[คำที่ ๔o] ปาเถยฺย

 
Sudhipong.U
วันที่  31 พ.ค. 2555
หมายเลข  32160
อ่าน  952

ภาษาบาลี ๑ คำ คติธรรมประจำสัปดาห์  ปาเถยฺย

โดย อ.คำปั่น อักษรวิลัย

คำว่า ปาเถยฺย เป็นคำภาษาบาลีโดยตรง (อ่านตามภาษาบาลีว่า ปา - เถย (ออกเสียงเร็วๆ เป็น ไถ - ยะ)  มีคำแปลตามการวิเคราะห์ศัพท์ทางภาษาบาลีได้ว่า สิ่งที่เกื้อกูลในหนทาง ซึ่งก็คือเสบียงอันเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเดินทางนั่นเอง มุ่งหมายถึงทั้งเสบียงในการเดินทางโดยทั่วไป เช่น ข้าว อาหาร ที่จะเป็นประโยชน์ในการเดินทาง และยังมุ่งหมายถึงเสบียงในการเดินทาง คือ กุศล อีกด้วย ดังพระพุทธดำรัสที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกับอุบาสกคนหนึ่ง ว่า

 ดูก่อนอุบาสก ท่านเป็นคนแก่ มีสรีระแก่หง่อมเช่นกับใบไม้เหลือง, เสบียงทาง คือ กุศล เพื่อจะไปยังปรโลกของท่านยังไม่มี, ท่านจงทำที่พึ่งแก่ตน จงเป็นบัณฑิต อย่าเป็นคนพาล

(จาก...พระสุตตันตปิฎก  ขุททกนิกาย  คาถาธรรมบท)

ในสังยุตตนิกาย สคาถวรรค ปาเถยยสูตร เทวดาได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า อะไรย่อมรวบรวมไว้ซึ่งเสบียง?

พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสตอบว่า ศรัทธาย่อมรวบรวมไว้ซึ่งเสบียง

ในอรรถกถา ได้มีคำอธิบายไว้ว่า บุคคลยังศรัทธาให้เกิดขึ้นแล้ว ย่อมให้ทาน ย่อมรักษาศีล ย่อมทำอุโบสถกรรม (รักษาอุโบสถศีล) ด้วยเหตุนี้แหละ พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัสว่า ศรัทธาย่อมรวบรวมไว้ซึ่งเสบียง ดังนี้.


พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงโดยละเอียด โดยประการทั้งปวง ตลอด ๔๕ พรรษานั้น เป็นเครื่องเตือนพุทธบริษัททุกกาลสมัย ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง การที่จะเป็นผู้มีความเข้าใจถูกเห็นถูก ซึ่งจะเป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมทั้งหลาย ย่อมจะเป็นไปไม่ได้  ดังนั้น ในแต่ละวันจึงควรที่จะเป็นโอกาสของการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ เพราะเหตุว่าความเข้าใจที่ถูกต้องนี้เอง จะเป็นเครื่องชำระล้างขัดเกลากิเลสอกุศลทั้งหลาย ขัดเกลาความไม่รู้ให้ออกไปจากจิตใจได้อย่างแท้จริง ในทางตรงกันข้ามถ้าปล่อยให้ชีวิตในแต่ละวันดำเนินไปโดยที่ไม่ได้อบรมเจริญปัญญา โดยที่ไม่ได้สะสมเสบียงในการเดินทางคือกุศลทั้งหลายไว้เลย กล่าวได้ว่าเป็นการดำเนินชีวิตที่เต็มไปด้วยความประมาทมัวเมาอย่างยิ่ง เมื่อวันสุดท้ายของภพนี้ชาตินี้มาถึงก็จะจากโลกนี้ไปโดยที่ไม่สามารถจะขอร้องเพื่อที่จะหยุดพักสำหรับการเจริญกุศลได้เลย จะขอฟังพระธรรมก่อน จะขอให้ทานก่อนสัก ๒ -  ๓ วัน ก็เป็นไปไม่ได้  จะต้องจากไปด้วยความเป็นผู้ไม่มีที่พึ่ง มีแต่จะเต็มไปด้วยกิเลสอกุศลประการต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ยังวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏ์อย่างไม่มีวันจบสิ้น

เสบียงที่จะติดตามไปได้ ก็คือ กุศลทุกประการ ที่แต่ละคนได้สะสมไว้ ซึ่งจะเป็นเหตุให้เดินทางในสังสารวัฏฏ์อย่างไม่เดือดร้อน เพราะกุศล ให้ผลเป็นสุข ไม่นำความทุกข์มาให้ จนกว่าจะมีปัญญาเจริญขึ้นจนสามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอรหันต์ เมื่อนั้นก็จะไม่มีการเดินทางในสังสารวัฏฏ์อีกเลย เป็นผู้สิ้นทุกข์โดยประการทั้งปวง เพราะฉะนั้นแล้ว จึงควรอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้ไม่ประมาทในชีวิต ควรเป็นบัณฑิตด้วยการเจริญกุศลทุกประการ รวมทั้งฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมปัญญา ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ สะสมเป็นที่พึ่งต่อไปในภายหน้า  จนกว่าจะถึงกาละที่ไม่ต้องเดินทางในสังสารวัฏฏ์อีกต่อไป.  


อ่านคำอื่นๆ คลิกที่นี่ ... บาลี ๑ คำ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 27 ก.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ 

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
สิริพรรณ
วันที่ 24 มิ.ย. 2567

กราบนอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า

กราบขอบพระคุณยินดีในกุศลธรรมทานด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 24 มิ.ย. 2567

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ