[คำที่ ๕๓] อนฺโตปูติ

 
Sudhipong.U
วันที่  30 ส.ค. 2555
หมายเลข  32173
อ่าน  479

ภาษาบาลี ๑ คำ คติธรรมประจำสัปดาห์ "อนฺโตปูติ"

โดย อ.คำปั่น อักษรวิลัย

คำว่า อนฺโตปูติ เป็นคำภาษาบาลีโดยตรง มาจากคำ ๒ คำ คือ อนฺโต (ภายใน ในภายใน) รวมกับคำว่า ปูติ (เน่า) รวมกันแล้วแปลได้ว่า ผู้เน่าใน หรือผู้เน่าในภายใน มีอรรถที่ลึกซึ้งมาก เป็นเครื่องเตือนสำหรับผู้ที่มีกิเลสอยู่อย่างแท้จริง ดังข้อความบางตอนจาก สารัตถปกาสินี อรรถกถา สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค ปฐมทารุขันธสูตร ว่า

บทว่า อนฺโตปูติ (ผู้เน่าใน) ความว่า ชื่อว่า ความเป็นผู้เน่าใน เพราะเป็นความเน่าของคุณความดี (คือ ความดีไม่เกิดขึ้น มีแต่กุศลเกิดขึ้น)  แม้ของบุคคลผู้ไม่เน่า ในอาการ ๓๒ มีไต และหัวใจ เป็นต้น


ข้อความที่แสดงถึงบุคคลผู้เน่าในนั้น เป็นข้อความโดยตรงจากพระธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนา ที่มีประโยชน์มาก เพราะเหตุว่าแสดงให้เห็นถึงชีวิตประจำวันจริงๆ ชี้ให้เห็นสภาพธรรมของแต่ละบุคคลตามความเป็นจริงว่า แม้ว่าเป็นผู้ที่มีอวัยวะภายใน ไม่เน่า คือ มีหัวใจ ปอด ตับ ไต เป็นต้น ยังดีอยู่ แต่ก็ได้ชื่อว่า เป็นผู้เน่าในได้ ในขณะที่จิตเป็นกุศล, ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่  จิตก็เน่าได้ แม้ร่างกายจะไม่เน่า ซึ่งก็ไม่พ้นจากความประพฤติเป็นไปของปุถุชนทุกคนในขณะนี้ ไม่มีเว้นใครเลย ทุกขณะที่จิตเป็นกุศล นั่นก็คือ ผู้เน่าใน แต่ละบุคคลจะต้องเป็นผู้ที่รู้ตัวเองตามความเป็นจริง ต้องเป็นผู้ตรง อาจหาญที่จะพิจารณาตัวเอง พร้อมทั้งควรอย่างยิ่งที่จะมีศรัทธาน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมโดยเห็นโทษของกุศล แล้วตั้งใจที่จะขัดเกลา ไม่ใช่ตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงละเลย มิฉะนั้นแล้วข้อความดังกล่าวนี้จะไม่มีประโยชน์เลย ที่แสดงให้เห็นว่า จิตเน่า แม้ร่างกายไม่เน่า

ที่จะเป็นความเน่า และมีกลิ่นที่ไม่ดีออกมาอย่างเห็นได้ชัด คือ ในขณะที่เป็นทุจริต ทางกายบ้าง ทางวาจาบ้าง แสดงให้เห็นว่ากว่าที่กายทุจริต วจีทุจริต จะเกิดนั้น กุศลจิตภายในเกิดขึ้นมากมายทีเดียว เช่น บางคนอาจจะคิดชั่วอยู่ในใจ โดยยังไม่ได้พูดหรือกระทำ ซึ่งก็เป็นกุศลวิตก (ตรึกไปในกุศล) แล้ว ในขณะนั้นๆ แต่เมื่อคิดมากเข้า สะสมมากเข้า กุศลมีกำลังขึ้น ก็ทำให้เกิดกายทุจริต วจีทุจริตได้ กำลังของกุศลมีมากแล้วในขณะนั้น จึงถึงขั้นล่วงเป็นทุจริตกรรมประการต่างๆ เป็นไปเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อน เพราะฉะนั้น วันหนึ่งๆ ถ้าเห็นกายทุจริต วจีทุจริตเมื่อใด เมื่อนั้น ก็จะรู้ได้ว่ากุศลวิตกเกิดขึ้นมากมายนับไม่ถ้วน จิตเน่าแล้วเน่าอีก เพราะกุศลธรรมไม่ได้เกิดขึ้นเลย

จึงแสดงให้เห็นตามความเป็นจริงว่า สำหรับบุคคลผู้ที่ยังมีกิเลสทุกคน ควรที่จะได้พิจารณาข้อความดังกล่าวนี้ เพื่อจะได้ขัดเกลากิเลสของตนเอง ถ้ารู้สึกตัวว่าจิตเน่าซึ่งน่ารังเกียจมากทีเดียว ก็จะต้องใช้ยารักษา คือ กุศลธรรม มิฉะนั้นแล้ว ก็จะไม่สามารถทำให้จิตที่เน่ากลับเข้าสู่สภาวะปกติได้ ดังนั้น จึงควรอย่างยิ่งที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สะสมปัญญาไปตามลำดับ และเจริญกุศลทุกประการ  สะสมเป็นอุปนิสัยที่ดีต่อไป ซึ่งจะเป็นไปเพื่อรักษาจิตที่เน่าให้เป็นจิตที่บริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสได้ในที่สุด


อ่านคำอื่นๆ คลิกที่นี่ ... บาลี ๑ คำ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 10 ต.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ 

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ