรพบุรุษคือ การทำบุญแล้วอุทิศกุศลให้
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ 88
ข้อความบางตอนจาก
สิงคาลกสูตร
[๑๙๙] ดูก่อนคฤหบดีบุตร มารดาบิดา เป็นทิศเบื้องหน้า อันบุตรธิดาพึงบำรุงด้วยสถาน ๕ คือ ด้วยตั้งใจว่า ท่านเลี้ยงเรามา เราจักเลี้ยงท่านตอบ ๑ จักรับทำกิจของท่าน ๑ จักดำรงวงศ์ตระกูล ๑ จักปฏิบัติตนให้เป็นผู้สมควรรับทรัพย์มรดก ๑ เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน ๑.